- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Friday, 19 January 2018 23:13
- Hits: 30644
เด็กแนว - NDR 4 บาท น้อยไปป๊ะ
การประกาศเข้าซื้อกิจการ FKRMM จาก CRSB สัญชาติมาเลเซีย โดยการออกหุ้น PP จำนวน 55 ล้านหุ้นราคา 4 บาท โดยบริษัทดังกล่าวนี้คาดว่าจะมีกำไรปีละประมาณ 50 ล้านบาท การเข้าซื้อกิจการก็จะบันทึกกำไรมาเป็นของ NDR ทั้งหมด นั่นหมายความว่ากำไรของบริษัทในปี 61 จะสูงขึ้นเป็น 90 ล้านบาทโดยประมาณ โตขึ้น 300% ขนาดนั้นเลย
ประเด็นของการเล่นก็คือราคาหุ้นในกระดานควรจะขึ้นไปสู่ราคา 4 บาทตามราคา PP ที่ออกไปจ่ายค่าซื้อกิจการ นอกจากนี้กำไรระดับดังกล่าวคิดเป็นค่า PE เพียง 9.1 เท่า และนักวิเคราะห์ให้เป้าไว้ที่ 4.56 บาท ธุรกิจอนาคตจะมีตลาดกว้างขึ้น ลดคู่แข่ง และต้นทุนต่ำลง ยอดขายพุ่ง ดูดีไปซะทุกทาง ขณะที่กราฟควรจะทดสอบ 4.20 บาท พื้นฐานเปลี่ยนไปโดยเกือบสิ้นเชิง หุ้นแบบนี้ ราคา 4 บาท ไม่ใช่คำตอบ มองยาวๆ ราคาไปไกลๆ
การประกาศเข้าซื้อกิจการ FKRMM จาก CRSB สัญชาติมาเลเซีย โดยการออกหุ้น PP จำนวน 55 ล้านหุ้นราคา 4 บาท โดยบริษัทดังกล่าวนี้คาดว่าจะมีกำไรปีละประมาณ 50 ล้านบาท การเข้าซื้อกิจการก็จะบันทึกกำไรมาเป็นของ NDR ทั้งหมด นั่นหมายความว่ากำไรของบริษัทในปี 61 จะสูงขึ้นเป็น 90 ล้านบาทโดยประมาณ โตขึ้น 300% ขนาดนั้นเลย
ประเด็นของการเล่นก็คือราคาหุ้นในกระดานควรจะขึ้นไปสู่ราคา 4 บาทตามราคา PP ที่ออกไปจ่ายค่าซื้อกิจการ นอกจากนี้กำไรระดับดังกล่าวคิดเป็นค่า PE เพียง 9.1 เท่า และนักวิเคราะห์ให้เป้าไว้ที่ 4.56 บาท ธุรกิจอนาคตจะมีตลาดกว้างขึ้น ลดคู่แข่ง และต้นทุนต่ำลง ยอดขายพุ่ง ดูดีไปซะทุกทาง ขณะที่กราฟควรจะทดสอบ 4.20 บาท พื้นฐานเปลี่ยนไปโดยเกือบสิ้นเชิง หุ้นแบบนี้ ราคา 4 บาท ไม่ใช่คำตอบ มองยาวๆ ราคาไปไกลๆ
- BKD ซ่อนอะไรไว้
เมื่อปีก่อนกำไรรุนแรง จากการขายที่ดินกรุงเทพกรีฑา หลังจากนั้นราคาหุ้นก็หมดสภาพ ไร้ Story ใหม่ แต่ตอนนี้สิ่งที่เด็กแนวเลือกมาแนะนำเพราะมองฐานราคาที่ลึกมาก และค่า PE เพียง 8 เท่าได้เปรียบหุ้นตัวอื่นอย่างมาก
BKD มีจุดเด่นเรื่องการรับงานตกแต่ง ล่าสุดคว้างานห้องประชุม กทม. กว่า 320 ล้านบาท ส่วนการบุกแถบประเทศเพื่อนบ้านมีลุ้นคว้างานโรงแรมขนาดใหญ่มูลค่าพันล้านไม่ยาก เด็กแนวมองว่า BKD มีอนาคตสดใส เพราะหากย้อนไปดูรุ่นพี่อย่าง PREB เมื่อหลายปีก่อนก็อย่างนี้ แต่ไปบุก อสังหาเต็มรูปแบบทำให้พื้นฐานเปลี่ยนไป ราคายกขึ้นเป็นสองหลักในเวลาต่อมา และเชื่อว่าลักษณะไม่ต่างกัน ดังนั้นให้จับตาสิ่งดีๆ ที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นกับหุ้นในระดับราคาต่ำมาก สะสมไว้คือไม้แรกๆ แนวต้านกราฟ 3.20 บาท ส่งสัญญาณ Bottom out แล้วนะคร๊าบบ
เมื่อปีก่อนกำไรรุนแรง จากการขายที่ดินกรุงเทพกรีฑา หลังจากนั้นราคาหุ้นก็หมดสภาพ ไร้ Story ใหม่ แต่ตอนนี้สิ่งที่เด็กแนวเลือกมาแนะนำเพราะมองฐานราคาที่ลึกมาก และค่า PE เพียง 8 เท่าได้เปรียบหุ้นตัวอื่นอย่างมาก
BKD มีจุดเด่นเรื่องการรับงานตกแต่ง ล่าสุดคว้างานห้องประชุม กทม. กว่า 320 ล้านบาท ส่วนการบุกแถบประเทศเพื่อนบ้านมีลุ้นคว้างานโรงแรมขนาดใหญ่มูลค่าพันล้านไม่ยาก เด็กแนวมองว่า BKD มีอนาคตสดใส เพราะหากย้อนไปดูรุ่นพี่อย่าง PREB เมื่อหลายปีก่อนก็อย่างนี้ แต่ไปบุก อสังหาเต็มรูปแบบทำให้พื้นฐานเปลี่ยนไป ราคายกขึ้นเป็นสองหลักในเวลาต่อมา และเชื่อว่าลักษณะไม่ต่างกัน ดังนั้นให้จับตาสิ่งดีๆ ที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นกับหุ้นในระดับราคาต่ำมาก สะสมไว้คือไม้แรกๆ แนวต้านกราฟ 3.20 บาท ส่งสัญญาณ Bottom out แล้วนะคร๊าบบ
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองดัชนีไม่ไปไหน!
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดลบด้วย % มากกว่า Spot ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 2.71 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.0 จุด เกือบเท่ากับ Theory Basis ที่ -2.96 จุด ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.1 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.40 จุด เท่ากับ Theory Spread พอดี สะท้อนมุมมองเป็นกลางทั้งในระยะสั้น (3 เดือน) และระยะกลาง (6 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.59x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.39x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.05x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.01x ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 235 ล้านบาท แต่กลับมา Net Short 9,034 สัญญา ใน Index Futures โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 10,865 ล้านบาท
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดลบด้วย % มากกว่า Spot ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 2.71 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.0 จุด เกือบเท่ากับ Theory Basis ที่ -2.96 จุด ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.1 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.40 จุด เท่ากับ Theory Spread พอดี สะท้อนมุมมองเป็นกลางทั้งในระยะสั้น (3 เดือน) และระยะกลาง (6 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.59x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.39x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.05x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.01x ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 235 ล้านบาท แต่กลับมา Net Short 9,034 สัญญา ใน Index Futures โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 10,865 ล้านบาท
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: พักฐานขาขึ้น รอซื้อเมื่อย่อ!!!
เมื่อวานนี้ S50H18 เปิดบวกแล้วแกว่งลง หลังชนแนวต้านกรอบบน Uptrend Channel ที่ 1,192 จุด ส่งผลให้เมื่อวานนี้ปิดลบ 9.9 จุด จนราคาปัจจุบันของ S50H18 หลุดแนวรับค่าเฉลี่ย 5 วัน (EMA) ที่ 1,180.7 จุด ซึ่งก่อนหน้านี้เราให้ไว้เป็นจุด Trailing Stop นอกจากนี้จากกราฟรายวันส่วนต่างระหว่างค่า MACD และค่า Signal เริ่มบีบแคบลงซึ่งแสดงให้เห็นถึงเทรนด์ขาขึ้นที่เริ่มอ่อนแรง โดยมองว่าหากวันนี้ S50H18 ยังไม่สามารถกลับมายืนเหนือค่าเฉลี่ย 5 วัน จะทำให้สัปดาห์หน้าดัชนีจะมีแนวโน้มพักฐานต่อ โดยคาดจะกลับมาแกว่งในกรอบ 1,160-1,180 จุด ในทางกลับกันหากยืนเหนือค่าเฉลี่ย 5 วันได้จะทำให้โมเมนตัมขาขึ้นกลับมาดูดี มีโอกาสไต่ระดับขึ้นต่อ โดยมีแนวต้าน 1,192 จุด และ 1,210 จุด ตามลำดับ
เมื่อวานนี้ S50H18 เปิดบวกแล้วแกว่งลง หลังชนแนวต้านกรอบบน Uptrend Channel ที่ 1,192 จุด ส่งผลให้เมื่อวานนี้ปิดลบ 9.9 จุด จนราคาปัจจุบันของ S50H18 หลุดแนวรับค่าเฉลี่ย 5 วัน (EMA) ที่ 1,180.7 จุด ซึ่งก่อนหน้านี้เราให้ไว้เป็นจุด Trailing Stop นอกจากนี้จากกราฟรายวันส่วนต่างระหว่างค่า MACD และค่า Signal เริ่มบีบแคบลงซึ่งแสดงให้เห็นถึงเทรนด์ขาขึ้นที่เริ่มอ่อนแรง โดยมองว่าหากวันนี้ S50H18 ยังไม่สามารถกลับมายืนเหนือค่าเฉลี่ย 5 วัน จะทำให้สัปดาห์หน้าดัชนีจะมีแนวโน้มพักฐานต่อ โดยคาดจะกลับมาแกว่งในกรอบ 1,160-1,180 จุด ในทางกลับกันหากยืนเหนือค่าเฉลี่ย 5 วันได้จะทำให้โมเมนตัมขาขึ้นกลับมาดูดี มีโอกาสไต่ระดับขึ้นต่อ โดยมีแนวต้าน 1,192 จุด และ 1,210 จุด ตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: ปิด Long S50H18 เพราะปัจจุบันหลุดจุด Trailing Stop แนวรับค่าเฉลี่ย 5 วัน (EMA) ที่ 1,180.7 จุด พร้อมกับ กลับมา Wait&See รอซื้อกลับเมื่อดัชนีพักฐาน โดยคาดจะกลับมาแกว่งในกรอบ 1,160-1,180 จุด
Outright Trading: ปิด Long S50H18 เพราะปัจจุบันหลุดจุด Trailing Stop แนวรับค่าเฉลี่ย 5 วัน (EMA) ที่ 1,180.7 จุด พร้อมกับ กลับมา Wait&See รอซื้อกลับเมื่อดัชนีพักฐาน โดยคาดจะกลับมาแกว่งในกรอบ 1,160-1,180 จุด
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : สัญญาณเตือนปรับฐาน
SET ผันผวนมากตลอดวัน เนื่องจากการเกิด Overbought และสัญญาณเชิงลบในกราฟแท่งเทียน ส่งผลให้แรงซื้อ และขายปะทะกันตลอดวัน การอ่อนตัวเป็นไปตามที่คาดคือเปิดสูงและปิดต่ำ แต่ปิดลึกเกินทำให้แท่งเทียนเกิด Engulfing และมีความเสี่ยงเพิ่มเติมหาก MACD ตัดลง หากปิดต่ำกว่า 1,818 จุดจะทำให้สัปดาห์หน้าปรับฐานตลอดสัปดาห์
กลยุทธ์
1. ระมัดระวังการเข้าซื้อต้นตลาดเมื่อ SET เปิดบวก
2. แบ่งขายบางส่วนช่วงดีดขึ้น และรอย่อตัวตั้งรับ
3. กำหนดจุด Stop Profit 1,810 จุด
1. ระมัดระวังการเข้าซื้อต้นตลาดเมื่อ SET เปิดบวก
2. แบ่งขายบางส่วนช่วงดีดขึ้น และรอย่อตัวตั้งรับ
3. กำหนดจุด Stop Profit 1,810 จุด
บทสรุปการลงทุน:
แนวโน้มผันผวน และมีโอกาสย่อตัว
SET Closed: 1,819.32
Support: 1,800 1,810
Resistant: 1,825 1,835
แนวโน้มผันผวน และมีโอกาสย่อตัว
SET Closed: 1,819.32
Support: 1,800 1,810
Resistant: 1,825 1,835
BR Follow Buy
ราคาปิด 7.45 บาท
แนวรับ 7.35 บาท
แนวต้าน: 7.80 บาท
Stop Loss : 7.30 บาท
ราคาปิด 7.45 บาท
แนวรับ 7.35 บาท
แนวต้าน: 7.80 บาท
Stop Loss : 7.30 บาท
กราฟ มีโครงสร้างเชิงบวกแบบ W-shape อีกทั้ง MACD ไต่ระดับขึ้นส่งสัญญาณ Buy signal จะทำให้ราคามีโอกาสทดสอบ 7.80 บาทได้ "แนะนำซื้อ"
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: สัญญาณเตือนปรับฐาน
Trading Idea: BR
เด็กแนว: NDR , BKD
AECS Daily Focus
Technical: สัญญาณเตือนปรับฐาน
Trading Idea: BR
เด็กแนว: NDR , BKD
Connect the World- (P.2)
จับตาการอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสหรัฐฯ คืนนี้
จับตาการอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสหรัฐฯ คืนนี้
Market Outlook
วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,810-1,830 จุด โดยมองดัชนียังมีโอกาสพักฐานต่อ
วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,810-1,830 จุด โดยมองดัชนียังมีโอกาสพักฐานต่อ
Market Factors
(-) ดัชนี DJIA ปิด -0.37DoD หลังกังวลสภาคองเกรสสหรัฐฯ อาจไม่สามารถผ่านกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ทันเส้นตายในวันนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาล
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิดลดลง 2 เซนต์ หลัง EIA เผยการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวขึ้น
(+) สภาธุรกิจตลาดไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 153.94 เพิ่มขึ้น 2.08% จากการฟื้นตัวของ ศก.ไทย เงินทุนไหลเข้า และผลประกอบการของ บจ.
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ อาทิ ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค.และติดตามการเจรจาขยายเพดานหนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการขยายระยะเวลาใช้งบประมาณฉุกเฉินเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาชัตดาวน์ รวมทั้งตัวเลขส่งออกไทย ธ.ค. 60
(-) ดัชนี DJIA ปิด -0.37DoD หลังกังวลสภาคองเกรสสหรัฐฯ อาจไม่สามารถผ่านกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ทันเส้นตายในวันนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาล
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิดลดลง 2 เซนต์ หลัง EIA เผยการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวขึ้น
(+) สภาธุรกิจตลาดไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 153.94 เพิ่มขึ้น 2.08% จากการฟื้นตัวของ ศก.ไทย เงินทุนไหลเข้า และผลประกอบการของ บจ.
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ อาทิ ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค.และติดตามการเจรจาขยายเพดานหนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการขยายระยะเวลาใช้งบประมาณฉุกเฉินเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาชัตดาวน์ รวมทั้งตัวเลขส่งออกไทย ธ.ค. 60
Investment Strategy
เราประเมินเป้าหมาย SET Index ปี 2561 อยู่ในกรอบ 1,897 - 1,953 จุด โดยสัปดาห์นี้มองดัชนีเปิดสูงก่อนจะย่อตัวในระยะต่อมา ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว/Let Profit Run" ในหุ้น 4 ธีมหลัก ดังนี้
1) หุ้น BIG Cap. ที่คาดปีนี้โตดี ได้แก่ PTT, PTTEP, PTTGC, KBANK, ADVANC, AOT
2) หุ้น High Div. Yield ซึ่งคาด ก.พ. ปันผลเกิน 4% ได้แก่ TMT, KKP, TISCO, SC, AIT
3) หุ้นโรงแรมและค้าปลีก ซึ่งได้อานิสงส์จากมาตรการเที่ยวเมืองรอง, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น (ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย, ขี้นค่าแรงขั้นต่ำ) ได้แก่ MINT, ERW, BJC, ROBINS
4) หุ้นกลุ่มรับเหมาซึ่งได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐ ได้แก่ CK,STEC, UNIQ, SEAFCO
เราประเมินเป้าหมาย SET Index ปี 2561 อยู่ในกรอบ 1,897 - 1,953 จุด โดยสัปดาห์นี้มองดัชนีเปิดสูงก่อนจะย่อตัวในระยะต่อมา ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว/Let Profit Run" ในหุ้น 4 ธีมหลัก ดังนี้
1) หุ้น BIG Cap. ที่คาดปีนี้โตดี ได้แก่ PTT, PTTEP, PTTGC, KBANK, ADVANC, AOT
2) หุ้น High Div. Yield ซึ่งคาด ก.พ. ปันผลเกิน 4% ได้แก่ TMT, KKP, TISCO, SC, AIT
3) หุ้นโรงแรมและค้าปลีก ซึ่งได้อานิสงส์จากมาตรการเที่ยวเมืองรอง, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น (ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย, ขี้นค่าแรงขั้นต่ำ) ได้แก่ MINT, ERW, BJC, ROBINS
4) หุ้นกลุ่มรับเหมาซึ่งได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐ ได้แก่ CK,STEC, UNIQ, SEAFCO
Fundamental Reports
ERW (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรสุทธิยังโตเด่น 45.8%YoY และหนุนปี 60 คาดกำไรโต 43.0%YoY หลังธุรกิจโรงแรมยังสดใสตามภาวะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง ส่วนปี 61 คาดกำไรโตต่อ 14.5%YoY หลังคาดได้รับอานิสงส์เพิ่มจากมาตรการท่องเที่ยวเมืองรองและยังมีแผนขยายเครือข่ายต่อเนื่อง + ยังมี Upside8.1%
ICHI (BUY@11): ช่วง 4Q60 คาดพลิกกำไร 62.6 ลบ. จากขาดทุน 55.3 ลบ. ในช่วง 4Q59 จากแนวโน้มสดใสของยอดขายเครื่องดื่มที่ส่งออกไปยังตลาดCLMV บวกกับกำลังซื้อในไทยเริ่มดีขึ้นทำให้ปี 60 คาดกำไรหดเพียง 22.8%YoY แต่จะพลิกโต70.8%YoY ในปี 61 จากโมเมนตัมตลาดส่งออกที่ดีและแผนติดตั้งเครื่องจักรใหม่เพื่อลดค่าใช้จ่าย OEM + มีUpside 17% พร้อมกับคาดให้ Div.Yield ปี 60 ราว 0.9% จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ"
ERW (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรสุทธิยังโตเด่น 45.8%YoY และหนุนปี 60 คาดกำไรโต 43.0%YoY หลังธุรกิจโรงแรมยังสดใสตามภาวะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง ส่วนปี 61 คาดกำไรโตต่อ 14.5%YoY หลังคาดได้รับอานิสงส์เพิ่มจากมาตรการท่องเที่ยวเมืองรองและยังมีแผนขยายเครือข่ายต่อเนื่อง + ยังมี Upside8.1%
ICHI (BUY@11): ช่วง 4Q60 คาดพลิกกำไร 62.6 ลบ. จากขาดทุน 55.3 ลบ. ในช่วง 4Q59 จากแนวโน้มสดใสของยอดขายเครื่องดื่มที่ส่งออกไปยังตลาดCLMV บวกกับกำลังซื้อในไทยเริ่มดีขึ้นทำให้ปี 60 คาดกำไรหดเพียง 22.8%YoY แต่จะพลิกโต70.8%YoY ในปี 61 จากโมเมนตัมตลาดส่งออกที่ดีและแผนติดตั้งเครื่องจักรใหม่เพื่อลดค่าใช้จ่าย OEM + มีUpside 17% พร้อมกับคาดให้ Div.Yield ปี 60 ราว 0.9% จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ"
Market Talk and News
NDR ([email protected]): แม้ปี 60 คาดกำไรหด58.9%YoY จากสถานการณ์ต้นทุนยางแกว่ง ผันผวนแต่ล่าสุดผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนเข้าซื้อกิจการ FKRMM เพื่อรุกตลาดยางรถจักรยานยนต์ที่มาเลเซียคาดหนุนกำไรจะพลิกกลับมาโตเด่น 283.4%YoY ในปี 61 + ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 18.7% พร้อมกับคาดให้ Div. Yield ปีนี้ราว 1.1% จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"
NDR ([email protected]): แม้ปี 60 คาดกำไรหด58.9%YoY จากสถานการณ์ต้นทุนยางแกว่ง ผันผวนแต่ล่าสุดผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนเข้าซื้อกิจการ FKRMM เพื่อรุกตลาดยางรถจักรยานยนต์ที่มาเลเซียคาดหนุนกำไรจะพลิกกลับมาโตเด่น 283.4%YoY ในปี 61 + ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 18.7% พร้อมกับคาดให้ Div. Yield ปีนี้ราว 1.1% จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BCH , TPCH
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BCH , TPCH
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO4677