- Details
- Category: บลจ.
- Published: Friday, 15 December 2017 16:24
- Hits: 2214
HREIT เพิ่มทุนครั้งที่ 1 มูลค่าไม่เกิน 1,690 ล้านบาท เสร็จสิ้นปีนี้ เปิดให้สิทธิผู้ถือหน่วยเดิมจอง 15-26 ธ.ค.นี้ ที่ราคาเสนอขาย 8.20- 8.30 บาท
บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) กำหนดให้ผู้ถือหน่วยเดิมใช้สิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์ 8.5438 หน่วย ทรัสต์เดิมต่อ 1 หน่วยทรัสต์ ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติม ในราคา 8.20-8.30 บาทต่อหน่วย พร้อมเปิดจองซื้อ 15-26 ธ.ค.2560 ด้านผู้บริหาร 'กาญจนา เอื้อโอบอ้อม'และคาดว่าจะสามารถเริ่มซื้อขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนได้ในต้นปีหน้า
นางสาวกาญจนา เอื้อโอบอ้อม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) เปิดเผยว่า ภายหลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.)ได้อนุญาตให้เสนอขายหน่วยทรัสต์ ของกองทรัสต์ HREIT และแบบแสดงรายการข้อมูล / ร่างหนังสือชี้ชวน สำหรับการเสนอขายหน่วยทรัสต์ในการเพิ่มทุน ครั้งที่ 1 มูลค่าไม่เกิน 1,690 ล้านบาท ในช่วงที่ผ่านมา โดยการจัดสรรหน่วยทรัสต์ที่ออกขายในการเพิ่มทุน ครั้งที่ 1 จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน จำนวนไม่เกิน 133,280,000 หน่วย ในช่วงราคาการเสนอขายเบื้องต้น 8.20-8.30 บาทต่อหน่วย ซึ่งผู้สนใจจองซื้อหน่วยทรัสต์จะต้องชำระราคาจองซื้อที่ราคา 8.30 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ ได้จัดสรรหน่วยทรัสต์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของหน่วยทรัสต์ที่จะมีการออกและเสนอขายในการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อเสนอขายให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ในวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ในอัตราส่วน 8.5438 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 1 หน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติม และหน่วยทรัสต์ส่วนที่เหลือจะเสนอขายให้แก่ เหมราช และ/หรือกลุ่มบุคคลเดียวกันของเหมราช และผู้มีอุปการคุณของผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์
โดยกำหนดระยะเวลาการจองซื้อหน่วยทรัสต์ HREIT ของผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมประเภทบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล สามารถจองซื้อในวันที่ 15 และ 18-21 ธันวาคม 2560 ส่วนผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมประเภทนักลงทุนสถาบันที่มิได้นำส่งใบ Book building จองซื้อในวันที่ 15 และ 18-21 ธันวาคม 2560 โดยผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมประเภทนักลงทุนสถาบันที่นำส่งใบ Book building และเหมราช และ/หรือกลุ่มบุคคลเดียวกันของเหมราช สามารถ จองซื้อได้ในวันที่ 25 – 26 ธันวาคม 2560 ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา
นอกจากนี้ คาดว่าจะสามารถเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม และเริ่มซื้อขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนได้ในต้นปีหน้าซึ่งหลังจากที่มีการลงทุนในทรัพย์สินใหม่ในครั้งนี้ จะส่งผลให้ขนาดทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ HREIT โตเกือบ 10,000 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท
สำหรับ การเพิ่มทุนในครั้งนี้ของกองทรัสต์ HREIT จะเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารโรงงานและคลังสินค้าสำร็จรูปที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช และเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค รวมจำนวน 5 โครงการ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นหลัก ประกอบด้วยโครงการนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) (ESIE) โครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด (HESIE) โครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี (HCIE) โครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 4 (HLP 4) และโครงการเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชสระบุรี (HSIL)โดยมีพื้นที่เช่าอาคารทั้งหมดในส่วนที่กองทรัสต์ HREIT จะลงทุนเพิ่มเติม ประมาณ 55,131 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ลงทุนแล้ว 261,314 ตารางเมตรในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และระยอง ทำให้กองทรัสต์ HREIT จะมีพื้นที่เช่าหลังจากที่ลงทุนเพิ่มเติมแล้วรวม 316,445 ตารางเมตร
“กองทรัสต์ HREIT จะลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมไม่เกิน 1,690 ล้านบาท เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าระยะยาวในอาคารโรงงาน และคลังสินค้าสำเร็จรูป 30 ปี และสิทธิการต่อสัญญาเช่าอีก 30 ปี รวมเป็น 60 ปี โดยพื้นที่ทรัพย์สินที่จะลงทุนทั้งสิ้น 55,131 ตร.ม. ประกอบด้วยอาคารโรงงานสำเร็จรูป 47,552 ตร.ม. และอาคารคลังสินค้าสำเร็จรูป 7,579 ตร.ม. ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณภาพสูง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชภายใต้พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ (EEC) และเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชสระบุรี ซึ่งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ตอนบนของกรุงเทพฯ ที่มีผู้เช่าเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยอาคารโรงงาน และคลังสินค้าดังกล่าวมีอายุเฉลี่ยประมาณ 5.26 ปี เท่านั้น นอกจากนั้นในการระดมทุนซื้อทรัพย์สินในครั้งนี้ จะมาจากการขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมไม่เกิน 133.28 ล้านหน่วย และการกู้ยืมเงินระยะยาวจากสถาบันการเงินไม่เกิน 600 ล้านบาท ” นางสาวกาญจนา กล่าว
สำหรับ ทรัพย์สินที่ลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ เป็นทรัพย์สินที่มีคุณภาพดี และมีอัตราการเช่าพื้นที่ 100% ของพื้นที่เช่า มีศักยภาพในการสร้างรายได้ และเจ้าของทรัพย์สินจะชดเชยรายได้จากค่าเช่า และค่าบริการในกรณีผู้เช่าออกและชดเชยรายได้ส่วนต่างจากอัตราค่าเช่าขั้นต่ำเป็นเวลา 3 ปี นับจากวันที่กองทรัสต์ HREIT เข้าลงทุน ซึ่งการชดเชยรายได้ดังกล่าว จะช่วยลดความผันผวนในการดำเนินธุรกิจ และสร้างความมั่นคงของผลประกอบการของกองทรัสต์ HREIT และจะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายฝ่ายทุน (CAPEX) ให้แก่ทรัพย์สินที่กองทรัสต์ HREIT ที่ลงทุนเพิ่มเติมเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะเพิ่มผลประโยชน์ให้กับกองทรัสต์ HREIT โดยจะเสริมให้รายได้ค่าเช่าของกองทรัสต์ HREIT มีความมั่นคงเพิ่มขึ้น และกระจายความเสี่ยงของการจัดหาผลประโยชน์ เพิ่มความหลากหลายของผู้เช่าอันเป็นแหล่งที่มาของรายได้ ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพารายได้จากผู้เช่ารายเดิม