WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTAMชวนดา หาญรตนกลKTAM เพิ่มทางเลือกเปิดขาย KT25/75 เน้นสะสมมูลค่า จับกลุ่มนักลงทุนรับโอกาสผลตอบแทนสูงกว่าตราสารหนี้

       นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย คอนเซอเวทีฟ  25/75 ( KT-25/75  Class R ) เป็นอย่างสูง โดยเฉพาะการจำหน่ายผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย  ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากมาย ส่งผลให้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ประมาณ 1 ,700 ล้านบาท ซึ่งกองทุนเปิดจำหน่ายครั้งแรกในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  ในโอกาสนี้  บริษัทจึงเปิดจำหน่ายเพิ่มใน Class A   ประเภทสะสมมูลค่า ( KT-25/75 Class A  )  เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุน ได้เลือกลงทุนตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล

    กองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นในประเทศไม่เกิน 25% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี ทั้งนี้ สัดส่วนการลงทุนดังกล่าว ช่วยรักษาระดับความสม่ำเสมอของผลตอบแทน  และเพิ่มศักยภาพการเติบโตของผลตอบแทน จากการลงทุนในหุ้นสูงสุดไม่เกิน 25%  โดยไม่มีข้อจำกัดถึงขนาดและประเภทหุ้นที่สามารถลงทุนได้  เพื่อมุ่งเน้นเป้าหมายการสร้างผลตอบแทนที่ดี กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลาง  ต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้

      นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ ทั้งในและต่างประเทศ ให้กับนักลงทุนได้เลือกลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 179 ( KTFF179 ) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2560 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ  ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ซึ่งประกอบไปด้วย  เงินฝากประจำ  Bank  of china, Agricultural Bank of  China  , Abu Dhabi Commercial Bank  PJSC บัตรเงินฝาก China Construction Bank , Bank of Communications  และ Industrial and  Commercial  Bank of China Ltd.ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 19%  ยกเว้น  Abu Dhabi Commercial Bank PJSC  ในสัดส่วน5 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากการลงทุนประมาณ 1.35% ต่อปี 

         ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6 เดือน3 (KTSIV6M3)เป็นกองทุนประเภท Roll Over vkp6 6  เดือน เสนอขายถึงวันที่ 15  ธันวาคม 2560 อายุ 6 เดือน  เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประกอบด้วย ตั๋วแลกเงิน  บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด เงินฝากประจำ  ธนาคารทิสโก้  จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 18% ตั๋วแลกเงิน บริษัทราชธานีลิสชิ่ง  จำกัด (มหาชน) 15%  และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 49% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ1.15%ต่อปี  ซึ่งทั้ง 2 กองทุนนี้  บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี

      อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบ จากปริมาณการซื้อขายที่เบาบางและขาดปัจจัยใหม่ๆในตลาด นักลงทุนต่างชาติในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นยอดขายสุทธิจำนวน 572 ล้านบาท ส่วน อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงจากการปรับขึ้น Fed Fund Rate ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีโดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงาน การผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภา และการผ่านร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราวของสภาคองเกรส  อย่างไรก็ตาม  เริ่มมีความเสี่ยงทางการเมืองเพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ กรณีทรัมป์รับรองเยรูซาเร็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.79% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 2.14% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.39% ต่อปี

        ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง  ก่อนตัดสินใจลงทุน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!