- Details
- Category: บลจ.
- Published: Wednesday, 29 November 2017 16:26
- Hits: 3851
KTAM เปิด IPO กองทุน KT-CHINA RMF 30 พ.ย.-12 ธ.ค.นี้ คาดเศรษฐกิจจีนโตต่อเนื่องเหมาะลงทุนระยะยาว
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทมไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ ( KT-China ) ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ คาดว่ายังสามารถเติบโตต่อไปได้อีกในระยะยาว ซึ่งเหมาะสำหรับการลงทุนในกองทุน RMF บริษัทจึงเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม ไชน่า อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-China RMF )ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน -12 ธันวาคม 2560 มูลค่า 1,000 ล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท กองทุนมีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน BGF China Fund (กองทุนหลัก) เพียงกองเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม หรือตามอัตราส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด
กองทุน BGF China Fund(กองทุนหลัก) มีวัตถุประสงค์ เพื่อมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) และจะลงทุนอย่างน้อย70% ของสินทรัพย์รวมของกองทุนในตราสารทุนของบริษัทที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจีนหรือเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจในจีนที่จดทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ โดยกองทุนจะเน้นการลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในรูปเงินสกุลฮ่องกงดอลล่าร์(HKD) และกองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการปฏิรูปตามแนวทางเศรษฐกิจใหม่ของจีน ( China ‘s New Economic ) ซึ่งประกอบด้วยหุ้นในกลุ่มการบริการทางการเงิน โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุ พลังงานและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น มีทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์มาก ในการวิเคราะห์ และการลงทุนในหุ้นจีน โดยการเลือกหุ้นแบบ Bottom – Up และเป็นกองทุนรวมหลักระดับ 4 ดาวจาก Morningstar (ข้อมูล ณ 31 ตุลาคม 2560) โดยหุ้นที่มีการลงทุนใน 5 อันดับแรกได้แก่ Alibaba Group Holding , Tencent Holding , ICBC, Bank of China, และ Baiduซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปโครงสร้างของเศรษฐกิจจีน ที่เน้นเศรษฐกิจแบบใหม่ด้วยรูปแบบดิจิตอล (New Economy) มากกว่าภาคอุตสาหกรรมและการผลิต (Old Economy)
สำหรับ แนวโน้มการลงทุน จีนเป็นประเทศที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง และรัฐบาลจีน ยังมุ่งเน้นถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยลดความเสี่ยงต่างๆที่จะทำให้ประเทศถดถอย การกระจายรายได้สู่ชนบท และการต่อต้านกิจกรรมที่ทำให้เกิดมลภิษต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยนวัตกรรมสมัยใหม จีนมีแผนการลงทุนระยะยาวในโครงการ Belt and Road ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อเส้นทางการค้า และการคมนาคมกับอีกหลากหลายประเทศทั้งในทวีปเอเชีย และยุโรป ทำให้มีการเจริญเติบโตในระยะยาว จีนมีแนวทางที่จะปฏิรูปรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของประเทศ โดยผลักดันให้มีการแข่งขันกันมากขึ้น ลดการสนับสนุนให้น้อยลง ซึ่งตลาดที่มีการแข่งขันกันสูง ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจที่จะได้รับการจัดสรรทรัพยาการของประเทศนั้นๆอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยในปีนี้จีนตั้งเป้า GDP โตประมาณ 6.5 % สูงกว่าสหรัฐที่คาดว่าจะเติบโตในระดับ 2.3 % ยุโรป 1.5% หรือประเทศไทยที่ 3.5% ตลาดหุ้นจีนยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการคาดการณ์ผลกำไรที่เริ่มมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในขณะที่ Valuation ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศ และยังมีปัจจัยสำคัญคือการทบทวนการนำหุ้นจีนจากตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้น ซึ่งเป็นตลาดจดทะเบียนหุ้น A-share เข้ารวมในการคำนวณดัชนี MSCI Emerging Markets Index ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งหากดัชนี A-Share สามารถเข้ารวมในดัชนี MSCI ได้จะทำให้ตลาดมีเงินทุนไหลเข้าเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับ ผลการดำเนินงานของกองทุน KT-China ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 เดือน อยู่ที่ 4.13% 3 เดือน อยู่ที่ 6.92% และ 6 เดือน อยู่ที่ 17.93% ส่วนเกณฑ์มาตรฐาน AIMC ย้อนหลัง 1 เดือน อยู่ที่ 3.57% 3 เดือน อยู่ที่ 8.94% และ 6 เดือนอยุ่ที่ 20.41%
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน กองทุนมีความเสี่ยงด้านปัจจัยตลาด ความเสี่ยงจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร เป็นต้น