- Details
- Category: บลจ.
- Published: Sunday, 08 October 2017 19:44
- Hits: 7498
ฟิทช์ ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวกแก่ TREIT จากแผนการรองรับการแปลงสภาพของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
ฟิทช์ เรทติ้งส์-กรุงเทพฯ–6 ตุลาคม 2560: บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัดประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวกแก่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) และอันดับเครดิตภายในประเทศ สำหรับหนี้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกัน (National Senior Unsecured Rating) ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอนหรือ TREIT ซึ่งอยู่ที่ A-(tha) หลังจากที่ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON) ประกาศเจตนาที่จะแปลงสภาพของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการสนับสนุนสินทรัพย์หลักจากกลุ่ม TICON ซึ่งได้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทคอน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท มาเข้ากองทรัสต์ TREIT โดย TREIT จะรับโอนทรัพย์สินและภาระของกองทุนรวมดังกล่าวโดยชำระค่าตอบแทนเป็นหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ TREIT พร้อมเงินสด ซึ่งจะได้มาจากการกู้ยืม
เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวกสะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่า การแปลงสภาพของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว มาเข้ากองทรัสต์ TREIT จะเพิ่มขนาดของกองทรัสต์ของ TREIT ให้ใหญ่ขึ้นมากกว่าสี่เท่า พร้อมกับมีการกระจายตัวของผู้เช่าที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ฟิทชคาดว่าสถานะทางการเงินของ TREIT จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจาก TREIT ยังคงมีนโยบายที่จะรักษาอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อสินทรัพย์รวมไว้ที่ประมาณร้อยละ 30 เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวกน่าจะยกเลิกเมื่อธุรกรรมนี้ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหน่วยทรัสต์และผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทรัสต์และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องและมีการโอนทรัพย์สินและภาระของกองทุนรวมมาให้แก่กองทรัสต์เสร็จสมบูรณ์ภายในเวลาที่กำหนด กล่าวคือ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 หรือวันสิ้นสุดระยะเวลาที่กฎหมายจะขยายให้ในการได้รับยกเว้นภาษีและได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการแปลงสภาพ (ถ้ามี) ซึ่งหากมีการขยายระยะเวลาดังกล่าว การยกเลิกเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวกอาจจะใช้เวลานานกว่าหกเดือน
ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต
ขนาดกองทรัสต์ที่ใหญ่ขึ้น: หากธุรกรรมนี้เสร็จสมบูรณ์ จะทำให้กองทรัสต์ของ TREIT ขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 หมื่นล้านบาท จาก 7.3 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 การกระจายตัวของผู้เช่าน่าจะดีขึ้นโดยรายได้จากผู้เช่าที่มีสัดส่วนรายได้สูงที่สุด 10 รายแรกจะคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22 ของรายได้รวมจากเดิมที่ร้อยละ 50 อย่างไรก็ตาม อายุเฉลี่ยของสัญญาเช่าที่เหลืออยู่ อาจจะสั้นลงโดยสัดส่วนของสัญญาเช่าที่จะครบกำหนดภายในสามปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 73.9 จากร้อยละ 47.2 ฟิทช์คาดว่าอัตราการเช่าพื้นที่ของกองทรัสต์ที่ขยายตัวขึ้นจะยังคงอยู่ที่ร้อยละ 78-80 หลังจากการลงทุนในทรัพย์สินของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่แปลงสภาพมา
อัตราการเช่าพื้นที่ที่ต่ำกว่าที่คาด: ฟิทช์คาดว่าอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยของกองทรัสต์ TREIT เดิมน่าจะเพิ่มขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นและสภาวะอุปทานส่วนเกินที่ผ่อนคลายลงในบริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยอัตราการเช่าพื้นที่ของ TREIT ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 ที่ประมาณร้อยละ 78 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับ ณ สิ้นปี 2559 เป็นระดับที่ต่ำกว่าที่ฟิทช์คาดการณ์ไว้ อายุเฉลี่ยของสัญญาเช่าที่เหลืออยู่ของ TREIT ยังคงอยู่ที่ประมาณ 3.3 ปี เช่นเดียวกับ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 โดยสัญญาเช่าที่หมดอายุในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 ส่วนใหญ่จะมีการต่อสัญญา TREIT มีความเสี่ยงในการต่อสัญญาเช่าของผู้เช่าในระดับปานกลาง เนื่องจากประมาณร้อยละ 6 ของพื้นที่ให้เช่าของ TREIT จะหมดอายุสัญญาเช่าภายในครึ่งปีหลังของปี 2560 และอีกร้อยละ 19 จะหมดอายุสัญญาเช่าในปี 2561
การลงทุนเพิ่มเติมโดยการก่อหนี้: การรองรับการแปลงสภาพของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวน่าจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินของ TREIT ซึ่งวัดจากหนี้สินสุทธิต่อมูลค่าทรัพย์สินเพื่อการลงทุน ลดลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 17 จากประมาณร้อยละ 21 ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 ฟิทช์ยังคงคาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวน่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 28-30 ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าตามนโยบายทางการเงินของ TREIT เดิม TREIT มีแผนที่จะลงทุนซื้อทรัพย์สินจำนวนประมาณ 750 ล้านบาทจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น ในช่วงปลายปี 2560 โดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากการก่อหนี้ทั้งจำนวน แต่แผนการลงทุนดังกล่าวน่าจะถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากแผนการรองรับการแปลงสภาพของกองทุนรวม
การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป
TREIT มีขนาดเล็กกว่าบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA (BBB+(tha)/แนวโน้มเครดิตเป็นลบ) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำของบริษัทพัฒนาและขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมรวมถึงพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าเพื่อการอุตสาหกรรม ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละราย (Built-to-Suit) ในประเทศไทย กำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของ TREIT จะยังคงน้อยกว่า WHA ประมาณร้อยละ 50 หลังจากการลงทุนในทรัพย์สินของกองทุนรวมที่แปลงสภาพ TREIT มีรายได้ในอนาคตที่มีความชัดเจนกว่าจากธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีสัญญาเช่ารองรับและไม่มีความเสี่ยงจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยตนเอง ส่วน WHA มีความเสี่ยงที่สูงจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และมีประมาณร้อยละ 60 ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ (EBITDA) ที่มาจากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมซึ่งต้องเผชิญกับวัฏจักรของความต้องการอสังหาริมทรัพย์ TREIT มีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ (EBITDA Margin) ที่สูงกว่า WHA และมีอัตราส่วนหนี้สินที่ต่ำกว่า WHA แม้ว่าอัตราส่วนหนี้สินดังกล่าวมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ดังนั้น TREIT จึงมีอันดับเครดิตที่สูงกว่า WHA
TREIT มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) และขนาดของธุรกิจที่เล็กกว่า บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC (A(tha)/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก) ซึ่งเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นปลายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC (A(tha)/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ซึ่งเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่อันดับสองของประเทศ ในขณะที่ TREIT มีรายได้ในอนาคตที่มีความชัดเจนสูง SCC และ SCCC ต้องเผชิญกับความต้องการสินค้าที่มีลักษณะเป็นวัฏจักรและความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ TREIT ยังมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ (EBITDA Margin) ที่สูงกว่า อย่างไรก็ตาม SCC และ SCCC มีอัตราส่วนหนี้สินที่ต่ำกว่า
สมมุติฐานที่สำคัญ
สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ (ก่อนการรองรับการแปลงสภาพของกองทุนรวม)
- การลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมจำนวน 750 ล้านบาทในปี 2560 โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการก่อหนี้ทั้งจำนวน และการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมจำนวนประมาณ 2 พันล้านบาทต่อปีในปี 2561 และปี 2562 โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการก่อหนี้ร้อยละ 30 ของเงินลงทุน
- อัตราการต่ออายุสัญญาเช่าร้อยละ 85 และระยะเวลาในการหาผู้เช่าใหม่ 4-6 เดือน ในปี 2560-2562
- อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ (EBITDA Margin)ประมาณร้อยละ 75-80 ในปี 2560-2562 (6 เดือนแรกของปี 2560: ร้อยละ 77)
- ไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนสำหรับการซ่อมแซมปรับปรุงขนาดใหญ่ และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปี 2560-2562
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยบวก:
เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวกจะได้รับการยกเลิกหลังจากธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งอาจจะใช้เวลามากกว่า 6 เดือนฟิทช์อาจมีการปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับเครดิตหรืออันดับเครดิต หากมี
- ขนาดของกองทรัสต์ที่ใหญ่ขึ้น โดยมีมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนสูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท และมีการกระจายตัวของผู้เช่าและพื้นที่เช่าที่มากขึ้น
- อัตราการเช่าพื้นที่อยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 80 อย่างต่อเนื่อง
- อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อมูลค่าทรัพย์สินเพื่อการลงทุนอยู่ที่ร้อยละ 20-25 (ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 อยู่ที่ร้อยละ 21) และ/หรือ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Net Debt to EBITDA) อยู่ในระดับ 3.0 เท่าถึง 3.5 เท่า (ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 อยู่ที่ 3.5 เท่า) และ/หรือ อัตราส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในเงินทุนหมุนเวียนต่อดอกเบี้ยจ่ายและค่าเช่า (FFO Fixed Charge Coverage) สูงกว่า 3.5 เท่า (ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 อยู่ที่ 4.5 เท่า) อย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยลบ:
หากแผนการแปลงสภาพของกองทุนรวมไม่ได้ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ แนวโน้มอันดับเครดิตจะถูกปรับกลับมาเป็นลบ
สภาพคล่อง
สภาพคล่องอยู่ในเกณฑ์ดี: ฟิทช์คาดว่า TREIT มีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับการชำระดอกเบี้ยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย (EBITDA / Interest paid) ในระดับสูงกว่า 4.5 เท่า TREIT คาดว่าค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมบำรุงจะอยู่ในระดับที่ต่ำมากในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า สภาพคล่องสำหรับการลงทุนใหม่น่าจะไดรับปัจจัยสนับสนุนจากความสามารถในการเข้าสู่ตลาดทุนและตราสารหนี้
หนี้สินที่มีประกันอาจเพิ่มสูงขึ้น: TREIT มีแผนที่จะกู้ยืมเงินจำนวน 3.8 พันล้านบาท ในการรองรับการแปลงสภาพของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเป็นเงินกู้ยืมที่มีหลักประกัน ความสามารถในการได้รับชำระคืนหนี้ของเจ้าหนี้ไม่มีหลักประกันอาจได้รับผลกระทบหากอัตราส่วนหนี้สินที่มีหลักประกันต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย (Secured Debt to EBITDA) อยู่ในระดับสูงกว่า 2 เท่า ถึง 2.5 เท่า ซึ่งอาจส่งผลกระทบในทางลบต่ออันดับเครดิตสำหรับหนี้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกันได้
Fitch Places Thailand's TREIT on Rating Watch Positive Upon Planned Merger
Fitch Ratings-Bangkok-06 October 2017: Fitch Ratings (Thailand) Limited has placed TICON Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust's (TREIT) 'A-(tha)' National Long-Term Rating and national senior unsecured rating on Rating Watch Positive (RWP). This follows an announcement by TICON Industrial Connection Public Company Limited (TICON) that it will merge its group-sponsored property funds - TICON Property Fund, TPARK Logistics Property Fund and TICON Industrial Growth Leasehold Property Fund - under TREIT. The property funds' assets and liabilities will be exchanged via issuance of TREIT trust units and cash payments, which will be financed by debt.
The RWP reflects Fitch's expectation that the merger will transformatively increase TREIT's scale - by more than four times - and lead to greater tenant diversification. However, we do not expect a significant change in TREIT's financial profile, as the company aims to maintain its gross debt/total assets at about 30%. The RWP should be resolved upon transaction approval by the unitholders of all related property funds and REITs, including the asset and liability transfers, within the designated timeframe; that is, by 31 December 2017. This timeframe may be extended along with any extension of government-granted conversion-related tax and fee incentives, which could cause the RWP resolution take longer than the typical six-month period.
KEY RATING DRIVERS
Deal Transforms Scale: The transaction, if completed, will enlarge TREIT's property portfolio to THB30.8 billion, from THB7.3billion at end-June 2017. Tenant diversification is also likely to improve, with the 10 largest tenants contributing around 22% of total revenue, from 50% previously. However, the average term to lease maturity would be shortened, with the proportion of leases expiring within three years increasing to 73.9%, from 47.2%. Fitch expects the occupancy rate of the enlarged portfolio to remain at 78%-80% after the conversion.
Weaker-than-Expected Occupancy: Fitch expects TREIT's average occupancy rate, based on its current portfolio, to improve in line with our forecast economic recovery and easing oversupply in Thailand's eastern seaboard. However, the 78% rate at end-June 2017 was weaker than we expected and at the same level as at end-2016. TREIT's average lease-term-to-maturity, at 3.3 years, was unchanged from end-2016, with most contracts expiring in 1H17 being renewed. Moderate renewal risk exists, as 6% of TREIT's lease contracts, based on leased area, expire in 2H17 and another 19% in 2018.
Debt-Funded Growth: The merger will likely see TREIT's leverage, as measured by net debt/investment property value, temporarily decrease to about 17%, from 21% at end-June 2017. Fitch expects leverage to increase to 28%-30% over the medium term, in accordance with TREIT's financing policy. TREIT had planned to invest up to THB750 million in the assets of other developers in late 2017, with 100% financing via debt, but this is likely to be postponed while it converts all TICON group-sponsored property funds to a REIT.
DERIVATION SUMMARY
TREIT is significantly smaller than WHA Corporation Public Company Limited (BBB+(tha)/Negative), a leading developer of industrial estates and built-to-suit industrial properties for rent in Thailand. TRIET's EBITDA will still be about 50% smaller than that of WHA, even after the proposed investment in the assets of the property funds under the conversion plan. TREIT has higher earning visibility from its property rental business and no development risk exposure, while WHA has large development exposure with project completion risk. About 60% of WHA's EBITDA comes from its industrial land sales business, which is subject to cyclical demand. TREIT has higher EBITDA margins and lower financial leverage than WHA, although leverage may increase in the medium term. Therefore, TREIT is rated higher than WHA.
TREIT is smaller in terms of EBITDA and operating scale against The Siam Cement Public Company Limited (SCC, A(tha)/Positive), Thailand's largest cement and downstream petrochemicals producer, and Siam City Cement Public Company Limited (SCCC, A(tha)/Stable), the country's second-largest cement producer. TREIT has high earning visibility, while SCC and SCCC are exposed to cyclical product demand commodity price fluctuations. TREIT also has a higher EBITDA margin. However, SCC and SCCC have lower financial leverage.
KEY ASSUMPTIONS
Fitch's key assumptions within our rating case for the issuer (excluding the conversion plan) include:
- Additional investment of THB750 million in 2017, with 100% debt financing, and about THB2 billion a year in 2018 - 2019, with 30% debt financing.
- Lease renewal rate of 85%, taking four to six months to seek new lessees in 2017-2019.
- EBITDA margin of 75%-80% in 2017-2019 (1H17: 77%).
- No development or significant maintenance capex over 2017-2019.
RATING SENSITIVITIES
Developments that May, Individually or Collectively, Lead to Positive Rating Action
Fitch expects to resolve the RWP upon transaction closing, which may take longer than six months. Fitch will take positive rating action if :
- investment properties exceeds THB30 billion, with higher granularity in term of tenants and geography;
- the occupancy rate is sustained at over 80%; and
- net debt/investment-property value is sustained at 20%-25% (end-June 2017: 21%), net debt/EBITDA at 3.0x-3.5x (end-June 2017: 3.5x) or FFO fixed-charge coverage at above 3.5x (end-June 2017: 4.5x).
Developments that May, Individually or Collectively, Lead to Negative Rating Action
In the absence of the transaction progressing, the Outlook will revert to Negative.
LIQUIDITY
Comfortable Liquidity: Fitch expects TREIT to have enough liquidity in the next two to three years to comfortably cover interest payments, with EBITDA/interest expense expected at above 4.5x. Minimal maintenance capex is expected for the next two to three years. Liquidity for new investment is likely to be supported by its ability to access the capital market for both debt and equity.
Deal Increasing Secured Debt: TREIT plans to raise secured debt of THB3.8 billion to support the conversion plan. Recovery prospects of unsecured creditors could be jeopardised if secured debt exceeds 2.0x-2.5x of EBITDA, negatively affecting the senior unsecured debt rating.
Contact:
Primary Analyst
Somruedee Chaiworarat
Director
+66 2108 0160
Fitch Ratings (Thailand) Limited
Level 17, Park Ventures, 57 Wireless Road, Lumpini, Patumwan,
Bangkok 10330
Secondary Analyst
Nichaya Seamanontaprinya
Associate Director
+66 2108 0161
Committee Chairperson
Vicky Melbourne
Senior Director
+612 8256 0325
Summary of Financial Statement Adjustments
- Net purchase and sale of securities investments are not included in cash flow changes, but is taken as cash and cash equivalent, as all securities investment is via fixed deposit.
Note to editors: Fitch's National ratings provide a relative measure of creditworthiness for rated entities in countries with relatively low international sovereign ratings and where there is demand for such ratings. The best risk within a country is rated 'AAA' and other credits are rated only relative to this risk. National ratings are designed for use mainly by local investors in local markets and are signified by the addition of an identifier for the country concerned, such as 'AAA(tha)' for National ratings in Thailand. Specific letter grades are not therefore internationally comparable.
Additional information is available on www.fitchratings.com
Applicable Criteria
Corporate Rating Criteria (pub. 07 Aug 2017)
National Scale Ratings Criteria (pub. 07 Mar 2017)
Additional Disclosures
Solicitation Status
Endorsement Policy
ALL FITCH CREDIT RATINGS ARE SUBJECT TO CERTAIN LIMITATIONS AND DISCLAIMERS. PLEASE READ THESE LIMITATIONS AND DISCLAIMERS BY FOLLOWING THIS LINK: HTTPS://WWW.FITCHRATINGS.COM/UNDERSTANDINGCREDITRATINGS. IN ADDITION, RATING DEFINITIONS AND THE TERMS OF USE OF SUCH RATINGS ARE AVAILABLE ON THE AGENCY'S PUBLIC WEB SITE AT WWW.FITCHRATINGS.COM. PUBLISHED RATINGS, CRITERIA, AND METHODOLOGIES ARE AVAILABLE FROM THIS SITE AT ALL TIMES. FITCH'S CODE OF CONDUCT, CONFIDENTIALITY, CONFLICTS OF INTEREST, AFFILIATE FIREWALL, COMPLIANCE, AND OTHER RELEVANT POLICIES AND PROCEDURES ARE ALSO AVAILABLE FROM THE CODE OF CONDUCT SECTION OF THIS SITE. DIRECTORS AND SHAREHOLDERS RELEVANT INTERESTS ARE AVAILABLE AT HTTPS://WWW.FITCHRATINGS.COM/SITE/REGULATORY. FITCH MAY HAVE PROVIDED ANOTHER PERMISSIBLE SERVICE TO THE RATED ENTITY OR ITS RELATED THIRD PARTIES. DETAILS OF THIS SERVICE FOR RATINGS FOR WHICH THE LEAD ANALYST IS BASED IN AN EU-REGISTERED ENTITY CAN BE FOUND ON THE ENTITY SUMMARY PAGE FOR THIS ISSUER ON THE FITCH WEBSITE.
Copyright © 2017 by Fitch Ratings, Inc., Fitch Ratings Ltd. and its subsidiaries. 33 Whitehall Street, NY, NY 10004. Telephone: 1-800-753-4824, (212) 908-0500. Fax: (212) 480-4435. Reproduction or retransmission in whole or in part is prohibited except by permission. All rights reserved. In issuing and maintaining its ratings and in making other reports (including forecast information), Fitch relies on factual information it receives from issuers and underwriters and from other sources Fitch believes to be credible. Fitch conducts a reasonable investigation of the factual information relied upon by it in accordance with its ratings methodology, and obtains reasonable verification of that information from independent sources, to the extent such sources are available for a given security or in a given jurisdiction. The manner of Fitch’s factual investigation and the scope of the third-party verification it obtains will vary depending on the nature of the rated security and its issuer, the requirements and practices in the jurisdiction in which the rated security is offered and sold and/or the issuer is located, the availability and nature of relevant public information, access to the management of the issuer and its advisers, the availability of pre-existing third-party verifications such as audit reports, agreed-upon procedures letters, appraisals, actuarial reports, engineering reports, legal opinions and other reports provided by third parties, the availability of independent and competent third- party verification sources with respect to the particular security or in the particular jurisdiction of the issuer, and a variety of other factors. Users of Fitch’s ratings and reports should understand that neither an enhanced factual investigation nor any third-party verification can ensure that all of the information Fitch relies on in connection with a rating or a report will be accurate and complete. Ultimately, the issuer and its advisers are responsible for the accuracy of the information they provide to Fitch and to the market in offering documents and other reports. In issuing its ratings and its reports, Fitch must rely on the work of experts, including independent auditors with respect to financial statements and attorneys with respect to legal and tax matters. Further, ratings and forecasts of financial and other information are inherently forward-looking and embody assumptions and predictions about future events that by their nature cannot be verified as facts. As a result, despite any verification of current facts, ratings and forecasts can be affected by future events or conditions that were not anticipated at the time a rating or forecast was issued or affirmed.
The information in this report is provided “as is” without any representation or warranty of any kind, and Fitch does not represent or warrant that the report or any of its contents will meet any of the requirements of a recipient of the report. A Fitch rating is an opinion as to the creditworthiness of a security. This opinion and reports made by Fitch are based on established criteria and methodologies that Fitch is continuously evaluating and updating. Therefore, ratings and reports are the collective work product of Fitch and no individual, or group of individuals, is solely responsible for a rating or a report. The rating does not address the risk of loss due to risks other than credit risk, unless such risk is specifically mentioned. Fitch is not engaged in the offer or sale of any security. All Fitch reports have shared authorship. Individuals identified in a Fitch report were involved in, but are not solely responsible for, the opinions stated therein. The individuals are named for contact purposes only. A report providing a Fitch rating is neither a prospectus nor a substitute for the information assembled, verified and presented to investors by the issuer and its agents in connection with the sale of the securities. Ratings may be changed or withdrawn at any time for any reason in the sole discretion of Fitch. Fitch does not provide investment advice of any sort. Ratings are not a recommendation to buy, sell, or hold any security. Ratings do not comment on the adequacy of market price, the suitability of any security for a particular investor, or the tax-exempt nature or taxability of payments made in respect to any security. Fitch receives fees from issuers, insurers, guarantors, other obligors, and underwriters for rating securities. Such fees generally vary from US$1,000 to US$750,000 (or the applicable currency equivalent) per issue. In certain cases, Fitch will rate all or a number of issues issued by a particular issuer, or insured or guaranteed by a particular insurer or guarantor, for a single annual fee. Such fees are expected to vary from US$10,000 to US$1,500,000 (or the applicable currency equivalent). The assignment, publication, or dissemination of a rating by Fitch shall not constitute a consent by Fitch to use its name as an expert in connection with any registration statement filed under the United States securities laws, the Financial Services and Markets Act of 2000 of the United Kingdom, or the securities laws of any particular jurisdiction. Due to the relative efficiency of electronic publishing and distribution, Fitch research may be available to electronic subscribers up to three days earlier than to print subscribers.
For Australia, New Zealand, Taiwan and South Korea only: Fitch Australia Pty Ltd holds an Australian financial services license (AFS license no. 337123) which authorizes it to provide credit ratings to wholesale clients only. Credit ratings information published by Fitch is not intended to be used by persons who are retail clients within the meaning of the Corporations Act 2001