WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บลจ.กสิกรไทย ส่งกองทุนตราสารหนี้ตปท.ระยะยาว 2 ปี ชูผลตอบแทนสูง 3.20% ต่อปี เสนอขาย 26 ส.ค. – 1 ก.ย. นี้

    นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม – 1 กันยายน 2557 นี้ บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2 ปี เอ (KEFF2YA) ซึ่งเป็นกองทุนใหม่ที่มีอายุโครงการยาวขึ้น ประมาณ 2 ปี พร้อมเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณการไว้ที่ 3.20% ต่อปี เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่พร้อมลงทุนได้ในระยะยาว นอกจากนี้สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในระยะสั้น ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ บริษัทยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอไอ (KEFF6MAI) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.70% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีอาร์ (KFI3MER) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่าย กองทุนที่ 2.30% ต่อปี โดยทั้ง 3 กองทุนที่กล่าวมา มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี

   นางสาวยุพาวดี กล่าวต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2 ปี เอ (KEFF2YA) จะลงทุนในเงินฝากของ China Construction Bank Corporation ร่วมด้วยตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี ตราสารหนี้ Standard Bank of South Africa, ประเทศแอฟริกาใต้ ตราสารหนี้ Banco Bradesco S.A., และตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล ด้านกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอไอ (KEFF6MAI) จะลงทุนในเงินฝากของ China Construction Bank Corporation เงินฝากของ Garanti Bank, ประเทศตุรกี ร่วมด้วยตราสารหนี้ VakifBank, ประเทศตุรกี ตราสารหนี้ Agricultural Bank of China และตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่ค้ำประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท

    อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ภายในประเทศเพียงอย่างเดียว บลจ.กสิกรไทย ขอแนะนำกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีอาร์ (KFI3MER) ซึ่งโดยเบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation เงินฝาก Bank of China นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) โดยตราสารที่กล่าวมามีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท

   ผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KEFF2YA กองทุน KEFF6MAI และกองทุน KFI3MER สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!