- Details
- Category: บลจ.
- Published: Thursday, 13 July 2017 22:32
- Hits: 9646
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นในรอบ 1 ปี ปรับตัวโดดเด่น นำตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป บลจ.กสิกรไทย คืนกำไรผู้ลงทุน จ่ายปันผลกองทุน K-JP รวมมูลค่ากว่า 363 ล้านบาท
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย มีกำหนดจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดเค ญี่ปุ่น หุ้นทุน (K-JP) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 - 30 มิถุนายน 2560 ในอัตรา 0.70 บาทต่อหน่วย โดยจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนเวลา 8.00 น. ของวันที่ 30 มิถุนายน 2560 และมีกำหนดจ่ายเงินในวันที่ 14 กรกฎาคม 2560 นี้ รวมมูลค่าการจ่ายปันผลทั้งสิ้นกว่า 363.24 ล้านบาท
สำหรับ ผลการดำเนินงานของกองทุน K-JP ที่ผ่านมา นายนาวินกล่าวว่า นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อเดือนธันวาคม 2557 หากนับรวมการจ่ายปันผลในครั้งนี้ด้วย กองทุนมีประวัติการจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 3 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 1.35 บาทต่อหน่วย ส่วนในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา (1 ก.ค. 59 - 30 มิ.ย.60) กองทุนมีการจ่ายปันผลรวมทั้งสิ้นในอัตรา 0.70 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย (Dividend Yield) อยู่ที่ 6.50% ต่อปี ด้านผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน K-JP นับตั้งแต่ต้นปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 7.59% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 7.51% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 28.66% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 29.50% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2560) ทั้งนี้ภาพรวมของตลาดหุ้นญี่ปุ่นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นสูงและปรับตัวนำหุ้นในกลุ่มประเทศแกนหลังอย่างสหรัฐฯ และยุโรป
นายนาวินกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-JP มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก Schroder International Selection Fund Japanese Equity, Class A Acc ซึ่งบริหารจัดการโดย Schroder Investment Management (Luxembourg) S.A. บริษัทจัดการลงทุนชั้นนำระดับโลก โดยกองทุนหลักถือเป็นหนึ่งในกองทุนหุ้นญี่ปุ่นชั้นนำขนาดใหญ่ ที่มุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นบริษัทญี่ปุ่นที่มีผลประกอบการดี มีความสามารถในการแข่งขันสูง และมีความยั่งยืนในการเติบโตของธุรกิจ โดยไม่จำกัดหมวดหมู่ของอุตสาหกรรมหรือขนาดของบริษัท เพื่อความคล่องตัวในการลงทุน ทั้งนี้ กองทุน K-JP เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับค่อนข้างสูง และเป็นกองทุนที่มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว อีกทั้งมุ่งหวังให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับกองทุนหลักให้มากที่สุด
นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ภาพรวมเศรษฐกิจยังคงอ่อนตัว โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ -0.1% ในการประชุมวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ไว้ที่ระดับ 0% เพื่อหนุนเศรษฐกิจ โดยตลาดคาดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีแนวโน้มกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินเพิ่มเติม ซึ่งสวนทางกับทิศทางของฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป ขณะที่การกระตุ้นให้ภาคเอกชนขยายการลงทุนและนโยบายเพิ่มค่าจ้างยังไม่เห็นผลชัดเจน ส่งผลกดดันการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าตัวเลขอัตราเงินเฟ้อล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2560 จะเพิ่มขึ้น 0.4 % ต่อปี แต่ก็ยังห่างจากเป้าหมายที่ 2%
"ส่วนมุมมองตลาดหุ้นญี่ปุ่น ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเริ่มกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง โดยตลาดยังคาดหวังกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของรัฐบาล ประกอบกับธนาคารกลางญี่ปุ่นยังดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ผ่านตลาดหุ้นต่อเนื่อง ดังนั้นมุมมองในระยะยาว บลจ.กสิกรไทยคาดการณ์ว่าผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ประกอบกับราคาหุ้นญี่ปุ่นยังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว และถือว่าระดับราคายังถูกเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นอาจมีปัจจัยเสี่ยงจากทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนที่ยังมีความผันผวน" นายนาวินกล่าว
สำหรับ ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน K-JP ของบลจ.กสิกรไทย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com