- Details
- Category: บลจ.
- Published: Wednesday, 24 May 2017 15:53
- Hits: 2875
KTAM ทุ่มจ่ายปันผล 7 กองทุนมูลค่ากว่า 1.8 พันล้าน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุน มีมติจ่ายเงินปันผล 6 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนเปิดเคแทม เจแปน อิควิตี้ ฟันด์ (KT-JAPAN-D) มูลค่ารวมกว่า 1,800 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF)จ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 26 ในอัตรา 0.4598 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี. ทาวเวอร์ โกรท (CPTGF) จ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 13 ในอัตรา 0.1880 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยคอมเมอร์เชียล อินเวสเม้นต์ ( TCIF) จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 19 ในอัตรา 0.1930 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยโฮเทลอินเวสเม้นต์ (THIF) จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 10 ในอัตรา 0.1770 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทลอินเวสเม้นต์ (TRIF)จ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 16 ในอัตรา 0.1750 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 ( EGATIF) จ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 6 ในอัตรา 0.1800 บาทต่อหน่วย โดยทุกกองทุน จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 ปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 จ่ายเงินปันผลในวันที่ 13 มิถุนายน 2560
ส่วนกองทุน KT-JAPAN-D จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.45 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่1 กุมภาพันธ์ 2560 - 31 มกราคม 2561 ผลการดำเนินงานสิ้นสุด ณ วันที่ 30 เมษายน 2560 โดยกองทุนจะปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 26 พฤษภาคม 2560 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 มิถุนายน 2560 กองทุนเน้นลงทุนในกองทุนรวมหลักHenderson Horizon Fund – Japanese Smaller Companies Fund – Class A2 ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารและจัดการโดย Henderson Management S.A.โดยกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์การลงทุน ให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตของเงินทุนในระยะยาว โดยลงทุนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสินทรัพย์รวมของกองทุน ในบริษัทญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็ก (Smaller Japanese Companies) โดยบริษัทญี่ปุ่นขนาดเล็ก หมายถึง บริษัทที่มีมูลค่าตลาดต่ำที่สุด 25% ของตลาดทุนของประเทศญี่ปุ่น
สำหรับ ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 28 เมษายน 2560 ย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ -0.14% 6 เดือน อยู่ที่ 9.34% 9 เดือนอยู่ที่ 18.62% นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน(31 พ.ค.59) อยู่ทึ่ 14.77% ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน ( Benchmark) อยู่ที่ 4.39 % 5.07% 10.87% และ12.70% ตามลำดับ
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 150 ( KTFF150) ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 อายุ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในเงินฝากประจำ Bank of China (Macau) China, Agricultural Bank of China (Hong Kong Branch ), AI Khaliji Commercial Bank, Ahli Bank QSC Qatar ,PT Bank Rakyat Indonesia(PERSERO) Tbk.Indonesia ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ18% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ยกเว้น ตราสารหนี้ Industril and Commercial Bank of China Limited (Luxembourg Branch) ลงทุนในสัดส่วน 10 % ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.40% ต่อปี โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ ในประเทศ มีการปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบ ตามแรงซื้อขายของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยตลาดขาดปัจจัยชี้นำ และไม่ได้ให้น้ำหนักกับการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯมากนัก ในขณะที่สภาพคล่องในตลาดที่ยังทรงตัวในระดับสูงตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา มียอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติ ประมาณ 6,307 ล้านบาท ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ มีการปรับตัวลดลงจากทุกช่วงอายุ จากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ทามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐอเมริกา หลังมีข่าวว่าทรัมป์ได้มีการเปิดเผยข้อมูลลับเกี่ยวกับ ISIS ให้กับรัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแผนการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.28% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 1.79% และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.23%
“ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้ และผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือ โทร 0-2686-6100
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 0-2686-6206