WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTAM Chanida KTAM ทุ่มจ่ายปันผลกองทุน KT-INDIA อัตรา 0.65 บาทต่อหน่วย

      นางชวินดา  หาญรัตนกูล  กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุน  มีมติจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดเคแทม อินเดีย อิควิตี้ฟันด์ ( KT-India-d)   ในอัตรา0.65 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็น 4.86%  ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุน  ณ วันที่  21  เมษายน 2560   สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1  พฤศจิกายน 2559 – 31 ตุลาคม 2560  โดยเป็นรอบผลการดำเนินงานสิ้นสุด  ณ วันที่   31 มีนาคม 2560   กองทุนจะทำการปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 28 เมษายน 2560  และจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน  ในวันที่ 11  พฤษภาคม 2560 

     ทั้งนี้  กองทุน KT-India-d  จัดตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2559    และจ่ายเงินปันผลครั้งแรกในช่วงเดือน สิงหาคม 2559   ในอัตรา  0.50 บาทต่อหน่วย  หากรวมการจ่ายเงินปันผลครั้งล่าสุดจะเท่ากับ  1.15 บาทต่อหน่วย     พร้อมกันนี้  บริษัทมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจอินเดียในระยะยาว  เนื่องจากอินเดีย ยังอยู่ในช่วงของการเติบโต มีเศรษฐกิจที่มั่นคง และสกุลเงินที่มีเสถียรภาพเพิ่มมากขึ้น โดยการลงทุนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอินเดียในปี 2017  ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ยังคงปรับตัวไร้ทิศทาง ภาพการลงทุนในตลาดเป็นไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นจากความตึงเครียดทางการเมืองในบริเวณคาบสมุทรเกาหลี และการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกที่ใกล้เข้ามาในช่วงสุดสัปดาห์ รวมถึงการแถลงการณ์ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ของรัฐบาลอังกฤษก็ตาม 

             กองทุน KT-India-d  ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco India Equity Fund มีกลยุทธ์การลงทุนในปัจจุบัน ที่มุ่งเน้นหลักทรัพย์ที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจการเติบโตภายในของประเทศอินเดียเป็นหลัก  เช่น การปฏิรูปภายในอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นให้มีการกำกับดูแลที่ดีขึ้น ความสะดวกในการทำธุรกิจที่ง่ายขึ้น, การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอื่นๆ  โดยในปี 2016 มีการปฏิรูปที่สำคัญอยู่ 2 เรื่องคือการเรียกเก็บเงินภาษี (GST Tax Bill) และเรื่อง demonetization รวมถึงรักษาเสถียรภาพค่าเงิน อินเดียรูปี ได้มากกว่าเทียบกับสกุลเงินตลาดเกิดใหม่อื่นๆ เนื่องจากมีเงินสำรองสกุลต่างประเทศจำนวนมาก โดยการประมาณการณ์ การเติบโต GDP อินเดีย ของWorld Bank คาดว่า GDP อินเดียจะโต 7.6% และ 7.7% ในปี 2017 และ 2018

         สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน สิ้นสุด  ณ  วันที่ 31 มีนาคม 2560   YTD  (นับจากวันที่ 3ม.ค.- 31มี.ค.60 ) อยู่ที่ 12.46% 6 เดือน อยู่ที่  16.50% และ1  ปี อยู่ที่ 15.04%   ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน อยู่ที่ 11.34% 14.94%   และ14.86%ตามลำดับ 

          นอกจากนี้  บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย  กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้  เอฟไอเอฟ 145 (KTFF145)   เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 2  พฤษภาคม 2560  อายุ 6 เดือน  มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท  เน้นลงทุนในเงินฝากประจำ Abu Dhabi  Commercial  Bank   , China Construction Bank  (Asia)   Corporation Limited ,Agricultural Bank of  China  ( Hong Kong Branch ) , AI Khaliji Commercial Bank  , Union National Bank PJSC  และบัตรเงินฝาก Industrial and Commercial bank of China Limited (Luxembourg Branch)    ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 18%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ยกเว้นIndustrial and Commercial bank of China Limited ที่ลงทุน 10% โดยผู้ถือหน่วยจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.45%ต่อปี   โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

         “ ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง  ก่อนตัดสินใจลงทุน  ทั้งนี้ หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้   และผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ”   นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา  หรือ โทร 0-2686-6100                  

      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ / สำนักประชาสัมพันธ์  คุณแสงสิริ  เนตรอัมพร /   โทรศัพท์  0-2686-6206  / 082-082-2121

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!