WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTAMชวนดาKTAM ขายตราสารหนี้ 6 เดือนชู 1.45%ต่อปี

      นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 140 เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 3 เมษายน 2560  อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ Bank of  China , Macau Branch อัตราผลตอบแทน 1.75 % ต่อปี , China Construction  Bank  (Asia)  Corporation Limited  อัตราผลตอบแทน 1.80% ต่อปี , Agricultural Bank of China (Hong Kong Branch ) อัตราผลตอบแทน 1.80% ต่อปี , AI  Khalij Commercial Bank อัตราผลตอบแทน 1.72% ต่อปี , Union National Bank อัตราผลตอบแทน 1.70% ต่อปี  และ  Qatar Nation Bank อัตราผลตอบแทน 1.68% ต่อปี กองทุนจะลงทุนในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 18% ยกเว้น เงินฝากประจำ Qatar Nation Bank ลงทุน 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.30% ต่อปี  ดังนั้น ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.45%ต่อปี กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

      สำหรับ อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ มีการปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบ ตามแรงซื้อขายของนักลงทุนในแต่ละช่วงอายุ โดยตลาดตอบรับการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือ 10 ปี ค่อนข้างดี โดยมี Bid Coverage Ratio 2.13 เท่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเป็นยอดซื้อสุทธิจำนวน 11,942 ล้านบาท ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในตราสารอายุต่ำกว่า 1 ปี  ในขณะที่ตราสารอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปอัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงจากแรงซื้อ หลังจากอัตราผลตอบแทนในช่วงก่อนหน้าได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตอบรับ (Price in) กับการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ และครั้งหน้าไปแล้ว

       ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านผลกระทบจากนโยบายการคลังของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาหลังสภาผู้แทนสหรัฐอเมริกายกเลิกการโหวต America Health Care Bill เนื่องจากเสียงสนันสนุนยังไม่พอ โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 7 bps.มาอยู่ที่ 1.26% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 10 bps.มาอยู่ที่ 1.93% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเลดลง 10 bps.มาอยู่ที่ 2.40% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามจะเป็นการดำเนินนโยบายการคลังของสหรัฐอเมริกา แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและเศรษฐกิจโลกในระยะเวลาข้างหน้า ผลกระทบของ Brexit ต่อ EU และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ

     ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้ และผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคตนักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา  หรือ โทร 0-2686-6100                 

                              สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ / สำนักประชาสัมพันธ์ คุณแสงสิริ เนตรอัมพร / โทรศัพท์  0-2686-6206  / 082-082-2121

 

บลจ.กรุงไทย เสนอขายกองทุนตปท.อายุ 6 เดือน คาดผลตอบปทน 1.45% เปิดจองถึง 3 เม.ย.

    นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย  เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 140 เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 เม.ย.60  อายุกองทุน 6 เดือน มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท

     กองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ Bank of China , Macau  Branch อัตราผลตอบแทน 1.75 % ต่อปี, China Construction Bank (Asia) Corporation Limited อัตราผลตอบแทน 1.80% ต่อปี, Agricultural Bank of China  (Hong Kong Branch ) อัตราผลตอบแทน 1.80% ต่อปี , AI  Khalij Commercial Bank อัตราผลตอบแทน 1.72% ต่อปี, Union National Bank อัตราผลตอบแทน 1.70% ต่อปี และ Qatar Nation Bank อัตราผลตอบแทน 1.68% ต่อปี

     กองทุนจะลงทุนในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 18% ยกเว้นเงินฝากประจำ Qatar Nation Bank ลงทุน 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.30% ต่อปี ดังนั้น ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.45%ต่อปี กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

     นางชวินดา กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ มีการปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบ ตามแรงซื้อขายของนักลงทุนในแต่ละช่วงอายุ โดยตลาดตอบรับการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือ 10 ปี ค่อนข้างดี โดยมี Bid Coverage Ratio 2.13 เท่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเป็นยอดซื้อสุทธิจำนวน 11,942 ล้านบาท

     ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในตราสารอายุต่ำกว่า 1 ปี  ในขณะที่ตราสารอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปอัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงจากแรงซื้อ หลังจากอัตราผลตอบแทนในช่วงก่อนหน้าได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตอบรับ (Price in) กับการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้และครั้งหน้าไปแล้ว ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านผลกระทบจากนโยบายการคลังของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาหลังสภาผู้แทนสหรัฐอเมริกายกเลิกการโหวต America Health Care Bill เนื่องจากเสียงสนันสนุนยังไม่พอ

     โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 7 bps.มาอยู่ที่ 1.26% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 10 bps.มาอยู่ที่ 1.93% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเลดลง 10 bps.มาอยู่ที่ 2.40% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามจะเป็นการดำเนินนโยบายการคลังของสหรัฐอเมริกา แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและเศรษฐกิจโลกในระยะเวลาข้างหน้า ผลกระทบของ Brexit ต่อ EU และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!