WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBวน พรหมแพทยซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลชี้เศรษฐกิจโลกฟื้น เงินเฟ้อขาขึ้น หนุนผลตอบแทนการลงทุนอสังหาฯ และค่าเช่าปรับตัวดี ดีเดย์ 27 ก.พ.-3 มี.ค.นี้ เปิดตัวกองทุนใหม่ ‘CIMB-PRINCIPAL Global REITs’ ชูจุดเด่นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก

        ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลชี้โอกาสลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก หลังแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและประเทศหลักขยายตัว ส่งผลต่อเงินเฟ้อสู่ช่วงขาขึ้น ส่งผลดีต่ออัตราผลตอบแทนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และค่าเช่าปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน ด้านผู้บริหารระบุเตรียมเปิด IPO กองทุนใหม่ กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล รีทส์ CIMB-Principal Global REITs Fund (CIMB-PRINCIPAL GREITs)’ วันที่ 27 ก.พ.-3 มี.ค.นี้ ชูจุดเด่นเข้าลงทุนในกองทุน PGI Global Property Securities Fund กองทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ติดท็อปเทนของโลก ซึ่งให้ผลตอบแทนย้อนหลังนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (27 พ.ย.2008) เฉลี่ยปีละ 14.41% ต่อปี สูงกว่าดัชนีอ้างอิงซึ่งอยู่ที่ 12.91% ต่อปี จากนโยบายเน้นลงทุนใน REITs ที่มีคุณภาพดีทั่วโลกด้วยกลยุทธ์ Bottom Up ที่เน้นการวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่ลงทุนเป็นรายตัว 

                นายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs)  และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก โดยความน่าสนใจมาจากโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากค่าเช่าที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น หลังทิศทางอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรปเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้งตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะขยับขึ้นสู่ระดับ 2% ภายในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตลอด 7 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ส่วนอัตราเงินเฟ้อของยุโรปที่ติดลบมานาน ก็ขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1% เมื่อปลายปีที่ผ่านมาและราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ก็ปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนอัตราการจ้างงานที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่างเป็นตัวเร่งอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าหลังจากนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปที่ระดับ 2-2.5% ต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

                ทั้งนี้ จากทิศทางเงินเฟ้อของสหรัฐฯและยุโรปที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ผ่านรีททั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้วเนื่องจากเมื่ออัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่ออัตราค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์จะปรับขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ภายหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อปลายปีที่ผ่านมา รวมทั้งปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณการเกิดปัญหาโอเวอร์ซัพพลายหรือภาวะฟองสบู่ในตลาดอพาร์ตเม้นท์และอาคารสำนักงาน ทำให้การลงทุนมีโอกาสที่อัตราค่าเช่าจะปรับขึ้นซึ่งถึงเป็นโอกาสที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนในขณะที่อัตราค่าเช่ายังไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น

       กองทุนนี้มีจุดเด่นคือการกระจายการลงทุนในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย อาทิ Resident, Service Apartment,  Shopping Mall, Shopping Center, ออฟฟิศ, โรงงานอุตสาหกรรม และศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า ซึ่งมองว่าในปัจจุบันกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจคือ 1.กลุ่มคลังสินค้า-ศูนย์กระจายสินค้า เนื่องจากปัจจัยการเติบโตของเศรษฐกิจอเมริกาส่งผลให้ประชาชนมีความสามารถในการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce ทำให้คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้ามีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึงกว่า 92% และ 2.กลุ่ม Service Apartment ที่มีอัตราเช่าพื้นที่สูงกว่า 95% และอัตราค่าเช่าเติบโตมากกว่า 5% ต่อปี เนื่องจากคนหนุ่มสาวในยุค Millennials พฤติกรรมเปลี่ยนไปคือการแยกตัวออกมาเช่าห้องพัก รวมทั้งผู้สูงอายุที่ต้องการย้ายไปอยู่ในห้องหรือบ้านพักที่มีขนาดเล็กลง มีผลให้อพาร์ตเมนต์ในภูมิภาคยุโรปโดยเฉพาะประเทศเยอรมนีเติบโตดีมาก  ส่วนอุตสาหกรรมที่น่าสนใจลงทุนในระดับรองลงมาคือ Telecom Tower (เสาส่งสัญญาณโทรคมนาคม) Mall & Outlet และ Self Storage (พื้นที่จัดเก็บของใช้ส่วนตัว) ซึ่งเติบโตตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น

       ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า มองเห็นโอกาสและการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนใน REITs ทั่วโลกดังกล่าว บริษัทฯ จึงเตรียมเปิดตัวกองทุนใหม่ (IPO)    กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล รีทส์ (CIMB-PRINCIPAL GREITs) ในช่วงระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2560  โดยกองทุนดังกล่าวจะนำเงินไปลงทุนในกองทุน PGI Global Property Securities Fund ที่บริหารงานโดยทีม Principal Global Real Estate ซึ่งบริหารจัดการกองทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ติด 1 ใน 10 ของโลกและมีประสบการณ์บริหารกองทุนกว่า 18 ปี โดยมีขนาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 1.36 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 5.0 แสนล้านบาท (ณ  31 ธ.ค. 2559) กลยุทธ์การบริหารการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และ REITs คุณภาพดีทั่วโลกคือการเน้น Bottom Up ที่มีการวิเคราะห์หลักทรัพย์เป็นรายตัว โดยมี 16 ผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านการลงทุนและวิเคราะห์หลักทรัพย์กระจายใน 5 ภูมิภาคทั่วโลก

       ส่วนผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุนดังกล่าว มีผลตอบแทนนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 27 พ.ย.2008 อยู่ที่ 14.41% ต่อปี สูงกว่าดัชนีอ้างอิงที่ 12.91% ต่อปี และยังได้รับรางวัล Best Global Real Estate Securities Fund Awards จาก Lipper ต่อเนื่อง 3 ปี (ปี 2013-2015) จากผลการดำเนินงานย้อนหลัง 5 ปี

       กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล รีทส์ (CIMB-PRINCIPAL GREITs) เป็นกองทุนที่จะทำให้นักลงทุนไทยได้มีโอกาสลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพดีทั่วโลก โดยเราคาดหวังผลตอบแทนจากเงินปันผล 35 % ต่อปี และคาดหวังการเติบโตของค่าเช่าที่เกิดจากแนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงขาขึ้นอีก 45% ต่อปี ซึ่งเราคัดเลือกกองทุน PGI Global Property Securities Fund ถือเป็นกองทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลกที่มีผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์การลงทุนใน REITs และอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนาน โดยสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ ผสานกับจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม เราจึงเชื่อว่ากองทุน CIMB-PRINCIPAL GREITs  จะเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่แนะนำให้นักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมนายวิน กล่าว

     กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล รีทส์ CIMB-Principal Global REITs Fund (CIMB-PRINCIPAL GREITs) เปิดเสนอขายครั้งแรก 27 กุมภาพันธ์ 3 มีนาคม 2560 สำหรับนักลงทุนที่สนใจสามารถขอหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา ทั่วประเทศ และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล 02 686 9595 www.cimb-principal.co.th

**************************************************************************

        ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า(กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลของกองทุนรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนรวมที่เปิดเผยไว้ในแหล่งต่าง ๆ หรือให้ขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ก่อนการตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

      บริษัทจัดการอาจใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) และอาจพิจารณาปรรับเปลี่ยนอัตราส่วนในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ทั้งนี้เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงและอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

วันที่เปิดเสนอขายอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

   กองทุนรวมดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาคำขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนจากสำนักงานคณะกรรมการ กลต.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!