- Details
- Category: บลจ.
- Published: Friday, 13 January 2017 10:01
- Hits: 5133
บัวหลวงปัจจัยสี่ LTF มาแรง เพิ่มทุนอีกหมื่นล้านบาท
กองทุนบัวหลวงปัจจัย 4 หุ้นระยะยาวปันผลมาแรง ได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนอย่างล้นหลาม ทำให้ต้องจดทะเบียนเพิ่มทุนอีก 1 หมื่นล้านบาท หลังมียอดลงทุนเต็ม 5,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือนเศษ หลังจากจัดตั้งกองทุนเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัยสี่หุ้นระยะยาวปันผล (BBASICDLTF) ยื่นขออนุมัติเพิ่มเงินทุนของกองทุนอีก 10,000 ล้านบาท จากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. หลังจากช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนจำนวนมาก ทำให้ขนาดกองทุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เต็มจำนวน 5,000 ล้านบาท ที่ยื่นขอจัดตั้งไว้กับสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
นางสาววิภารัตน์ เสร็จกิจ Deputy Managing Director กลุ่มงาน Product Management บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุน BBASICDLTF ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ให้เพิ่มเงินทุนอีก 10,000 ล้านบาท รวมเป็น 15,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ภายหลังจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา กองทุนได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนจำนวนมาก ทำให้ขนาดกองทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) เมื่อปลายเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา โดยสามารถระดมทุนในช่วง IPO ได้ถึง 2,288 ล้านบาท ทั้งที่เป็นกองทุน LTF ที่มีข้อจำกัดเรื่องมูลค่าการลงทุนรายบุคคล และมีเงินลงทุนเข้ามาต่อเนื่องจนถึง 5,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือนเศษ
กองทุน BBASICDLTF จะให้ความสำคัญกับหุ้นของกิจการที่ได้ประโยชน์จากสภาพของสังคมและพฤติกรรมของบุคคลที่เปลี่ยนไป ที่มุ่งให้ความสำคัญในเรื่อง "กินดี อยู่ดี ดูดี สุขภาพดี" จัดเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไขการลงทุนของ LTF
กองทุน BBASICDLTF จะเน้นลงทุนในกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค ซึ่งเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี (Value Stock) มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูง (Growth Potential) ทั้งนี้ จะเน้นลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ เกษตรและอุตสาหกรรมอาหารสินค้าอุปโภคบริโภค อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และ 2 หมวดในกลุ่มธุรกิจบริการ ได้แก่ พาณิชย์ และการแพทย์ โดยจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์ดังกล่าวข้างต้น โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และในสัดส่วนดังกล่าวจะเป็นหุ้นสามัญจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศจะไม่เกินร้อยละ 25 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งจะพิจารณาลงทุนตามโอกาสในช่วงเวลานั้นๆ โดยจะบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ปีละ 2 ครั้ง หรือตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร เมื่อกองทุนมีกำไรสะสมและจะต้องไม่ทำให้กองทุนมีผลขาดทุนสะสมในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการจ่ายเงินปันผลนั้น โดยจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลตามหลักเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ (1) จ่ายจากเงินปันผลหรือดอกเบี้ยรับที่ได้รับจากทรัพย์สินของกองทุนรวม (2) จ่ายได้ไม่เกินร้อยละ 30 ของกำไรสะสมดังกล่าว หรือกำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผลนั้น แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่กองทุนบัวหลวง โทร. 02-674-6488 กด 8 หรือสาขาธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ หรือบัวหลวงโฟน 1333 หรือตัวแทนขายหน่วยลงทุน ทั้ง บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง และ บมจ.หลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน