WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

OneAsetพจน หะรณสตบลจ.วรรณ คาดเฟด ขึ้น ดบ.ส่งท้ายปีนี้ ส่วนปีหน้าขึ้น 2 ครั้ง แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว

      บลจ.วรรณมองสอดคล้องกับตลาด คาดเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้ 1 ครั้ง มองปีหน้าเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง แนะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวชัดเจน และตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ได้อานิสงส์จากค่าเงินเยนที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ด้านตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกภายในประเทศหนุนความน่าสนใจในปีหน้า

      นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่า  ตลาดยังคาดการณ์ ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้ง อีกทั้งในปีหน้าบริษัทมองว่า เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในลักษณะปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างน้อยจำนวน 2 ครั้ง เพื่อรองรับกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อที่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นจากผลของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและการอัดฉีดนโยบายของภาครัฐจำนวนมาก

     อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงต้องติดตามการรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐและการส่งสัญญาณของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆของสหรัฐฯต่อไป ซึ่งหากธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้าตามที่ตลาดและ บลจ.วรรณ คาดแล้วนั้น ด้วยปัจจัยบวกทั้งการเติบโตของเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้การบริหารของผู้นำประเทศคนใหม่ (นายโดนัลด์ ทรัมป์) ที่มุ่งเน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและลดอัตราภาษีรายได้นิติบุคคลซึ่งจะเป็นส่วนสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป และจะทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯดังกล่าวไม่กระทบต่อตลาดมากนัก

     “การประชุมในเดือน ธ.ค. 59 หากเฟดมีมติพลิกโผโดยไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯบริษัท มองว่า จะทำให้ตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกต้องเผชิญกับความผันผวน เพราะปีหน้าเฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯ เร็วและแรงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้นายพจน์ กล่าว

      สำหรับ  คำแนะนำการลงทุน บริษัทมองว่า แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะมีท่าทีในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯ ต่างๆ ในช่วงเวลาตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว แต่บริษัทยังคงมีมุมมองเชิงบวก( Overweigh) ต่อการลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วโดยเฉพาะสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ขณะที่ตลาดเกิดใหม่ อย่างเช่น ไทย ในปีหน้าก็ยังน่าสนใจจากการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจโลก โดยบริษัทแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯมีโอกาสเติบโตจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะยังคงได้อานิสงส์จากค่าเงินเยนที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ในส่วนของตลาดหุ้นไทย ยังได้รับปัจจัยบวกสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศและส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มจะเริ่มเบิกจ่ายและมีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 300,000 ล้านบาท ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการเพิ่มขึ้น อีกทั้งแผนการเลือกตั้งในประเทศเริ่มเป็นรูปธรรม รวมทั้งตลาดหุ้นไทยยังได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่สนับสนุนต่อ Sentiment การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!