- Details
- Category: บลจ.
- Published: Saturday, 26 November 2016 10:15
- Hits: 8406
บลจ.กสิกรไทย คาด SET ปลายปีอยู่ที่ 1,550 จุด มอง ศก.ไทยโตต่อเนื่องหนุนหุ้นไทยบวกข้ามปี พร้อมจ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ 3 กองทุน
นายเขมชาติ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด(บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย คาด SET ปลายปีอยู่ที่ 1,550 จุด มอง ศก.ไทยโตต่อเนื่องหนุนหุ้นไทยบวกข้ามปี พร้อมจ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ 3 กองทุน มูลค่ารวม 136 ลบ. ดังนี้
ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงท้ายของปียังคงเติบโตต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาส 3 ขยายตัว 0.6% โดยมีแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัว 1.5% ในขณะที่การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 3% จากการดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้มีรายได้น้อยภายใต้กรอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 13.1%
โดย บลจ.กสิกรไทย มองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปีนี้อยู่ที่ระดับ 1,550 จุด แต่สำหรับในปี 2560 ภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย คาดว่าน่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าปีนี้ โดยการใช้จ่ายของภาครัฐ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมทั้งการส่งออกน่าจะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ในปีหน้า
บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 3 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2559 ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.1000 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์ไตล์ (MJLF) ในอัตรา 0.2500 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CTARAF) ในอัตรา 0.1155 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 3 กองทุนดังกล่าว จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 12.00 น. ของวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวพร้อมกันในวันที่ 19 ธันวาคม 2559 นี้ รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้นกว่า 136 ล้านบาท
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) มีนโยบายลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดิน อาคารสำนักงาน และระบบสาธารณูปโภคของอาคารเคพีเอ็น ทาวเวอร์ บนถนนพระราม 9 โดยผลการดำเนินงานใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมาของปี 2559 กองทุนมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากค่าเช่าพื้นที่และบริการต่างๆ ภายในโครงการ โดยสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานที่ 75.459 ล้านบาท ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วรวม 14 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.9540 บาทต่อหน่วย
กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์สไตล์ (MJLF) มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารโครงการเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ประมาณ 96% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด ด้านผลการดำเนินงานใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมาของปี 2559 จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยกองทุนสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานที่ 274.464 ล้านบาท ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วรวม 37 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 8.8730 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ 9.56% ต่อปี
กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CTARAF) มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและอาคาร รวมถึงระบบสาธารณูปโภคของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทสมุย โรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ 25 ไร่ บนหาดเฉวง เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่ 91% โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วรวม 28 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5.1897 บาทต่อหน่วย
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 กองทุนดังกล่าว จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนั้นสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน KPNPF กองทุน MJLF และกองทุน CTARAF สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com