- Details
- Category: บลจ.
- Published: Tuesday, 23 August 2016 14:24
- Hits: 3033
KTAM คาดเศรษฐกิจปี 60 โตดี เม็ดเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหนุน-ฟื้นจากภัยแล้ง
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางการลงทุนในปี 60 มีแนวโน้มขยายตัวได้ดี ปัจจัยสำคัญจะเป็นเม็ดเงินจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการฟื้นตัวจากภาวะภัยแล้ง แต่ภาคการส่งออกยังคงน่าเป็นกังวล ส่วนภาคการท่องเที่ยว อาจจะไม่ขยายตัวได้มากเหมือนในปีนี้
หากเศรษฐกิจดีขึ้นมีแนวโน้มที่ กนง.อาจจะพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะยาวยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรต่างประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ เป็นผลมาจากมาตรการการผ่านคลายทางการเงินจากธนาคารกลางสำคัญๆของโลกซึ่งยังน่าจะมีต่อเนื่อง เฟดน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแต่คงขึ้นได้ไม่มากจากที่ ECB ยังผ่อนคลายทางการเงินในระดับสูงอยู่
จากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่ต่ำน่าจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม Valuation ของหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปมาก ทำให้ความผันผวนของหุ้นน่าจะมากขึ้นด้วย ดังนั้น การกระจายตัวในหลายๆ Asset Class เป็นเรื่องที่สำคัญ และอาจมีความสำคัญมากขึ้นด้วยในปีหน้า
สำหรับ มุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ ที่ผ่านมา GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวประมาณ 3.5% การใช้จ่ายภาครัฐ และการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น จากการฟื้นตัวของราคาสินค้าเกษตร และมาตรการกระตุ้นภาครัฐในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงต่อจากนี้เศรษฐกิจไทยอาจชะลอลงเล็กน้อย ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงต่อเนื่อง การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มชะลอลงตามกรอบงบประมาณที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากในปีงบประมาณหน้า การฟื้นตัวของรายได้เกษตรกรจะเห็นชัดเจนหลังการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีในช่วงสิ้นปี ขณะที่เม็ดเงินจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานน่าจะเข้ามาในปีหน้า
ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโต 3% แต่อาจมีการปรับขึ้นเล็กน้อย โดยคาดว่า กนง. จะไม่ลดดอกเบี้ย
นางชวินดา กล่าวว่า ในปีนี้กองทุนต่างประเทศหลายกองทุนของบริษัทให้ผลตอบแทนที่ดีกับผู้ลงทุนและติดอันดับ 1 ในแต่ละกลุ่มของประเภทการลงทุน จากการจัดอันดับของ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ซ (ประเทศไทย) เช่น กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เอ็นเนอร์จี ฟันด์ (KT-Energy) เป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน BGF World Energy Fund ลงทุนในตราสารทุนของบริษัทชั้นนำทั่วโลก ซึ่งมีธุรกิจหลักในการสำรวจ พัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายพลังงาน
นอกจากนั้น กองทุนยังอาจลงทุนในบริษัทที่มุ่งพัฒนาและใช้ประโยชน์จากพลังงานทดแทน ผลตอบแทน ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2559 ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 23.33% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 16.64% YTD (2 ม.ค.-17 ส.ค.) อยู่ที่ 14.18% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 12.33%
กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ โกลด์ แอนด์ เพรเชียส อิควิตี้ (KT- Precious) เน้นลงทุนในกองทุน Franklin Gold and Precious Metals ซึ่งลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ ที่เป็นทองคำและโลหะมีค่า ผลตอบแทน ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2559 ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 70.41% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 61.30% YTD อยู่ที่ 103.20% และเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 115.36%
กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เมทัล แอนด์ ไมน์นิ่ง ฟันด์ (KT-Mining) เน้นลงทุนในกองทุน Allianz Global Metals and Moning ลงทุนในหุ้นทั่วโลกเกี่ยวกับการสำรวจ การสกัด หรือการแปรรูปทรัพยากรธรรมชาติ เช่น นิเกิล ทองแดง อลูมิเนียม ทอง แพลตตินัม เหล็ก แร่อื่นๆ ถ่านหิน และโลหะมีค่า เป็นต้น ผลตอบแทน ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2559 ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 50.86% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 50.16% YTD อยู่ที่ 48.12% เกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ 57.72%
กองทุนเปิดเคแทม อาเซียน อิควิตี้ ฟันด์ (KT-ASEAN) เน้นลงทุนใน JPMorgan Funds- ASEAN Equity Fund โดยจะลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เป็นสมาชิกในกลุ่มอาเซียนผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 17 สิงหาคม ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 15.08% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 13.39% YTD อยู่ที่ 12.58% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 10.87%
"ที่ผ่านมาบริษัทมีการออกกองทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนของลูกค้าในการกระจายพอร์ตการลงทุน เพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดี บริษัทมีทีมวิจัยที่ติดตามสถานการณ์การลงทุนต่างๆอย่างใกล้ชิด และหาโปรดักส์ใหม่ ๆ ที่มีโอกาสเติบโตและสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต มานำเสนอให้กับผู้ลงทุนอยู่ตลอดเวลา"นางชวินดา กล่าว