WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KSemNavinกองทุน K-USA และ K-INDIA ผลงานเข้าเป้า บลจ.กสิกรไทย โชว์จ่ายปันผลกองละ 0.30 บาทต่อหน่วย รวมมูลค่ากว่า 222 ล้านบาท ผู้ลงทุนเฮรับเงินพร้อมกัน 16 พ.ค.นี้

      นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย)  เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย มีกำหนดจะจ่ายเงินปันผลกองทุนต่างประเทศจำนวน 2 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน (K-USA) ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 - 30 เมษายน 2559  และกองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน (K-INDIA) ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 - 30 เมษายน 2559  โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 16 พฤษภาคม 2559 นี้ รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้น 222.62 ล้านบาท

   ด้านสถานการณ์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ นายนาวินกล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯเผชิญกับความผันผวนตั้งแต่ต้นปีจากความกังวลในเศรษฐกิจจีน ส่งผลทำให้เกิดการขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ประกอบกับราคาน้ำมันที่ดิ่งลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ในช่วงกลางเดือนก.พ. และปรับตัวขึ้นมากว่า 14% นับจากจุดต่ำสุดในช่วงต้นปี ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆอย่างยุโรปและญี่ปุ่น โดยแรงหนุนหลักมาจากการดำเนินมาตรการของธนาคารกลางในประเทศแกนหลัก อาทิ ธนาคารกลางยุโรปที่ได้เพิ่มเติมมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ส่งผลดีต่อสภาพคล่องในตลาดและช่วยเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ยังคงชะลอการขึ้นดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด ส่งผลทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯมีทิศทางอ่อนค่าลง และส่งผลดีต่อหุ้นโดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทส่งออก ทั้งนี้จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรล่าสุดในเดือนเม.ย. ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ ทำให้ตลาดส่วนใหญ่มองว่า FED น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการประชุมรอบเดือนมิ.ย.ที่จะถึงนี้ แต่ตลาดก็มองว่า FED ยังมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ 1-2 ครั้งภายในปีนี้  ซึ่งความไม่แน่นอนของจังหวะเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะยังทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกมีความผันผวนอยู่อย่างต่อเนื่อง

    สำหรับ คำแนะนำในการเข้าลงทุน ในมุมมองของบลจ.กสิกรไทย มองว่าความน่าสนใจในการลงทุนหุ้นสหรัฐฯมีค่อนข้างจำกัด ด้วยระดับราคาหุ้นปัจจุบันที่ซื้อขายอยู่ในระดับที่ใกล้เต็มมูลค่าและค่อนข้างแพง ประกอบกับอัตราการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มลดลงหากธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นดอกเบี้ย ผู้ลงทุนจึงต้องใช้ความระมัดระวังหากต้องการเข้าลงทุนเพิ่มเติมนายนาวินกล่าว

     นายนาวินกล่าวต่อไปว่า ด้านตลาดหุ้นอินเดียในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ดัชนี BSE100  สามารถปรับตัวเป็นบวก 4.24%  เนื่องมาจากในช่วงที่ผ่านมาธนาคารกลางอินเดียยังคงชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นอินเดียเพิ่มขึ้น ประกอบกับตัวเลขผลประกอบการในภาคธนาคารที่ฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงในหมวดสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวดีขึ้นตามราคาตลาดโลก ทั้งนี้จากกลยุทธ์การลงทุนของกองทุนหลักที่มีการคัดเลือกหลักทรัพย์ได้อย่างเหมาะสม ส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานของกองทุน K-INDIA ปรับตัวขึ้นใกล้เคียงกับตลาด โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน กองทุนให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 5.66% เปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 6.02% (ข้อมูล ณ วันที่ 29 เม.ย. 2559)

    ส่วนแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจของอินเดียในปีนี้ IMF คาดการณ์ตัวเลข GDP อยู่ที่ 7.5% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 7.3% ถือเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยปัจจัยสนันสนุนที่สำคัญมาจากมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจของอินเดีย อาทิ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการควบคุมเงินเฟ้อ และการปฏิรูปธุรกิจธนาคาร ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน นอกจากนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 59 จากการที่ธนาคารกลางอินเดียมีมติดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 6.50% ซึ่งถือว่าต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 54 จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของบลจ.กสิกรไทย คาดว่าตลาดหุ้นอินเดียในระยะสั้นยังมีความผันผวนต่อเนื่อง จากแรงกดดันเรื่องจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯและการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะส่งผลต่อเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศเกิดใหม่อย่างอินเดีย นอกจากนี้ด้วยระดับราคาหุ้นของอินเดียที่ปรับขึ้นมามากแล้ว ทำให้ Upside มีค่อนข้างจำกัด ผู้ลงทุนจึงต้องใช้ความระมัดระวังหากต้องการเข้าลงทุนเพิ่มเติม

     ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน K-USA และกองทุน K-INDIA สามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 02673 3888

กองทุน   รอบผลการดำเนินงาน         อัตราเงินปันผล (บาท/หน่วย)

K-USA            1 กุมภาพันธ์ 2559 - 30 เมษายน 2559              0.30

K-INDIA         1 กุมภาพันธ์ 2559 - 30 เมษายน 2559              0.30

*คิดจาก NAV วันที่ 29 เม.ย 59

     ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุน K-USA และกองทุน K-INDIA ได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายหน่วยลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินของหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุน โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนจึงอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!