WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTAMชวนดาKTAM ขายตราสารหนี้ 6 เดือนชู1.55% เพิ่มทางเลือก KT-GMO กระจายเสี่ยง                                         

       นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า  บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 93 (KTFF93) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2559   อายุ 6 เดือน  เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภท  MTN ที่ออกโดย Banco Latinoamericano de Comercio Exterior , S.A. เงินฝากประจำ  Bank of China(Macau), Commercial Bank of Qatar Q.S.C. ,First Gulf Bank PJSC และ Standard Chartered Bank ผลตอบแทนประมาณ 1.55% ต่อปี

   นอกจากนี้  อยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ (Roll Over) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส  6 เดือน 2 (KTSIV6M2) เสนอขายถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2559  อายุ  6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภทเงินฝาก ตั๋วเงินคลัง  พันธบัตรรัฐบาล  ประมาณ 28 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชน ผลตอบแทนประมาณ 1.50%ต่อปี

  นางชวินดา กล่าวต่อไปว่า หากนักลงทุนที่มองโอกาสในการสร้างผลตอบแทนและต้องการกระจายความเสี่ยง  ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้  บริษัทขอแนะนำกองทุนเปิดเคแทม โกลบอล แม็คโคร ออพเพอทูนิตี้  ฟันด์ (KT-GMO) ซึ่งนับว่าเป็นกองทุนที่มีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในทุกสภาวะตลาด โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน JP Morgan Investment Funds Global Macro Opportunities Fund ซึ่งกองทุนรวมหลักมีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนเป็นบวกในทุกสภาวะตลาด รวมถึงการควบคุมความผันผวนจากการบริหารกองทุนรวมหลัก  เน้นป้องกันความเสี่ยงจากตลาดขาลง และสร้างการเติบโตของเงินทุนในส่วนที่เกินจากดัชนีอ้างอิง โดยการลงทุนส่วนใหญ่จะลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภททั่วโลกและจะมีการใช้กลยุทธ์ลงทุนในอนุพันธ์ที่เหมาะสม  ตามสภาวะตลาด และโอกาสในการลงทุน  เป็นกองทุนที่ได้รับ 5 ดาวจาก  Morningstar

    ทั้งนี้ ผลตอบแทนย้อนหลัง ของกองทุนรวมหลัก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 9.66%  ย้อนหลัง 2 ปี  อยู่ที่ 12.71 % และย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 16.11%  ในขณะที่ดัชนีมาตรฐาน ICE 1 month EUR LIBOR ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -0.08%  2 ปีอยู่ที่ 0.12%  และ3 ปี อยู่ที่ 0.09%

   ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ การซื้อขายในตลาดค่อนข้างเบาบาง อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามตัวเลขเงินเฟ้อ  แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวเริ่มมีการปรับตัวลดลงตามปัจจัยต่างประเทศ โดยตลาดผิดคาดกับธนาคารกลางญี่ปุ่น  ที่ไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลงหลังมีข่าวการส่งออกน้ำมันของอิรักอยู่ในระดับสูงมาก ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐภาคการผลิตออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และการปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) โดยนักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิจำนวน 13,297 ล้านบาท สรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี  อยู่ที่ 1.41% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปีอยู่ที่ 1.59% ต่อปี อายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 1.83% ต่อปี และอายุคงเหลือ 20 ปี  ปรับตัวอยู่ที่ 2.28% สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในการประชุม กนง.วันที่ 11 พฤษภาคม ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ  และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ  ส่วนอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 0.74% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 1.23 % ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 1.79% ต่อปี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ / สำนักประชาสัมพันธ์คุณแสงสิริ  เนตรอัมพร /   โทรศัพท์  0-2686-6206-7  / 082-082-2121คุณณพรรษกร ธโนปจัย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!