- Details
- Category: บลจ.
- Published: Wednesday, 02 March 2016 23:10
- Hits: 3510
เอ็มเอฟซี ตั้งเป้ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิปี 2559 เติบโต 470,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 29
บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เผยผลงานปี 2558 บริษัทมีรายได้ 909 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 210 ล้านบาท ด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การจัดการของเอ็มเอฟซี ขึ้นครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 15.93 ส่วนปี 2559 ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนทุกประเภท (NAV) เป็น 470,000 ล้านบาท เน้นกลยุทธ์หลักเรื่องการขยายสาขาไปยังต่างจังหวัด เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านระบบ MFC SMART APP. เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มฐานลูกค้า สร้างรายได้และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เอ็มเอฟซีในอนาคต
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2558 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนทุกประเภทภายใต้การจัดการของบริษัทมีมูลค่า 364,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนรวม 194,000 ล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 141,000 ล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคล 29,000 ล้านบาท โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนทุกประเภทมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 5 ของอุตสาหกรรม คิดเป็นร้อยละ 6.54
เอ็มเอฟซี ได้เสนอขายกองทุนใหม่ในปีที่แล้ว 42 กองทุน เป็นกองทุนรวม 19 กองทุน มูลค่ารวม 7,986 ล้านบาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 1 กองทุน มูลค่ารวม 975 ล้านบาท ด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้มีการจัดตั้งกองทุนใหม่ 6 กองทุน มูลค่ารวม 5,824 ล้านบาท ส่งผลให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การจัดการครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 15.93* และกองทุนส่วนบุคคลมีการจัดตั้งกองทุนใหม่ 15 กองทุน มูลค่ารวม 3,115 ล้านบาท
นอกจากนี้ เอ็มเอฟซียังได้ร่วมมือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทยในการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนในกิจการ SME นับเป็นกองแรกของประเทศที่จัดตั้งตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ความช่วยเหลือ SME ไทย
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา เอ็มเอฟซีได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวม 35 กองทุน เป็นเงินกว่า 1,163.37 ล้านบาท โดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเหมราชอินดัสเตรียล (HPF) จ่ายเงินปันผลรวมสูงสุดกว่า 315.14 ล้านบาท และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี แอคทิฟ อิควิตี้ ฟันด์ (M-ACTIVE) จ่ายเงินปันผลต่อหน่วยสูงสุด 1.50 บาท (หมายเหตุประกอบด้านล่าง)
กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) ภายใต้การจัดการของเอ็มเอฟซียังได้รางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2015 ประเภทกองทุนรวมหุ้นระยะยาว 100% จากวารสารการเงินธนาคาร และเอ็มเอฟซียังได้รับรางวัลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ปี 2558 จากสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประเภทรางวัลพิเศษบริษัทจัดการลงทุนที่มีระบบงานดีเด่นกองทุนร่วม (Pooled Fund) จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเอ็มเอฟซี มาสเตอร์ ฟันด์ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว
ในปีที่ผ่านมาเอ็มเอฟซียังได้ Re opening สาขาแจ้งวัฒนะ และเปิดสาขาเพิ่มเติมที่ ระยอง พิษณุโลก และเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า เพื่อให้บริการด้านการวางแผนการลงทุนสำหรับกลุ่มผู้สนใจลงทุนได้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค และเอ็มเอฟซียังเปิดให้บริการข้อมูลกองทุนรวมผ่านโทรศัพท์มือถือ MFC SMART APP เพื่อเผยแพร่กองทุนให้เป็นที่รู้จักทั่วไป และให้บริการซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านมือถือ MFC SMART APP เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ถือหน่วยลงทุน และเป็นการขยายฐานลูกค้าอีกด้วย
กรรมการผู้จัดการ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2559 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเป็น 470,000 ล้านบาทหรือร้อยละ 29 และรักษาระดับรายได้ที่ประมาณ 1,155.8 ล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นกลยุทธ์หลักคือ การขยายสาขาไปต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มฐานลูกค้า สร้างรายได้ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเอ็มเอฟซี อีกทั้งการหา Strategic Partners เพื่อพัฒนาธุรกิจ พัฒนากองทุนรูปแบบใหม่ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าจากผลงานการบริหารกองทุนและผลตอบแทนทุกประเภทกองทุน เพื่อให้เกิดความสะดวกและเป็นที่ประทับใจแก่ลูกค้า และการมุ่งเน้นธุรกิจที่สร้างการเติบโตและรายได้ที่ยั่งยืนให้กับบริษัท
MFC ตั้งเป้ามูลค่า NAV ปี 59 โต 29% มาที่ 4.7 แสนลบ.เน้นขยายตจว.
น.ส.ประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) เปิดเผยว่า ในปี 59 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเป็น 470,000 ล้านบาทหรือ 29% และรักษาระดับรายได้ที่ประมาณ 1,155.8 ล้านบาท โดยเน้นกลยุทธ์หลัก คือ การขยายสาขาไปต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มฐานลูกค้า สร้างรายได้ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเอ็มเอฟซี
อีกทั้ง การหา Strategic Partners เพื่อพัฒนาธุรกิจ พัฒนากองทุนรูปแบบใหม่ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าจากผลงานการบริหารกองทุนและผลตอบแทนทุกประเภทกองทุน เพื่อให้เกิดความสะดวกและเป็นที่ประทับใจแก่ลูกค้า และการมุ่งเน้นธุรกิจที่สร้างการเติบโตและรายได้ที่ยั่งยืนให้กับบริษัท
สำหรับในปี 58 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนทุกประเภทภายใต้การจัดการของบริษัทมีมูลค่า 364,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนรวม 194,000 ล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 141,000 ล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคล 29,000 ล้านบาท โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนทุกประเภทมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 5 ของอุตสาหกรรม คิดเป็น 6.54%
เอ็มเอฟซีได้เสนอขายกองทุนใหม่ในปีที่แล้ว 42 กองทุน เป็นกองทุนรวม 19 กองทุน มูลค่ารวม 7,986 ล้านบาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 1 กองทุน มูลค่ารวม 975 ล้านบาท ด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้มีการจัดตั้งกองทุนใหม่ 6 กองทุน มูลค่ารวม 5,824 ล้านบาท ส่งผลให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การจัดการครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 15.93% และกองทุนส่วนบุคคลมีการจัดตั้งกองทุนใหม่ 15 กองทุน มูลค่ารวม 3,115 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทยในการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนในกิจการ SME นับเป็นกองแรกของประเทศที่จัดตั้งตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ความช่วยเหลือ SME ไทย
ในปีที่ผ่านมา เอ็มเอฟซีได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวม 35 กองทุน เป็นเงินกว่า 1,163.37 ล้านบาท โดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเหมราชอินดัสเตรียล (HPF) จ่ายเงินปันผลรวมสูงสุดกว่า 315.14 ล้านบาท และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี แอคทิฟ อิควิตี้ ฟันด์ (M-ACTIVE) จ่ายเงินปันผลต่อหน่วยสูงสุด 1.50 บาท (หมายเหตุประกอบด้านล่าง)
กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) ภายใต้การจัดการของเอ็มเอฟซียังได้รางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2015 ประเภทกองทุนรวมหุ้นระยะยาว 100% จากวารสารการเงินธนาคาร และเอ็มเอฟซียังได้รับรางวัลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ปี 2558 จากสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประเภทรางวัลพิเศษบริษัทจัดการลงทุนที่มีระบบงานดีเด่นกองทุนร่วม (Pooled Fund) จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเอ็มเอฟซี มาสเตอร์ ฟันด์ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว
และยังได้ Re opening สาขาแจ้งวัฒนะ และเปิดสาขาเพิ่มเติมที่ ระยอง พิษณุโลก และเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า เพื่อให้บริการด้านการวางแผนการลงทุนสำหรับกลุ่มผู้สนใจลงทุนได้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค และเอ็มเอฟซียังเปิดให้บริการข้อมูลกองทุนรวมผ่านโทรศัพท์มือถือ MFC SMART APP เพื่อเผยแพร่กองทุนให้เป็นที่รู้จักทั่วไป และให้บริการซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านมือถือ MFC SMART APP เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ถือหน่วยลงทุน และเป็นการขยายฐานลูกค้าอีกด้วย
อินโฟเควสท์