- Details
- Category: บลจ.
- Published: Thursday, 21 January 2016 22:45
- Hits: 5222
บลจ.กสิกรไทย มองดัชนีฯ หุ้นไทยปีนี้ดีสุด 1400-1450 จุด แย่สุด 1200 จุด
บลจ.กสิกรไทย มองดัชนีฯ หุ้นไทยปีนี้ดีสุด 1400-1450 จุด แย่สุด 1200 จุด เตรียมหั่นเป้ากำไร บจ.ปีนี้ จากเดิมคาดโต 15% หลังราคาน้ำมันดิ่ง แนะเก็บหุ้นรับเหมาฯ-ท่องเที่ยว รับอานิสงส์โครงการรัฐ เลี่ยงหุ้นพลังงาน-สื่อสาร คาดจีดีพีปีนี้โต 2.5-3.5% การลงทุนภาครัฐหนุนการเติบโต
นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการสายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า มองการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ถือว่าเป็นปีที่เหนื่อยอีกปีหนึ่ง ซึ่งคาดดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังคงถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ และมองว่าช่วงต้นคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะ Sideway โดยประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ 1,400-1,450 จุด โดยช่วงระหว่างปีคาดว่าดัชนีฯ จะต่ำสุดที่ 1,200 จุด โดย P/E อยู่ที่ 14 เท่า
อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทย อาจจะหั่นเป้ากำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS Growth) ปีนี้ลง จากเดิมคาดโต 100 บาทต่อหุ้นหรือโต 15% หลังราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอาจจะทำให้กดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งในปีนี้หุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากการลงทุนของภาครัฐ อาทิ เช่น หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ และท่องเที่ยวยังเป็นหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ แต่ควรเลี่ยงหุ้นในกลุ่มพลังงานและสื่อสาร ซึ่งในปีนี้บริษัทฯอยากให้นักลงทุนเน้นหุ้นรายตัวมากขึ้น ซึ่งจะเป็นหุ้นที่ปันผลดีและมีอัตราการเติบโตที่สูง
อย่างไรก็ตาม อยากให้นักลงทุนถือเงินสดมากขึ้นกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ มองว่าหุ้นไทยยังน่าสนใจที่จะเข้าไปลงทุน โดยประเมินจีดีพีปีนี้จะอยู่ที่ 2.5-3.5% ซึ่งค่าเฉลี่ยกลางจะอยู่ที่ 3% หลังการลงทุนภาครัฐที่จะเข้ามาสนับสนุนในปีนี้
ด้านนายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า เป้าหมายและกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2559 ได้ตั้งเป้าหมายเพื่อจะยกระดับความเป็นผู้นำในธุรกิจกองทุนขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง โดยวางเป้าหมายที่จะเป็นบลจ.แห่งแรกที่มุ่งความสำเร็จทางการเงินให้แก่ลูกค้ารายย่อย โดยการแนะนำพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม โดยใช้ชื่อว่า Simplify Your Investment Life
บริษัทฯ มีความพร้อมทั้งสามด้าน คือ 1.การมีผลิตภัณฑ์กองทุนที่หลากหลาย ตอบโจทย์การลงทุนได้ครอบคลุมทุกช่วงชีวิตการลงทุน 2. การมีผลิตภัณฑ์กองทุนที่มีคุณภาพ 3. การมีบริการและเครื่องมือต่าง ๆ ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่าย ซึ่งปีนี้ได้ตั้งเป้าจำนวนลูกค้าที่เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 2.7 หมื่นราย จากปี 2558
นอกจากนี้ คาดว่าการเติบโตของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ของบริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมกองทุนรวม 10% โดยปี 2558 สามารถทำ AUM ได้ทั้งสิ้น 1.13 ล้านล้านบาท โดยเติบโต 4% เมื่อเทียบกับปี 2557 โดยบริษัทฯ จะยังรักษาการเป็นอันดับหนึ่งของกองทุนรวม ซึ่งมีมาร์เก็ตแชร์ 25%
บริษัทฯ มีแผนออกกองทุนในปีนี้อย่างน้อยเดือนละ 1 กองทุน โดยจะเน้นกองทุนต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งกลยุทธ์ของ บลจ.กสิกรไทย คือ จะต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาด ทั้งการออกกองทุนหุ้นในต่างประเทศ เนื่องจากมีโอกาสเติบโตสูง โดยสนใจลงทุนในตลาด AEC เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ที่ตลาดยังมีแนวโน้มปรับตัวได้ดี
นอกจากนี้ อาจจะมีการออกกองทุนหุ้นในประเทศ แต่อาจจะเป็นแบบเฉพาะเจาะจง โดยจะเน้นหุ้นที่โดดเด่นในกลุ่มของภาคการก่อสร้าง การท่องเที่ยว และกลุ่มที่ได้จากการบริโภคภายในประเทศ นอกจากนี้ ยังมีกองทุน Fix Income ซึ่งจะเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ เนื่องจากได้รับความสนใจจากนักลงทุนในสภาพตลาดที่มีความผันผวนสูง
อย่างไรก็ตาม ด้านผลการดำเนินงานของแต่ละกองทุนในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังรักษามาตรฐานการบริหารผลการดำเนินงานของกองทุนในภาพรวมได้เป็นที่น่าพอใจ โดยมี 12 กองทุนที่บริษัทฯ บริหารงานติดอยู่ในอันดับ First Quartile จากการจัดอันดับของสมาคมจัดการลงทุน (AIMC) ซึ่งจะแบ่งเป็นกองทุนในกลุ่มตลาดเงิน 7 กองทุน กองทุนหุ้นและกองทุนผสม 5 กองทุน กองทุนต่างประเทศ 6 กองทุน
ด้านแหล่งข่าวจาก บลจ.กสิกรไทย กล่าวเพิ่มเติม ถึงกรณีหุ้นที่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง ได้มีการใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้นว่า บริษัทฯ จะดำเนินไปทิศทางเดียวกับสมาคมจัดการลงทุน เพื่อให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โดย บลจ.กสิกรไทย ได้มีการปรึกษากับทางสมาคมฯ อยู่ตลอดเวลา