- Details
-
Category: บลจ.
-
Published: Friday, 04 July 2014 10:54
-
Hits: 3147
บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M100 ชูผลตอบแทน 2.65%ต่อปี
บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M100 (KFFIX6M100) อายุประมาณ 6 เดือน เสนอขายถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 2557 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท จ่ายผลตอบแทนประมาณ 2.65% ต่อปี
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด หรือ KSAM เปิดเผยว่า “บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M100(KFFIX6M100) อายุประมาณ 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร China Construction Bank (สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (Asia) (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 15% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Agricultural Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 15% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% และตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10%
ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.60% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป”
“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M100 (KFFIX6M100) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อคผลตอบแทน โดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน” นายฉัตรพี กล่าว
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 หรือ เว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนเอกสารที่เกี่ยวกับกองทุนได้ที่เว็บไซต์บริษัทจัดการ หรือที่บริษัทจัดการและสำนักงานของผู้สนับสนุนการขายก่อนตัดสินใจลงทุน
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ วัลลภา กรีธาธร ส่วนสื่อสารองค์กร
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด Krungsri Asset Management Co.,Ltd. (KSAM)
โทร. 0-2305-2504 Email : [email protected]
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 04/07/57 |
Market View : แนวต้าน 1,500 Technical : แนวรับ 1,485 /1,478 แนวต้าน 1,500 / 1,520 หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTEP แนวรับ 161 / 159 แนวต้าน 164 / 169.5 หุ้นเด่นรายวัน : TMTCGD
วันพฤหัสบดีตลาดหุ้นไทยปิดบวก 1.40 จุด ตลาดแกว่งไซต์เวย์ ขานรับ Flow ไหลเข้า-เก็งกลุ่มแบงก์ ดัชนี SET ปิดที่ 1,493.21 จุด เพิ่มขึ้น 1.40 จุด(+0.09%) มูลค่าการซื้อขาย 41,070.64 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 446.08 ล้านบาท แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,468-1.500(1,520) แรงขายทำรอบระยะสั้นยังคงมีให้เห็นซึ่งเป็นไปตามลักษณะของการวิเคราะห์เทคนิคแท่งเทียน แต่กลุ่มธนาคารยังคงมีความคาดหวังเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการ การปรับตัวจึงมีแรงรับ ในขณะที่ SET50 ระยะสั้นเน้นยืน 1,000 เป็นจุดตัดสินใจ ปิดต่ำกว่าเป็นสัญญาณลบ แนวรับหลัก 982 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 20,330-20,680 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 20,390-20,740 กลยุทธ์ ปริมาณการซื้อขายลดน้อยลงสอดคล้องกับการเปลี่ยนกลุ่มของลักษณะการซื้อเก็งกำไรเล่นรอบ(ซื้อหุ้นขนาดเล็กขายกลุ่มพลังงาน) แต่ยังคงมีแรงซื้อระยะสั้นเข้ามาในกลุ่มธนาคารโดยคาดหวังเรื่องแนวโน้มผลประกอบการเชิงบวกในครึ่งปีหลังเป็นหลัก (ประกาศผลประกอบการไตรมาส2 หลังวันที่ 15) ยังคงเน้นธนาคารขนาดใหญ่ KTB BBL KBANK SCB กลุ่มพลังงาน PTTEPหาโอกาสเข้าซื้อเมื่อปรับลงแรง หุ้นรายหลักทรัพย์ TSR BEC TCJ NIPPON HMPRO ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง
หุ้นแนะนำพิเศษ PTTEP (ปิด 161 ซื้อเป้าปี 57 : 185 บาท) เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ PTTEP ใน 2Q57 โดยคาดกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น QoQ โดยมีแรงหนุนจากการเริ่มรับรู้รายได้และกำไรจากการเข้าซื้อสินทรัพย์ของ Hess Thailand ในช่วงวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นเราคาดว่าการเข้าซื้อดังกล่าวจะเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมให้กับ PTTEP ใน 2Q57 ประมาณ 8,000 -10,000 BOED หรือมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 1Q57 ประมาณ 3% จาก 298,000 BOED เป็น 308,000 BOED ส่วนทั้งปีคาดกำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 66,484 ล้านบาทเพิ่มขึ้น18%yoy
หุ้นเด่นรายวัน TMT (ปิด 11.10 ซื้อเก็งกำไร) ผลประกอบการดีปันผลเด่น เราคาดว่า TMT จะมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในครึ่งปีหลังและต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าเนื่องจากธุรกิจได้แรงหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทำให้ยอดขายเหล็กจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ TMT ยังมีเงินปันผลจ่ายอย่างสม่ำเสมอโดย 10 ปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ทุกปีโดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยในรอบ 10 ปีที่ 9% CGD (ราคาปิด 1.38 ซื้อเก็งกำไร) พลิกฟื้นมีกำไรใน 2Q57 ครั้งแรกในรอบ 4 ปี เหตุตัดค่าใช้จ่าย-บริหารต้นทุนลดฮวบ พร้อมบุ๊ครายได้จาก โครงการคอนโดฯ “อิลีเมนท์ ศรีนครินทร์” เฟส 1 แถมเตรียมตั้งกองทุน REIT ในช่วง 3Q57 (ที่มา: ข่าวหุ้น)
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance * AJP / APCO / EE มีผลบังคับใช้ 26 พ.ค. - 4 ก.ค. 57 * BMCL / RPC มีผลบังคับใช้ 2 มิ.ย. - 10 ก.ค. 57 * RASA มีผลบังคับใช้ 9 มิ.ย. – 18 ก.ค. 57 * AJD / TFI / TH / TRUE / UV มีผลบังคับใช้ 16 มิ.ย. - 25 ก.ค. 57 * IFEC / PF / SLC มีผลบังคับใช้ 23 มิ.ย. - 1 ส.ค.57 * EFORL / TSF มีผลบังคับใช้ 30 มิ.ย. - 8 ส.ค.57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 92.02 จุด ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 92.02 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดยเมื่อวานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 288,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 215,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 92.02 จุด หรือ +0.54% ปิดที่ 17,068.26 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 28.20 จุด หรือ +0.63% ปิดที่ 4,485.93 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 10.82 จุด หรือ +0.55% ปิดที่ 1,985.44 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 42 เซนต์ ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 42 เซนต์ หลังมีการคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันจากลิเบียอาจจะเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลกมากขึ้น หลังจากมีรายงานว่าท่าขนส่งน้ำมัน 2 แห่งของลิเบียสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกตินอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันหลังจากนายอับดุล การีม อัล-ลุยบิ รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันอิหร่านคาดการณ์ว่า ปริมาณการส่งออกน้ำมันอิรักจะเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. เนื่องจากเหตุการณ์รุนแรงไม่ได้บานปลายไปยังตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการผลิตน้ำมันคิดเป็น 3 ใน 4 ของอิรัก ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 42 เซนต์ ปิดที่ 104.06 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 24 เซนต์ ปิดที่ 111 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst – ธวัชชัย 02-6725993 [email protected] วิลาสินี 02-6725937 [email protected] อาทิตย์ [email protected] Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
|
|