- Details
- Category: บลจ.
- Published: Monday, 03 August 2015 22:57
- Hits: 6174
บลจ.วรรณ ฉวยจังหวะหุ้นจีนดิ่ง เปิดขายกองทุน’วรรณ ไชน่า แวลู 10 ฟันด์’ เลือกลงทุนหุ้นธนาคารรัฐขนาดใหญ่
บลจ.วรรณ พลิกโอกาสช่วงตลาดหุ้นประเทศจีนปรับตัวลง เลือกลงทุนในหุ้นของธนาคารรัฐขนาดใหญ่ ที่มีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่น และมีมูลค่าต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ประเมินเศรษฐกิจจีนยังต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงิน นโยบายการคลังต่อเนื่อง พร้อมเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ ไชน่า แวลู 10 ฟันด์ (ONE-CHINA10) เป้าหมายสร้างผลตอบแทน 10% ภายใน 10 เดือน เปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 10 สิงหาคม 2558
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนมีการปรับตัวลงและมีความผันผวนมาก จากแรงขายทำไรของนักลงทุนรายย่อย ซึ่งสะท้อนได้จากการปรับลดลงของมูลค่า Free-Floated ที่ปรับลดลงกว่า - 1.5 พันล้านดอลลาร์จากระดับสูงสุด อย่างไรก็ดีทางการจีนได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อช่วยดูแลเสถียรภาพของตลาดหุ้นของรัฐบาลจีน และช่วยเรียกความเชื่อมั่นและคลายความกังวลได้ระดับหนึ่ง สะท้อนได้จากที่มีการชะลอการลดลงของตลาดหุ้น
“ตั้งแต่ต้นปี ดัชนีตลาดหุ้นจีนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 50% ซึ่งการปรับตัวลดลงในรอบนี้ ผมมองว่าเป็นระดับที่มีการขายทำกำไรออกไปบ้าง ประกอบกับทางการจีนได้ใช้มาตรการฉับพลันควบคุมการซื้อหุ้นด้วยการกู้ยืมนอกตลาด พร้อมกับอนุญาตให้นักลงทุนสามารถยืมหุ้นเพื่อนำไปขายชอร์ตได้ ดังนั้น นักลงทุนจึงเกิดความกังวลกับสถานการณ์ตลาดและมีแรงเทขายออกมาก” ดร.วินกล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทประเมินว่านโยบายการเงินและนโยบายการคลังที่รัฐบาลดำเนินการอยู่จะยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจจีนอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในช่วงครึ่งปีแรก รวมถึงงบประมาณการใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 17 ล้านล้านหยวน จากปีก่อน ในขณะที่นโยบายด้านอัตราดอกเบี้ย มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางของจีนมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% จากปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ประมาณ 4.8% ซึ่งถือว่ายังเป็นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับสหรัฐ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ประมาณ 0.12% ยุโรปและญี่ปุ่นอยู่ที่ 0% ทำให้มีช่องว่างในการใช้นโยบายทางการเงิน กระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต รวมถึงการเชื่อมโยงตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง และผ่อนคลายเกณฑ์ลงทุน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นได้ต่อไป
ดร.วินกล่าวเสริมว่า การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นจีนทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทจดทะเบียนของประเทศจีนอยู่ในระดับราคาที่น่าสนใจ ขณะที่รายได้ของบริษัทจดทะเบียนยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2014 -2016 อัตราการเติบโตของรายได้บริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ประมาณ 7% 9% และ 11% ตามลำดับ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งหุ้นในกลุ่มการเงินของจีนมีขนาดตลาดที่ใหญ่คิดเป็นสัดส่วน 68% ของดัชนี HSCEI ในขณะที่ธนาคารรัฐวิสาหกิจของจีนขนาดใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ Industrial and Commercial Bank of China(ICBC) , China Construction Bank (CCB) , Agricultural Bank of China(ABC), Bank of China(BOC) รวมกันมีขนาด 33.5%ของตลาดหุ้น
“หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของจีนมีความน่าสนใจจากขนาดตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ ในขณะที่มูลค่าหุ้นอยู่ในระดับต่ำ โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน และอัตราการปล่อยสินเชื่อขยายตัวอย่างแข็งแกร่งหลังการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบสินทรัพย์ต่อทุนของธนาคารพาณิชย์ทั้งตลาด A-Share และ H-Share อยู่ที่ประมาณ 15-16 เท่า ซึ่งถือว่ายังมีทุนค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่ครอบครอง” ดร.วินกล่าว
ในด้านมุมมองการลงทุน บลจ.วรรณ เชื่อว่า ในช่วงที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง เป็นโอกาสการลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีบางตัว บริษัทจึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ ไชน่า แวลู 10 ฟันด์ (ONE-CHINA10) ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 10 สิงหาคม 2558 โดยกองทุนสร้างเป้าหมายเลิกโครงการที่ 10% ภายใน 10 เดือน เน้นลงทุนโดยให้น้ำหนักการลงทุนที่เท่ากันในหุ้นกลุ่มธนาคารรัฐจีน อาทิ Industrial and Commercial Bank of China ,China Construction Bank , Agricultural Bank of China, Bank of China, China CITIC Bank ซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่น ด้านราคาหุ้นที่มีมูลค่าต่ำ อัตราหนี้สิ้นต่อทุน (P/E) ต่ำกว่า 6 เท่า ราคาหุ้นต่อบัญชี ( P/B) ต่ำกว่า 1 เท่า มีโอกาสการจ่ายปันผล(Dividend Yield) มากกว่า 5% และมีกำไรในส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) สูงกว่า 12% และมีโครงสร้างงบดุลที่แข็งแกร่ง โดยมีสัดส่วนการกั้นสำรองหนี้เสีย (Loan loss Reserve Ratio) มากกว่า 160% โดยกองทุน ONE-CHINA10 มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน(Fully Hedging)
“ที่ผ่านมา หุ้นธนาคารจีนให้ผลตอบแทนดีกว่าดัชนี ในขณะที่ระยะสั้นราคาหุ้นมีการปรับตัวลงมา ผมมองว่า เป็นโอกาสที่ดี เพื่อคัดเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ซึ่งวิเคราะห์จากมูลค่าหุ้นที่ราคาถูก มีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดี โครงสร้างของงบดุลที่ดี และมีอัตราการจ่ายปันผลที่สูง โดยกลยุทธ์การลงทุนในกองทุน ONE-CHINA10 คือ การหาจังหวะเข้าลงทุนแล้วถือในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ดังนั้น กองทุนนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนชอบลงทุนในหุ้นช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัวลง” ดร.วินกล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย