WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บลจ.วรรณ คงเป้าดัชนีฯ ปีนี้ที่ 1500-1550 จุด คาดเงินต่างชาติไหลกลับช่วงครึ่งปีหลัง 2-3 หมื่นลบ. จากนโยบายกระตุ้น ศก.ของ คสช.

    บลจ.วรรณ คงเป้าดัชนีฯ ปีนี้ที่ 1500-1550 จุด ส่วนปีหน้าคาดแตะ 1600-1650 จุด จากนโยบายกระตุ้น ศก.ของ คสช. ประเมินเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลัง 2-3 หมื่นลบ. หลังความมั่นใจเพิ่มขึ้น พร้อมคาด EPS บจ.ปีนี้โต 7-10% ส่วนปีหน้าคาดโต 10-15% ส่วนจีดีพีปีนี้มองโต 2-2.5% ปีหน้า 4-6%

     นายวิน อุดมรัชตวิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีนี้ที่ 1500-1550 จุด โดยในระยะสั้นเชื่อว่านักลงทุนในประเทศมีโอกาศเทขายทำกำไรออกมาบางส่วนหลัง จากมีการเข้าซื้อหุ้นที่ดัชนีราว 1300 จุด แต่ประเมินว่าในช่วงครึ่งปีหลังนักลงทุนต่างชาติจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในประเทศอีกครั้ง หลังจากมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. มีการกำหนดนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน

    ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าดัชนีหุ้นไทยในปีหน้าจะอยู่ที่ 1600-1650 จุดโดยที่ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสขึ้นสูงสุดถึง 1700 จุด หากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ คสช.สามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่องและเห็นความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น

    โดยคาดว่าเงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ  20,000-30,000 ล้านบาท หลังนักลงทุนต่างมีความมั่นใจต่อภาพรวมเศรษฐกิจของไทยมากขึ้น

    "ในช่วงครึ่งปีหลังต่างชาติมีโอกาสกลับมาซื้อสูงมาก จากความมั่นใจที่สูงขึ้นซึ่งเมื่อเราคำนวณจากดัชนี MSCI ของตลาดกำลังพัฒนา พบว่าตั้งแต่ต้นปี 56 จนถึงปัจจุบันมีเงินไหลออกจากตลาดกำลังพัฒนาราว 600,000-700,000 ล้านบาท ซึ่งไทยมีส่วนแบ่งจากเงินลงทุนดังกล่าวประมาณ 3% ซึ่งหากนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้ออีกครั้งในจำนวนและสัดส่วนใกล้เคียงกับที่ผ่านมา ก็จะมีเงินไหลเข้าไทยราว 20,000-30,000 ล้านบาท"นายวิน กล่าว

    นอกจากนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะโตที่ ระดับ 7-10% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ในขณะที่บริษัทฯคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปี 58 จะโตที่ระดับ 10-15 % จากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช.ที่จะเริ่มเห็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

    ในขณะที่บริษัทยังคงเป้าประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้โตที่ 2-2.5% และโตที่ระดับ 4-6% ได้ในปี 58 ขึ้นอยู่กับนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนต่างๆ ของ คสช. จะสามารถเดินหน้าและประสบความสำเร็จได้มากน้อยเพียงใด  

    "ในปีนี้เรายังมอง GDP จะโตที่ 2-2.5% จากการเข้ามาของ คสช. ซึ่งทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนต่างๆ ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังและ GDP ไทย จะโตอย่างก้าวกระโดดในปี 58 ที่ 4-6% ขึ้นอยู่กับว่าแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ คสช.วางไว้จะประสบผลสำเร็จมากน้อยเพียงใด" นายวิน กล่าว

    นายวิน กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร รือ AUM ประมาณ 84,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของปีนี้ที่วางไว้ 82,000 ล้านบาทแล้ว โดยจะไม่มีการกำหนดเป้าหมายใหม่

    ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯเตรียมที่จะออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อีก 2 กอง มูลค่ารวม 2,800 ล้านบาทโดยทั้ง 2 กองทุนจะอยู่ในลักษณะ Freehold ซึ่งมีทรัพย์สินในกองทุนเป็นโกดังโรงงานและพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าโดยจะออกกองทุนแรกในไตรมาสที่ 3 มูลค่า 800 ล้านบาท และไตรมาสที่ 4 อีกหนึ่งกองทุนมูลค่า 2,000 ล้านบาท

   "เป้า AUM ในปีนี้ ทะลุเป้าหมายที่วางไว้แล้วซึ่งเราจะไม่มีการปรับเพิ่มเป้าหมายใหม่แต่อย่างใดโดยในส่วนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จะมีการเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังอีก 2 กอง มูลค่ารวม 2800 ล้านบาท ซึ่งแผนงานที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันเป็นอย่างมาก" นายวิน กล่าว

   โดยในวันนี้ บลจ.วรรณ ได้เปิดให้บริการรับชำระเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2557 เพื่อเพิ่มช่องทางในการชำระเงินค่าซื้อหน่วยลงทุน โดยสามารถเลือกชำระเงินผ่านทุกสาขาของเทสโก้ โลตัส, เคาท์เตอร์เซอร์วิส ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศได้แล้ววันนี้ โดยมีจุดบริการรับชำระถึง 8,000 จุด

   "บริการระบบ Pay Point น่าจะสามารถตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายในการชำระเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนและเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเอื้อประโยชน์ให้แก่นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนมากขึ้น โดยวันนี้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.57 บลจ.วรรณจะเป็นผู้รับภาระค่าธรรมเนียมการทำรายการแทนผู้ลงทุน โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถทำรายการซื้อหน่วยลงทุนผ่าน ONEAM e-Trade และเพิ่มแบบฟอร์มชำระเงินที่มีบาร์โค้ดจากระบบ โดยสามารถชำระผ่านจุดให้บริการรับชำระได้ถึง 8,000 จุด" นายวิน กล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!