- Details
- Category: บลจ.
- Published: Saturday, 28 March 2015 00:29
- Hits: 1817
บลจ.วรรณ จับมือ Stoxx Limited จัดทำดัชนี Stoxx Asean Select Dividend 30 index คัด บจ.ปันผลเด่นในตลาดอาเซียน เพิ่มโอกาสการลงทุน
บลจ.วรรณ มองการลงทุนในหุ้นอาเซียนมาแรง ร่วมมือกับ Stoxx Limited สถาบันจัดทำ Index ระดับโลก สร้างดัชนี Stoxx Asean Select Divedend 30 Index คัด บจ.ปันผลเด่นในตลาดอาเซียน เพิ่มโอกาสการลงทุน พร้อมเตรียมออกกองทุน Index Fund เป็นทางเลือกการลงทุน
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดกการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ในด้านทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนในกลุ่มอาเซียนเป็นตลาดที่จะเปิดกว้างและมีโอกาสการเติบโตได้ในระดับสูง ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการลงทุนจากความร่วมมือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมทั้งจากอานิสงส์ของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและการดำเนินมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะการสนับสนุนการใช้จ่ายภายในประเทศของภาครัฐทั้งการเร่งลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในแต่ละประเทศ การใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายผ่านอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ ซึ่งจะผลักดันให้การบริโภคและการลงทุนในแต่ละประเทศทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง และน่าจะผลักดันให้เศรษฐกิจในกลุ่มอาเซียนเติบโตได้ประมาณปีละ 5.0-5.5% นอกจากนี้ การเข้าร่วมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC โดยการร่วมมือเป็นตลาดและฐานการผลิตแห่งเดียวในภูมิภาค ทำให้ภูมิภาคอาเซียนมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นจากต้นทุนที่ต่ำลงโดยเปรียบเทียบและทำให้ภูมิภาคอาเซียนเริ่มเป็นเป้าหมายของธุรกิจการลงทุนในเศรษฐกิจโลก
"ในด้านปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นอาเซียน นับได้ว่าระดับราคายังคงไม่แพงมากนักเมื่อเทียบกับหุ้นประเทศอื่นๆ และแนวโน้มของเศรษฐกิจที่เติบโตในอนาคตข้างหน้า รวมทั้งอัตราการจ่ายปันผลของบริษัทฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากผลประกอบการบริษัทที่สดใสหลั้งเศรษฐกิจโลกและกลุ่มอาเซียนฟื้นตัวได้โดยปัจจุบันประเทศในกลุ่มอาเซียน (อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย) มีอัตราการจ่ายปันผลประมาณปีละ 4.5%"
"อย่างไรก็ดี ในส่วนของด้านช่องทางการลงทุนปัจจุบันซึ่งยังคงมีอยู่ค่อนข้างจำกัด สำหรับนักลงทุนที่สนใจ เนื่องจากยังขาดดัชนีฯ เทียบวัดที่สามารถเป็นเกณฑ์วัดผลตอบแทนในการลงทุน ทำให้ Index Provider ในระดับโลก อย่างเช่น Stoxx ซึ่งเป็นสถาบันจัดทำ Index ที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงระดับโลกให้ความสนใจในการพัฒนา Index ขณะที่บลจ.วรรณเอง ซึ่งเป็นบลจ. ที่เน้นการหาช่องทางการลงทุนและมีจุดแข็งในด้านพันธมิตรการลงทุนทั่วโลก ทำให้เกิดความร่วมมือระหว่าง Stoxx และบลจ.วรรณ ในการพัฒนาดัชนี Stoxx Asean Select Divedend 30 ชิ้น"
สำหรับในด้าน บลจ.วรรณ มองเห็นโอกาสการลงทุนเชื่อว่าจะให้ผลตอบแทนให้แก่นักลงทุน จึงมีแผนที่จะนำเสนอกองทุนประเภท Index Fund เพื่อสร้างผลตอบแทนตามดัชนี Stoxx Asean Select Dividend 30 เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุน ซึ่งจากการ Roadshow ก็ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเช่นกัน"นายวิน กล่าว
"การออกกองทุนฯ ดังกล่าว ก็จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการนำเงินไปลงทุนในตลาดห้นอาเซียนได้สะดวกและง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะในดัชนีฯ ที่มีหุ้นในกลุ่มอาเซียนเป็นองค์ประกอบ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเปิดบัญชีการซื้อขายในต่างประเทศเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์นั้น รวมทั้งเป็นโอกาสกระจายการลงทุนในบริษัทของประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งมีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนได้อีกมาก ทำให้เป็นการเพิ่มโอกาสการได้รับผลตอบแทนให้สูงขึ้น นอกเหนือจากการลงทุนในประเทศเพียงอย่างเดียว และเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงลำพังและสามารถสร้างโอกาสการลงทุนในหุ้นที่หลากหลายมากขึ้น แม้จะเป็นหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันก็ตาม ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงได้ดีขึ้น โดยกองทุนฯ นี้กำลังอยู่ในช่วงระหว่างการพิจารณาจากทางสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งมีแผนที่จะเสนอขายให้แก่นักลงทุนในช่วงเดือนพ.ค. 58 นี้ "นายวิน กล่าวปิดท้าย
ด้าน Dr.Hartmut Graf, CEO, STOXX Limited ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับดัชนี Stoxx ASEAN Select Dividend 30 ว่า ดัชนีฯ ดังกล่าวเป็นดัชนี Price Index โดย Stoxx ใช้เกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีฯ โดยคัดเลือกหุ้นจากดัชนี The Stoxx Asia Total Market Index (TMI) เพื่อกรองหุ้นจาก 6 ประเทศในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนามและไทย โดยมี Key Criteria ในการคัดเลือกหุ้นที่มีประวัติการจ่ายปันผลสูงสุดในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา โดยจะคัดเลือกลงทุนในหุ้น 30 อันดับแรก จำกัดหุ้นแต่ละประเทศไม่เกิน 7 หลักทรัพย์และไม่เกิน 5 หลักทรัพย์สำหรับประเทศไทย รวมถึงจำกัดกลุ่มอุตสาหกรรมละไม่เกิน 8 หลักทรัพย์ และให้น้ำหนักหุ้นในดัชนีฯ แต่ละตัวเท่า ๆกัน (Equally Weighted)
นอกจากนี้หลักทรัพย์ที่เข้าข่ายไม่ถูกเลือกได้แก่ หลักทรัพย์ที่มีปริมาณการซื้อขายต่อวันต่ำกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ / หุ้นที่มีอัตราการจ่ายปันผลสูงกว่า 80% / หุ้นที่มีอัตราส่วนของเงินลงทุนต่างประเทศต่ำกว่า 4% และกองทุน REITS"
"ดัชนีฯที่พัฒนาดังกล่าวจะทำให้ผู้เล่นในตลาดมีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นภูมิภาคเอเชียที่ให้อัตราการจ่ายปันผลในระดับสูงจากการเป็นกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยเชื่อว่า Stoxx Asean Select dividend 30 Index จะเป็นเครื่องมือให้กับนักลงทุนที่ต้องการมองหาช่องทางการเงินยลงทุนในเชิง Dividend Strategy จากหุ้นภูมิภาคอาเซียน
"ณ วันที่ 27 ก.พ. 2558 Stoxx ASEAN SELECT Dividend 30 Index พบว่าให้ผลตอบแทน 5 ปีประมาณ 13.4% ต่อปี โดยมีค่าความผันผวนอยู่ที่ 14.8% ต่อปี และอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 3.1% ซึ่งนับว่าการลงทุนใน Stoxx ASEAN Select Dividend 30 ให้ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงแล้ว ทำให้ดัชนีฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนประเภทสถาบัน" Dr.Hartmut Graf กล่าวปิดท้าย
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย