- Details
- Category: บลจ.
- Published: Thursday, 26 March 2015 22:25
- Hits: 1687
ผู้ลงทุนเฮ ONE-EURO ปิดกอง ด้วยผลตอบแทน 12.65% ตามคาด หลังรับอานิสงส์ QE ของยูโรโซนและแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิด วรรณ ยูโรเปี้ยน 12 ฟันด์ (ONE-EURO) สามารถสร้างมูลค่าหน่วยลงทุนแตะผ่านระดับ 11.2652 บาทต่อหน่วย ณ วันที่ 23 มี.ค. 2558 ซึ่งสูงกว่ามูลค่าหน่วยลงทุนที่กำหนดไว้ในโครงการที่ราคา 11.2500 บาทต่อหน่วย
“ปัจจัยบวกที่ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วงที่ผ่านมา มาจากอานิสงส์ของเม็ดเงินสภาพคล่องที่อัดฉีดเข้ามาในระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติมผ่านเม็ดเงิน QE จากที่ธนาคารกลางยุโรปที่อัดฉีดเข้ามาเพิ่มเติมเดือนละ 60,000 ล้านยูโร ซึ่งประกาศในช่วงต้นปีที่ผ่านมาและได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงอีกครั้งในช่วงเดือน มี.ค. 58 ซึ่งเป็นเดือนแรกที่เม็ดเงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งความคาดหวังของนักลงทุนที่คาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะมุ่งเน้นเข้าช่วยเหลือเศรษฐกิจในทุกช่องทาง ประกอบกับเศรษฐกิจของยูโรโซนที่เริ่มทยอยฟื้นตัวได้ดีตามลำดับ โดยเฉพาะเยอรมันซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่ต่อกลุ่มยูโรโซน ได้มีสถาบันหลายแห่งได้เริ่มมีการปรับเพิ่มการคาดการณ์จีดีพีในปีนี้ เช่น คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ที่ปรับการขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมันมาที่ระดับ 1.5% จากเดิมที่ประมาณการเติบโตที่ 0.4% และองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ที่ปรับการขยายตัวมาที่ 1.7% จากเดิมที่ 1.1% หลังจากที่ภาคการส่งออก การบริโภคส่วนบุคคลและการก่อสร้างฟื้นตัวได้ดี ขณะที่ประเทศอื่นๆ บางประเทศ เช่น สเปนก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แม้จะมีบางประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวแต่โดยรวมทั้งตลาดแล้วก็นับได้ว่าสามารถดึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับเข้าสู่ตลาดหุ้นยุโรปได้อีกครั้ง ซึ่งปัจจัยบวกดังกล่าวได้เป็นไปตามกรอบที่เราคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้น แม้ว่าบางเหตุการณ์จะเกิดขึ้นช้ากว่าที่เราคาดการณ์เล็กน้อย แต่ก็ผลักดันให้กองทุนเปิด ONE-EURO สามารถปิดกองทุนได้ตามเป้าหมาย ซึ่งถึงแม้จะช้ากว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ไปประมาณ 1 เดือน แต่ก็สามารถสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมาย 12% ให้กับผู้ลงทุนได้ก็นับได้” นายวิน กล่าว
“ขณะที่ภาพรวมของยุโรปในช่วงถัดไป ผมมองว่าในระยะกลางถึงยาวตลาดหุ้นยุโรปยังคงไปต่อได้ เนื่องจากแรงผลักดันของเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวอีกช่วงเวลาหนึ่งถึงจะเข้าสู่การเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพและการพึ่งพิงนโยบายการเงินและการคลังก็ตาม ขณะที่ในระยะสั้นมองว่าตลาดหุ้นยุโรปอาจมีความผันผวนระหว่างทางบ้าง เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากจากในช่วงที่ผ่านมาโดยปัจจุบันระดับมูลค่าหุ้นต่อกำไร (PE) ของกลุ่มยุโรปอยู่ที่ระดับ 15.32 เท่าเทียบกับค่าเฉลี่ยภูมิภาคเอเชียที่ 14.75 เท่า ประกอบกับเหตุการณ์ในกรีซ โดยเฉพาะเรื่องแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจรวมทั้งเรื่องหนี้สาธารณะของกรีซต่อกลุ่มยูโรโซนที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ แม้จะเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถเจรจาต่อรองกันได้สำเร็จก็ตาม” นายวิน กล่าวเพิ่มเติม
“สำหรับ การบริหารกองทุนกลุ่ม Trigger Fund ของ บลจ.วรรณ เน้นที่บริหารกองทุนให้ได้ตามเป้าหมาย โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนในแต่ละจังหวะอย่างเหมาะสม สำหรับกองทุนฯ ประเภท Trigger Fund ที่ บลจ.วรรณ เสนอขายในปี 2557 ที่ผ่านมา ได้ประสบความสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว 8 กองทุน จาก 10 กองทุน ส่วนที่เหลืออีก 2 กองทุนยังอยู่ในช่วงเวลาของการบริหารจัดการและยังไม่ถึงกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ ขณะที่สำหรับกองทุนฯ ประเภท Trigger Fund ที่เปิดเสนอขายในปี 2558 เราได้ปิดกองทุนฯ ไปเรียบร้อยแล้ว 1 กองทุน ซึ่งเป็นกองทุนฯ ที่ลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นในช่วงต้นเดือน มี.ค. 58 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเรามีกองทุนที่ยังบริหารจัดการอีก 3 กองทุน ซึ่งยังไม่ถึงเวลาที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งจากประวัติกองทุนฯ ที่สำเร็จดังกล่าวนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของทาง บลจ. ที่สามารถกำหนดกลยุทธ์และจับจังหวะการลงทุนได้เป็นอย่างดี” นายวิน กล่าวปิดท้าย
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย