- Details
- Category: บลจ.
- Published: Wednesday, 11 March 2015 10:52
- Hits: 1729
บลจ.วรรณ มองหุ้นไทยมีโอกาสแตะ 1,700 จุด ส่งกองทุนเปิด ONE-SPOT5/4 สร้างเป้าหมาย 5% ใน 5 เดือน IPO วันนี้-17 มี.ค. 58 นี้
บลจ.วรรณ มองหุ้นไทยมีโอกาสแตะ 1,700 จุด ส่งกองทุนเปิด ONE-SPOT5/4 สร้างเป้าหมาย 5% ใน 5 เดือน IPO วันนี้-17 มี.ค. 58 นี้ ปิด ONE-SPOT5/3 ต่อเนื่องตามคาด หลังส่งกองทุนหุ้นญี่ปุ่นเข้าเป้า 5%
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ปิดโครงการกองทุนเปิด ONE-SPOT 5/3 เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 58 โดยสามารถสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5% ตามคาดหมาย ภายในเวลาประมาณ 2 เดือนครึ่ง ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสไปต่อได้ และมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบที่ระดับ 1,700 จุดในช่วงกลางปีนี้ หลังมีปัจจัยบวกหลายปัจจัยรออยู่ข้างหน้า
“แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในลักษณะของ Sideway Down จากปัจจัยกดดันต่างๆ ที่กล่าวข้างต้น แต่ผมมองว่าการปรับลดลงดังกล่าวจะเป็นเพียงช่วงระยะสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากในด้านปัจจัยพื้นฐานของหุ้นไทยยังไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับผมมองว่าตลาดหุ้นไทยเองก็ยังมีปัจจัยสนับสนุนรออยู่ข้างหน้า เช่น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาเติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าอาจจะสร้างความกังวลต่อนักลงทุนบางกลุ่มในเรื่องที่เฟตอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาด แต่ด้วยถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐต่อสภาครองเกรสที่ระบุว่าจะยังไม่มีแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐอย่างน้อยอีกการประชุม 2-3 ครั้งถัดจากนี้ ทำให้ความกังวลดังกล่าวผ่อนคลายลง”
“นอกจากนี้ การอัดฉีดสภาพคล่องของยุโรป ญี่ปุ่นและจีนในระบบเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางยุโรปจะอัดฉีดเดือนละ 60,000 ล้านยูโรต่อเดือน ซึ่งจะเริ่มเดือนแรกในวันที่ 9 มี.ค. 58 ธนาคารกลางญี่ปุ่นที่อัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบเศรษฐกิจกว่าปีละ 80 ล้านล้านเยน และการดำเนินนโยบายการเงินผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้คาดว่ายังมีปริมาณเงินส่วนเกินที่สามารถไหลเข้าระบบเศรษฐกิจได้และผลักดันให้มีสภาพคล่องไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงไทยได้เช่นเดียวกัน”
“ขณะที่มูลค่าหุ้นไทยในช่วงนี้ แม้ระดับราคาหุ้นต่อกำไร (PE) ไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในภูมิภาคเอเชีย แต่ก็ยังต่ำกว่าในกลุ่ม TIP Market และอัตราการจ่ายปันผลก็ยังอยู่ในระดับสูงกว่า ทำให้มองว่าตลาดหุ้นไทยยังคงมีความน่าสนใจ ประกอบกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นไทยออกไปค่อนข้างมากแล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาและปัจจุบันระดับการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติก็ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้ Downside Risk ของแรงขายของนักลงทุนต่างชาติน่าจะจำกัดมากขึ้นในช่วงถัดจากนี้”นายวินกล่าวเพิ่มเติม
“การปรับฐานของหุ้นไทยในปัจจุบันที่ต่ำกว่าระดับ 1,570 จุด เป็นระดับที่น่าสนใจที่จะทยอยลงทุนในหุ้น เนื่องจากในมุมของ บลจ.วรรณ เชื่อว่าดัชนีฯ น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,500-1,730 จุดและมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบที่ระดับ 1,700 จุดได้ในช่วงครึ่งแรกของปี แม้อาจจะมีความผันผวนระหว่างทางบ้างก็ตาม ทำให้ บลจ.วรรณ เปิดเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ สปอท 5/4 ฟันด์ในช่วงระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-17 มี.ค. 58 โดยมีเป้าหมายการสร้างโอกาสผลตอบแทนที่ 5% ภายในเวลา 5 เดือน เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนเก็บหุ้นในช่วงจังหวะตลาดปรับลดลงช่วงนี้
ทั้งนี้ ในด้านกลยุทธ์การลงทุน กองทุนฯ มองระดับการลงทุน ในช่วงที่ดัชนี SET อยู่ที่ระดับประมาณ 1,550-1,580 จุด โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่โดดเด่นและมีมูลค่าหุ้นที่ต่ำกว่าระดับที่เหมาะสม เช่น หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง สื่อสิ่งพิมพ์ ขนส่งและโลจิสติกส์ เป็นต้น และจะเน้นกลยุทธ์การลงทุนโดยการผสมผสานหุ้นขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยคาดว่าจะลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ประมาณ 40-60% ของพอร์ตโดยเน้นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีโอกาสที่จะเติบโตได้ เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนฯ ให้สอดคล้องกับตลาดในช่วงที่หุ้นขาขึ้น ขณะเดียวกันก็จะกระจายการลงทุนประมาณ 30-40% ไปลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของกำไรสูง (Growth Stock) รวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยสนับสนุนเฉพาะตัว เช่น หุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การควบรวม/ซื้อกิจการระหว่างกัน และหุ้นที่ผลประกอบการมีโอกาสกลับมาเป็นกำไร (Turnaround) เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับกองทุนฯ”นายวินกล่าวปิดท้าย
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย