WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บลจ.กสิกรไทยโชว์ฟอร์มเด็ด เตรียมจ่ายปันผลกองทุนหุ้น 2 กองรวด รวมกว่า 90 ล้านบาท เตรียมจ่ายผู้ถือหน่วย 14 ม.ค.นี้ รับเศรษฐกิจไทยเติบโต คาดสิ้นปี SET INDEX มีโอกาสทะลุ 1,700 จุด

     นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผล กองทุนเปิดเค หุ้นทุน (K-EQUITY) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ในอัตรา 0.40 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล (RKF-HI) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ในอัตรา 0.14 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 2 กองทุนจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนเวลา 8.00 น. ของวันที่ 5 มกราคม 2558 รวมมูลค่าการจ่ายปันผลรวมทั้งสิ้นกว่า 91.75 ล้านบาท กำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 มกราคม 2558 นี้ 

     นายพงศ์พิเชษฐ์ กล่าวว่า กองทุน K-EQUITY เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำของไทยซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี และมีผลการดำเนินงานที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยมีผลดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีและ 3 ปี อยู่ที่ 14.78% และ 50.43% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธ.ค. 57) ตามลำดับ โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมา มีการจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 20 ครั้ง คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลรวม 24.06 บาทต่อหน่วย ด้านกองทุน RKF-HI มีผลดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีและ 3 ปี อยู่ที่ 16.30% และ 50.12% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธ.ค. 57) ตามลำดับ โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมา มีการจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 15 ครั้ง คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลรวม 8.43 บาทต่อหน่วย

     สำหรับ มุมมองการลงทุนในหุ้นไทย นายพงศ์พิเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า“บลจ.กสิกรไทยยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยเชื่อว่าความมีเสถียรภาพของรัฐบาลและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาด ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในปี 2558 ให้สามารถกลับมาเติบโตที่ระดับปกติ 4-5% ได้ นอกจากนี้ยังมองว่าความชัดเจนของงบประมาณปี 2558 และแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม 8 ปี ภายใต้วงเงินกว่า 3 ล้านล้านบาท รวมถึงแผนเร่งด่วนในปี 2558 อีกกว่า 7 หมื่นล้านบาท จะส่งผลนำไปสู่การปรับประมาณการณ์กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในอนาคต สำหรับปัจจัยหนุนจากภายนอกประเทศ ทั้งนโยบายการผ่อนคลายทางการเงินที่เข้มข้นมากขึ้นจากธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางญี่ปุ่น ประกอบกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ยังคงส่งสัญญาณการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก รวมถึงการประกาศลดดอกเบี้ยของจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยบลจ.กสิกรไทยมองเป้าดัชนีหุ้นไทยปลายปีนี้ ที่ระดับ1,700 จุด ซึ่งสะท้อนอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ในปี 2558 ที่ 16 เท่า

    อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่จะต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง คือการปรับตัวของหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่คาดว่าจะคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง รวมถึงความคาดหวังต่อนโยบายจากทางภาครัฐที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะต่อไป จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศกลับคืนมาได้หรือไม่ นอกจากนี้การที่ระดับราคาหุ้นในปัจจุบันใกล้เคียงกับเป้าหมายปลายปีและค่อนข้างแพงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค จึงอาจมีการปรับฐานลงได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย”

    ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน K-EQUITY และกองทุน RKF-HI ของ บลจ.กสิกรไทย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com

   การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และเอกสารเกี่ยวกับกองทุน K-EQUITY และกองทุน RKF-HI ได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน   

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!