- Details
- Category: บลจ.
- Published: Tuesday, 23 December 2014 18:26
- Hits: 2298
กบข.กระแสเงินสดไหลเข้าปีละกว่า 1 แสนลบ คาดสมาชิกใช้สิทธิลาออกเพื่อใช้สิทธิบำนาญ UNDO ราว 30%
กบข.เผยผลการดำเนินงานกองทุนเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ร้อยละ 6.9 ต่อปี ตามทิศทางดบ.แต่ยังสูงกว่าเงินเฟ้อ คาดผลตอบแทนลงทุนปี 58 ต่ำกว่าปีนี้ที่ 6% ตามทิศทางดบ.แต่ยังสูงกว่าเงินเฟ้อ คาดการณ์ถ้าสมาชิกลาออกเพื่อใช้สิทธิบำนาญกว่า 30% หรือ 4 หมื่นลบ. ไม่กระทบสภาพคล่อง เหตุมีกระแสเงินสดไหลเข้าปีละกว่า 1 แสนลบ.
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า “กบข. มีสินทรัพย์สุทธิ อยู่ที่ 703,809 ล้านบาท (ณ 30 พ.ย. 57) ผลตอบแทนเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ร้อยละ 6.9 ต่อปี และผลตอบแทนของปี 2557 (นับถึง 16 ธ.ค. 57) อยู่ที่ร้อยละ 5.9 สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำธนาคารและอัตราเงินเฟ้อในระยะเวลาเดียวกัน ซึ่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.7 และร้อยละ 1.1 ตามลำดับ”
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า “ในปี 2557 กบข. ได้มีการทบทวนแผนจัดสรรการลงทุนระยะยาว ให้สอดรับกับภาวะตลาดที่มีความผันผวน โดยมองการลงทุนในตลาดทุน ยังมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีระยะยาว อย่างไรก็ดี แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้น จากการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และนโยบายกระตุ้นของธนาคารกลางของสหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรป แต่ยังคงมีความผันผวน ดังนั้น กบข. ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมและเป็นไปตามระดับราคา”
นายสมบัติ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกเหนือจากการให้ความสำคัญในการบริหารกองทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับสมาชิกแล้ว ปีนี้เป็นปีแรกที่ กบข. ได้ทำการศึกษาความผูกพันของสมาชิกที่มีต่อ กบข. พฤติกรรมบริโภคสื่อ และความสนใจอื่น พบว่าสมาชิกมีความผูกพันกับ กบข. ร้อยละ 68.6 ซึ่งอยู่ในระดับค่อนข้างดี โดยตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อความผูกพัน คือ ทัศนคติทางการเงินซึ่งส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านความพึงพอใจต่อ กบข. และความรู้เกี่ยวกับ กบข.
ปีนี้จึงเป็นปีแรกที่ กบข. ได้ริเริ่มจัดโครงการมหกรรม กบข. พบสมาชิก อย่างเต็มรูปแบบ ใน 6 ภูมิภาค และได้ริเริ่มการรณรงค์และเผยแพร่ความรู้การวางแผนทางการเงินและการลงทุน (Financial Literacy) โดยร่วมมือกับ บลจ. อีก 6 แห่งที่จะบรรยายให้ความรู้แก่สมาชิกโดยมุ่งเน้นที่จะเสริมสร้างความเข้าใจด้านการวางแผนการลงทุน และบริหารเงินออมเพื่อความมั่งคั่งยามเกษียณ”
การพัฒนาช่องทางการให้บริการสมาชิกเป็นเรื่องที่ กบข. ให้ความสำคัญ จึงได้เริ่มเปิดให้บริการ “GPF Mobile App” ผ่าน Smart Phone ทั้งระบบ iOS และระบบ Android ซึ่งได้รับการตอบรับดีเกินคาดหมาย มียอดสมาชิกดาวน์โหลด Application ตั้งแต่เปิดใช้บริการแล้วจำนวนมากกว่า 2 หมื่นราย และใช้บริการมากกว่า 580,000 รายการ (ข้อมูล ณ 15 ธ.ค. 57) โดยบริการที่ได้รับความนิยมคือการดูยอดเงินปัจจุบันของตนเอง
กบข. คาดว่า จะมีสมาชิกใช้สิทธิลาออกเพื่อใช้สิทธิบำนาญ (UNDO) ราว 30% จากผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 7 แสนคน หรือคิดเป็นเม็ดเงินกว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยย้ำว่าจะไม่กระทบต่อสภาพคล่องของ กบข. และไม่ต้องขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินไปชดเชยกรณีดังกล่าว เนื่องจากปกติ กบข.มีกระแสเงินสดใหม่เข้ามากว่าปีละ 1 แสนบาท
"เท่าที่เราประเมินในกรณีที่ออกมากสุดถึง 50% จากผู้มีสิทธิ ก็จะต้องจ่ายเงินเพียง 6.5 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับกระแสเงินสดใหม่ที่เข้ามาในแต่ละปี จะไม่กระทบต่อสภาพคล่องของเราอย่างแน่นอน"
ทั้งนี้ กำหนดให้สมาชิกแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิภายใน 30 มิ.ย.58 และจะเริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.58 เป็นต้นไป ทั้งนี้อยากเตือนสมาชิกอย่าพิจารณาตามกระแส เพราะหากเป็นสมาชิก กบข.ต่อไป จะได้รับเงินก้อนเมื่อเกษียณอายุ โดยเมื่อรวมเงินสมทบของตนเอง 200,000 บาท และเงินประเดิมก้อนแรก,เงินสมทบจากภาครัฐ 3% และเงินชดเชยที่รัฐสะสม 2% คิดเป็น 800,000 บาทขึ้นอยู่กับอายุงาน รวมประมาณ 1 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้สร้างธุรกิจได้ หากสมาชิกยื่นใช้สิทธิ UNDO จะได้เงินเพียง 200,000 บาทเท่านั้น ซึ่งหากลาออกจากสมาชิก กบข. แล้วจะไม่สามารถกลับมาเป็นสมาชิกใหม่ได้