WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ทิสโก้ เวลธ์ ชี้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐาน หลังราคาน้ำมันดิ่ง แนะลงทุน LTF/RMF ตลาดหุ้นไทย-เทศ โค้งสุดท้าย

     ทิสโก้ เวลธ์ แนะใช้โอกาสตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นหรือลงทุนในกองทุนRMF ที่ลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศยกญี่ปุ่นน่าลงทุนสุดหลังได้รับผลบวกจากการชนะการเลือกตั้งของพรรค LDP ของนายอาเบะด้านตลาดหุ้นไทยปรับฐานแรงเหมาะเข้าลงทุนLTF ช่วงโค้งสุดท้ายของปี

           นายคมศรประกอบผล  หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนทิสโก้เวลธ์ (Mr.Komsorn Prakobphol, Head of Strategy Unit, TISCO Wealth) เปิดเผยว่า  ทิสโก้ เวลธ์(TISCO Wealth) แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหลังราคาน้ำมันโลกมีการปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง ว่า ให้ใช้จังหวะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกมีการปรับฐานซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบโลกและความเสี่ยงทางการเมืองในกรีซเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศหรือลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) ที่นำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ

  โดยตลาดหุ้นต่างประเทศที่แนะนำลงทุนในขณะนี้ นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งจะได้รับผลบวกจากผลการเลือกตั้งสภาผู้แทนฯของญี่ปุ่นซึ่งผลการเลือกตั้งชี้ว่าพรรคLDP ของนายอาเบะจะยังคงได้ครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาและตอกย้ำถึงเสียงสนับสนุนของประชาชนที่มีต่อนโยบายAbenomics โดยเชื่อว่าผลการเลือกตั้งจะทำให้เงินเยนกลับมาอ่อนค่าและตลาดหุ้นญี่ปุ่นกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ ดังนั้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังเป็นTop Pick ของการลงทุนเนื่องจากการเติบโตของกำไรที่ชัดเจนValuation ของตลาดที่ยังน่าสนใจที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

    นอกจากนี้ ทิสโก้เวลธ์ยังคงคำแนะนำOverweight ในตลาดหุ้นกลุ่มเอเชียเหนือที่จะได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่ฟื้นตัวขึ้นเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและต้นทุนการนำเข้าที่ลดลงจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกอีกด้วย

    ส่วนตลาดหุ้นไทยที่ดัชนีมีการปรับฐานลงมาค่อนข้างแรงนั้น ถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดโลก  ดังนั้น จึงเป็นโอกาสเหมาะในการเข้าลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF)  ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้แก่การลงทุนพร้อมได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

   “การที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานลงมาค่อนข้างแรงนั้นเป็นผลมาจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี ซึ่งเรามองว่าการปรับฐานครั้งนี้เป็นโอกาสที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนในกองทุนRMF ที่มีนโยบายลงทุนในตลาดต่างประเทศและ LTF ที่ลงทุนมีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพราะจะช่วยในเรื่องของการประหยัดภาษีรวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนจากการลงทุนจากการลงทุนในช่วงที่ราคาหุ้นถูอีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงของการลงทุนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย” นายคมศรกล่าว

     อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบลจ.ทิสโก้ ได้เปิดเสนอขายกองทุนRMF และLTF ที่มีนโยบายลงทุนที่หลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุน โดยกองทุนRMF อาทิ'กองทุนเปิดทิสโก้เจแปนอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพซึ่งมีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น 'กองทุนเปิดทิสโก้เอเชียแปซิฟิกเอ็กซ์เจแปนเพื่อการเลี้ยงชีพ'ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิก(ยกเว้นญี่ปุ่น) และ'กองทุนเปิดทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ'ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นต้น ด้านกองทุน LTF ประกอบด้วย'กองทุนเปิดทิสโก้หุ้นระยะยาวและ'กองทุนเปิดทิสโก้หุ้นระยะยาวปันผล'

     สำหรับ ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลของกองทุนต่างเพิ่มเติมได้ที่www.tiscoasset.com หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่บลจ.ทิสโก้หรือธนาคารทิสโก้ทุกสาขาหรือTISCO Contact Center โทร.02-633-6000กด4

           

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและคู่มือภาษีก่อนการตัดสินใจลงทุน

เนื่องจากกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินต้นคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!