- Details
- Category: บลจ.
- Published: Saturday, 03 December 2022 23:20
- Hits: 1905
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร ‘CGIF’ ที่ ‘AAA’ แนวโน้ม’Stable’
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ซึ่งเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุน (Trust Fund) ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank -- ADB) ที่ระดับ ‘AAA’ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต’Stable’หรือ ‘คงที่’
โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของ CGIF ที่เป็นสถาบันระหว่างประเทศ (Supranational Institution) ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลของกลุ่มประเทศอาเซียนกับประเทศนอกกลุ่มอาเซียนอีก 3 ประเทศ (ASEAN+3) และ ADB ซึ่งเรียกรวมกันว่า ‘กลุ่มผู้ร่วมทุน’(Contributors) อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงบทบาทการดำเนินนโยบายสาธารณะที่มีความแข็งแกร่งมากของ CGIF กรอบธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่ง ความความเชี่ยวชาญของคณะผู้บริหาร สถานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการบริหารความเสี่ยงแบบระมัดระวัง
ตลอดจนสถานะทางการเงินและสภาพคล่องที่ดี ความเสี่ยงของ CGIF จากผู้ออกตราสารและประเทศที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตค่อนข้างสูงจากการดำเนินงานให้บรรลุตามภารกิจเป้าหมายยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับ CGIF อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงนั้นถูกลดทอนลงด้วยการพิจารณาการให้การค้ำประกันที่มีความรอบคอบ
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
สถานะความเสี่ยงองค์กรมีความแข็งแกร่งมาก
CGIF ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของ Asian Bond Markets Initiative เพื่อดำเนินนโยบายสาธารณะที่สำคัญเพื่อเป็นตัวกระตุ้นการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนผู้ออกตราสารในกลุ่มประเทศอาเซียนและตลาดชายขอบ (Frontier Market) ผู้ออกตราสารครั้งแรก ผู้ออกตราสารแบบข้ามพรมแดนที่ออกโดยสกุลเงินท้องถิ่น
ตลอดจนกิจกรรมทางการเงินในรูปแบบใหม่ อันประกอบด้วย ตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bonds) ตราสารหนี้เพื่อพัฒนาสังคม (Social Bonds) และตราสารหนี้อิสลาม (Sukuk) เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ทริสเรทติ้งจึงไม่คาดว่าจะมีผู้ให้การค้ำประกันจากภาคเอกชนหรือสถาบันระดับนานาชาติรายอื่นสามารถดำเนินบทบาทนี้ได้โดยง่าย
เงินเพิ่มทุนที่สมาชิกกลุ่มผู้ร่วมทุนได้ชำระอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการเพิ่มทุนจากผู้ร่วมทุน บ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและมั่นคงที่ CGIF มีกับกลุ่มผู้ร่วมทุน และความมุ่งมั่นของกลุ่มผู้ร่วมทุนต่อเป้าหมายด้านการพัฒนาของ CGIF โครงสร้างการถือหุ้นที่หลากหลายและการไม่จ่ายเงินปันผลในช่วงเวลาที่ผ่านมา ยังบ่งบอกถึงหลักการกำกับดูแลที่แข็งแกร่งอีกด้วย
การเพิ่มทุนเป็นไปตามมติของกลุ่มผู้ร่วมทุนในปี 2560 ที่เห็นชอบให้เพิ่มเงินทุนจดทะเบียนของ CGIF เป็น 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2566 โดยไม่มีข้อผูกมัดจากเดิมที่ระดับ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้สนับสนุนการขยายธุรกิจ ทั้งนี้ CGIF มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ระดับ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565
ในด้านความเชี่ยวชาญของคณะผู้บริหาร ทีมผู้บริหารของ CGIF สามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจและดำเนินงานภายใต้เป้าหมายความเสี่ยงและผลตอบแทนได้ อันประกอบด้วยเป้าหมายทางการเงินและการรักษาคุณภาพของพอร์ตการค้ำประกันตามเกณฑ์การจัดอันดับความเสี่ยงภายใน (Internal Risk Rating – IRR) ทีมผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานมืออาชีพของ CGIF ยังประกอบด้วยทีมงานที่หลากหลายจากบุคลากรที่มีคุณภาพซึ่งได้รับการคัดเลือกจากนานาชาติอีกด้วย
มีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง
ในมุมมองของทริสเรทติ้ง CGIF มีเงินกองทุนที่แข็งแกร่งมากในการรองรับการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากการเรียกร้องจากการค้ำประกัน แม้จะไม่มีการเรียกไถ่ทุนคืน (Callable Capital) ได้ในทันทีก็ตาม มูลค่าของการให้การค้ำประกันหลังจากการประกันภัยต่อซึ่งอยู่ในระดับต่ำที่อัตรา 1.28 เท่า ณ เดือนมิถุนายน 2565 ลดลงจาก 1.42 เท่า ณ เดือนมิถุนายน 2564
จากการค้ำประกันบางส่วนที่ได้หมดอายุลงและการเพิ่มขึ้นของทุนจดทะเบียน เมื่อพิจารณาจากกลยุทธ์การเติบโตแบบระมัดระวังของ CGIF แล้ว มีความเป็นไปได้น้อยที่ตัวเลขดังกล่าวจะถึงขีดจำกัดภายในที่ 2.5 เท่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อัตราส่วนเงินกองทุนตามเกณฑ์ Basel-II หลังจากการประกันภัยต่อของ CGIF อยู่ที่ระดับ 35.7% ณ เดือนมิถุนายน 2565 เพิ่มขึ้นจาก 29.4% ณ เดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ระดับ 8.8% ที่ CGIF ใช้เป็นการภายใน
การบริหารความเสี่ยงและการเติบโตที่ระมัดระวัง
ในมุมมองของทริสเรทติ้ง กลยุทธ์การเติบโตแบบระมัดระวังของ CGIF และการปรับปรุงกรอบการบริหารความเสี่ยงระดับองค์กรอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมความเสี่ยงจากการค้ำประกันและความเสี่ยงประเภทอื่นๆ ในอนาคต
กรอบบริหารความเสี่ยงประกอบด้วยแนวทางโดยละเอียดของกระบวนการพิจารณาให้การค้ำประกันและขีดจำกัดความเสี่ยงที่ระบุไว้อย่างชัดเจน ตั้งแต่การประเมินความเสี่ยงด้านเครดิต การกำหนดค่าธรรมเนียมการค้ำประกัน การจัดชั้นและการตั้งสำรองความเสี่ยงจากการค้ำประกัน และนโยบายการประกันภัยต่อ นอกจากนี้ ยังมีแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการติดตามความเสี่ยงจากการค้ำประกัน กระบวนการเคลม และกระบวนการเรียกคืนความเสียหาย (Loss Recovery) อีกด้วย
ในช่วงที่ผ่านมา CGIF ยังได้ปรับปรุงแนวปฏิบัติหลายข้อเกี่ยวกับการตรวจสอบความเสี่ยงด้านเครดิตและการดำเนินการหลังจากการเรียกร้องจากการค้ำประกันครั้งแรกจากการผิดนัดชำระของตราสารหนี้สกุลเงินบาทที่ออกโดย KNM Group Berhad (KNM) การปรับปรุงที่สำคัญประการหนึ่งคือหลักเกณฑ์ โดยละเอียดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเรียกคืนความเสียหาย การติดตาม การจัดชั้นและการตั้งสำรองของการค้ำประกันตราสารที่เกิดการผิดนัดชำระ CGIF ยังคงใช้กลยุทธ์การเติบโตแบบระมัดระวังโดยให้ความสำคัญกับประเทศผู้ร่วมทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและผู้ออกตราสารที่มีสถานะทางเครดิตที่แข็งแกร่งท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ท้าทายหลังโรคโควิด 19
สำหรับ การผิดนัดชำระหนี้ของ KNM นั้น CGIF ได้จ่ายเงินค้ำประกันก่อนการประกันภัยต่อเป็นจำนวนเงินประมาณ 85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในวันที่ 17 ธันวาคม 2564 การชำระเงินค้ำประกันให้กับผู้ถือหุ้นกู้ของ KNM มีผลกระทบอย่างจำกัดต่อเงินทุนของ CGIF
ทั้งนี้ ความสูญเสียทางเครดิตที่คาดว่า จะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) ที่ CGIF เตรียมไว้จำนวน 9.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของเงินกองทุนของ CGIF ณ เดือนมิถุนายน 2564 ในขณะที่กระบวนการเรียกคืนความเสียหายยังคงอยู่ระหว่างการดำเนินการ และ CGIF คาดว่าจะเรียกคืนความเสียหายได้เป็นส่วนใหญ่หากไม่ได้เต็มจำนวนของรายการรับประกันค้างรับจาก KNM
มีแหล่งเงินทุนที่ระมัดระวังและมีสภาพคล่องแข็งแกร่ง
การค้ำประกันและการดำเนินงานของ CGIF มีแหล่งเงินทุนจากส่วนของผู้ถือหุ้นจากสมาชิกกลุ่มผู้ร่วมทุน และไม่มีการกู้ยืมเงินจากแหล่งใดๆ CGIF สามารถกู้ยืมจากคู่สัญญาตามที่ได้ระบุไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการเงินสดตามความต้องการด้านสภาพคล่อง การเรียกร้องจากการค้ำประกัน หรือความต้องการในการดำเนินงานอื่น ๆ
ทริสเรทติ้ง ยังพิจารณาถึงการบริหารความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของ CGIF ที่มีความระมัดระวังอีกด้วย จากการประเมินของทริสเรทติ้ง CGIF มีสินทรัพย์สภาพคล่องเพียงพอต่อความต้องการด้านสภาพคล่องและจากการเรียกร้องการค้ำประกันที่อาจเกิดขึ้นในสถานการณ์คับขัน
CGIF ใช้แนวทางการบริหารสภาพคล่องแบบ 2 ทางโดยกำหนดให้มีการติดตามสภาพคล่องให้เพียงพอต่อความต้องการรายวันและการจำลองความเพียงพอของสภาพคล่องภายใต้สถานการณ์คับขันในกรณีที่เกิดการเคลมความเสียหายครั้งใหญ่ มีการใช้สมมติฐานการจำลองความเพียงพอของสภาพคล่องที่มีความระมัดระวัง ตัวอย่างเช่น ในการติดตามสภาพคล่องรายวันนั้นจำเป็นจะต้องมีประมาณการกระแสเงินสดเข้าจากเงินลงทุนและรายได้จากค่าธรรมเนียมเพื่อรองรับกระแสเงินสดออกและการเคลมที่อาจเกิดขึ้นภายใน 6 เดือนข้างหน้า
และอีกตัวอย่างหนึ่ง ได้แก่ การจำลองภายใต้สถานการณ์คับขันที่ใช้สมมติฐานการเคลมของการผิดนัดชำระหนี้ที่ยึดสัดส่วน 20% ของจำนวนบริษัทที่ได้รับการรับประกันควบคู่ไปกับการใช้ค่าปรับลด (Hair-cut) ในการขายสินทรัพย์เงินลงทุน
พอร์ตเงินลงทุนมีคุณภาพดี
เงินลงทุนตามนโยบายการลงทุนของ CGIF ประกอบด้วยตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิตสูงที่อยู่ในความต้องการของตลาดซึ่งสามารถขายได้โดยมีโอกาสขาดทุนต่ำ อันดับเครดิตของตราสารหนี้มีตั้งแต่ระดับ’A+’ จนถึง ‘AAA’ (ยึดตามอันดับเครดิตของ S&P Global Ratings) โดยมีการกำหนดอันดับเครดิตขั้นต่ำของเงินลงทุนให้อยู่ที่ระดับ ‘A+’ สำหรับตราสารหนี้ที่ออกโดยหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลของประเทศที่เป็นผู้ร่วมทุนเท่านั้น
ทั้งนี้ CGIF มีนโยบายในการลงทุนที่มุ่งเน้นรายได้จากเงินลงทุนที่มีความมั่นคงผ่านการถือครองตราสารหนี้เพื่อรักษาเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงราคาให้อยู่ประมาณ 3 ปี นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดเพดานการกระจุกตัวสำหรับประเทศของผู้ออกตราสาร ผู้ออกตราสารหนี้รายเดียว ประเภทของผู้ออกตราสาร และอันดับเครดิต ตลอดจนการกำหนดเพดานมูลค่าความเสี่ยง (Value-at-Risk – VaR) และการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น (Unrealised Loss) จากเงินลงทุนที่มีความระมัดระวังอีกด้วย
พอร์ตเงินลงทุนในตราสารหนี้ของ CGIF กว่าครึ่งหนึ่งเป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลหรือหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลที่มีอันดับเครดิตอยู่ที่ "AA-" หรือสูงกว่า มีค่าเฉลี่ยการเปลี่ยนแปลงราคาอยู่ที่ 2.73 ปี ณ เดือนมิถุนายน 2565 ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 2.84 ปี ณ เดือนมิถุนายน 2564 เพื่อจัดการกับภาวะการเงินของโลกที่ตึงตัวขึ้น
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
- มูลค่าของการให้การค้ำประกันจะอยู่ที่ระดับ 4-1.5 เท่าของเงินกองทุน
- มูลค่าของการให้การค้ำประกันใหม่จะอยู่ที่ระดับประมาณ 500-600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
- อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุนจะอยู่ที่ระดับประมาณ 0%-2.5% ต่อปี
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ‘คงที่’ สะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและมั่นคงของ CGIF กับกลุ่มผู้ร่วมทุนหลักในการสนับสนุนการดำเนินงานของ CGIF อย่างต่อเนื่อง แนวโน้มอันดับเครดิตยังบ่งชี้ถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่า CGIF จะยังคงปฏิบัติตามนโยบายสาธารณะที่สำคัญในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในภูมิภาค
และรักษามาตรฐานการกำกับดูแลและการบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบ และยังสะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่า CGIF จะรักษาสถานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง มีการบริหารแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง และมีผลการดำเนินงานทางการเงินที่อยู่ในเกณฑ์ดี
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตของ CGIF อาจได้รับแรงกดดันในทางลบได้หากความเสียหายจากการค้ำประกันทำให้ฐานะทางการเงินของ CGIF อ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือหากมีหลักฐานว่าระดับการให้การสนับสนุนด้านเงินทุนของกลุ่มผู้ร่วมทุนลดต่ำลง รวมถึงมีกรอบการกำกับดูแลและการบริหารความเสี่ยงที่อ่อนแอลง
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ, 15 พฤศจิกายน 2565 |
Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF)
อันดับเครดิตองค์กร: |
AAA |
แนวโน้มอันดับเครดิต: |
Stable |
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ [email protected] โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
© บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้
ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html