- Details
- Category: บลจ.
- Published: Tuesday, 09 December 2014 16:44
- Hits: 2560
บลจ.กสิกรไทย ได้ฤกษ์ เสิร์ฟกองทุนเปิดเค ญี่ปุ่น หุ้นทุน (K-JP) ส่งท้ายปลายปี ชวนลงทุนหุ้นญี่ปุ่น พร้อมโอกาสรอรับกำไรจากเติบโตของเศรษฐกิจแดนอาทิตย์อุทัย พร้อมเสนอขายครั้งแรก 11-17 ธ.ค. นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 11-17 ธันวาคม 2557 บลจ.กสิกรไทย เตรียมเสนอขายกองทุนเปิดเค ญี่ปุ่น หุ้นทุน (K-JP) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยกองทุน K-JP จะนำเงินไปลงทุนผ่านกองทุนหลัก คือ กองทุน Schroder International Selection Fund Japanese Equity, Class A Acc ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน ซึ่งบริหารจัดการโดย Schroder Investment Management (Luxembourg) S.A. บริษัทจัดการลงทุนชั้นนำระดับโลก โดยกองทุนหลักถือเป็นหนึ่งในกองทุนหุ้นญี่ปุ่นชั้นนำที่มีขนาดใหญ่ ด้วยขนาดกองทุนกว่า 3.2 แสนล้านเยน หรือ 9 หมื่นล้านบาท (ข้อมูล ณ 31ตุลาคม 2557) และยังมีจุดเด่นในด้านการบริหารงาน รวมถึงมีกระบวนการพิจารณาคัดเลือกหุ้นที่มีประสิทธิภาพ โดยมีทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญสูง และมีประสบการณ์ด้านการจัดการลงทุนยาวนาน เฉลี่ยถึง 21 ปี จึงทำให้กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องในระยะยาว และสามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้อย่างสม่ำเสมอ
สำหรับ นโยบายการลงทุนของกองทุนหลัก จะลงทุนในหุ้นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ส่วนของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะเน้นลงทุนในบริษัทที่มีผลประกอบการดี มีความสามารถในการแข่งขันสูง และมีความยั่งยืนในการเติบโตของธุรกิจ อาทิ บริษัท ToyotaMotor ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap) และรายได้มากที่สุดของญี่ปุ่น, บริษัท HondaMotor ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก, บริษัท Hitachi ซึ่งเป็นบริษัทอิเล็กทรอนิคส์และวิศวกรรมรายใหญ่ของโลก โดยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 38 จาก 500 บริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลก, Sumitomo Mitsui Financial Group กลุ่มสถาบันการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น ทั้งนี้ กองทุนจะไม่จำกัดหมวดหมู่ของอุตสาหกรรม หรือขนาดของบริษัทเพื่อความคล่องตัวในการลงทุน ซึ่งกองทุน K-JP เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับค่อนข้างสูง และเป็นกองทุนที่มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว อีกทั้งมุ่งหวังให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับกองทุน Schroder ISF Japanese Equity ให้มากที่สุด
สำหรับ มุมมองเศรษฐกิจญี่ปุ่น นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า ตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ภายหลังรัฐบาลมีการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนเมษายน 2557 อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวลงในไตรมาส 3 ดังกล่าว เชื่อว่าน่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว โดย IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะสามารถขยายตัวได้ 0.80% ในปี 2558 โดยจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่ยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย รวมถึงการอัดฉีดเม็ดเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดในช่วงเดือนตุลาคม 2557 ได้อัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมในระบบมาสู่ที่ระดับ 80 ล้านล้านเยนต่อปี ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดการเงินโลก ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศสิ้นสุดมาตรการ QE ประกอบกับค่าเงินเยนของญี่ปุ่นที่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง จะส่งผลดีในแง่ของการส่งออกและทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นในภาพรวมมีแนวโน้มเติบโตที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติม จากกรณีกองทุนบำนาญญี่ปุ่น (GPIF) ซึ่งเป็นกองทุนบำนาญที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ประมาณ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ได้ประกาศปรับแผนสัดส่วนนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ โดยจะเพิ่มสัดส่วนในหุ้นญี่ปุ่นมากขึ้น จะช่วยทำให้ความต้องการหุ้นญี่ปุ่นมีเพิ่มขึ้น และส่งผลบวกต่อกับปรับตัวของราคาหุ้นญี่ปุ่น ทั้งนี้ ระดับราคาหุ้นญี่ปุ่นในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต โดยดัชนี TOPIX ตลาดหุ้นญี่ปุ่น มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (Forward P/E) ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 15.4 เท่า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี ที่ 20.1 เท่า (ที่มา: Bloomberg 27 พ.ย.57) ดังนั้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นจึงมีโอกาสเติบโตขึ้นได้อีกในอนาคต อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะต้องจับตามอง คือ การติดตามผลจากการดำเนินมาตรการของรัฐบาลญี่ปุ่น โดยเฉพาะมาตรการธนูดอกที่ 3 ที่ได้เริ่มดำเนินไปบ้างแล้ว ว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้สามารถขยายตัวได้ตามเป้าหรือไม่ รวมถึงการติดตามผลเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นในช่วงกลางเดือนธันวาคมปีนี้
สำหรับ ผู้ลงทุนที่สนใจกองทุนเปิดเค ญี่ปุ่น หุ้นทุน (K-JP) สามารถลงทุนได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888
ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนหลัก
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง (ต่อปี) |
|||||||
1 เดือน |
3 เดือน |
6 เดือน |
1 ปี |
3 ปี |
5 ปี |
ตั้งแต่จัดตั้ง |
|
กองทุนหลัก (Schroder International Selection Fund Japanese Equity, Class A Acc) |
2.3% |
6.4% |
18.1% |
15% |
23.02% |
11.44% |
5.17% |
Benchmark (Topix TR) |
0.6% |
4.2% |
15.8% |
13.9% |
22.95% |
10.60% |
0.21% |
ที่มา: Morningstar ณ วันที่ 31 ต.ค. 57
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และเอกสารเกี่ยวกับกองทุนได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุน K-JP ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนมิได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนจึงอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้