WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRIS7 10ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิต ‘ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี’ ที่ ‘BBB-‘แนวโน้ม ‘Negative’

       ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (กองทรัสต์ฯ) ที่ระดับ ‘BBB-‘ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Negative’ หรือ ‘ลบ’ โดยสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งว่าสถานะเครดิตของกองทรัสต์ฯ นั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพเครดิตของบริษัทดุสิตธานีเป็นอย่างมากเนื่องจากบริษัทดุสิตธานีเป็นทั้งผู้เช่าและแหล่งที่มาของกระแสเงินสดเพียงแห่งเดียวของกองทรัสต์ฯ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการที่กองทรัสต์ฯ มีสินทรัพย์และรายได้ที่มีขนาดเล็ก และกระจุกตัวด้วย

     แนวโน้มอันดับเครดิต ‘Negative’ หรือ ‘ลบ’ สะท้อนถึงความไม่แน่นอนในระดับสูงของวิวัฒนาการของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) ตลอดจนจำนวนของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน และประสิทธิภาพของวัคซีน รวมทั้งประเด็นการกลายพันธุ์ของไวรัส ซึ่งอาจจะส่งผลให้ภาวะการดำเนินธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวยในธุรกิจโรงแรมต้องยืดเยื้อออกไป

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

การดำเนินงานโรงแรมในประเทศไทยของกองทรัสต์ฯ จะยังคงได้รับแรงกดดันต่อไป

         ทริสเรทติ้ง มองว่า อุตสหกรรมโรงแรมในประเทศไทยจะยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ต่อไปในอีกหลายไตรมาสข้างหน้าเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์การกลายพันธุ์ของโรคและระดับการได้รับวัคซีนของประชาชนในประเทศไทย

         ทั้งนี้ ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่านโยบายสนับสนุนธุรกิจโรงแรม เช่น “Phuket Sandbox” และความพยายามของภาครัฐในการเปิดแหล่งท่องเที่ยวในที่อื่นๆ เพิ่มขึ้นซึ่งครอบคลุมไปถึงหัวหินและเชียงใหม่เพื่อสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวนั้นอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของโรงแรมของกองทรัสต์ฯ ในระดับที่จำกัดอย่างน้อยในอีกหลายไตรมาสข้างหน้า โดยข้อจำกัดที่เกี่ยวเนื่องกับการเดินทาง เช่น ความถี่ในการตรวจหาเชื้อโควิด 19 หรือการที่นักท่องเที่ยวต้องกักตัวเมื่อเดินทางกลับประเทศนั้นจะยังคงเป็นอุปสรรคที่สำคัญต่อการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวในระยะนี้

         ทริสเรทติ้ง คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและอุปสงค์ในด้านโรงแรมจะเริ่มเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เป็นต้นไปโดยอิงจากการประเมินของทริสเรทติ้งในเรื่องของการกระจายวัคซีนและยอดผู้ติดเชื้อทั้งในประเทศไทยและในหลายภูมิภาคของโลก ตลอดจนความเชื่อมั่นในการเดินทางและการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ

         ทริสเรทติ้ง คาดการณ์ว่ารายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPAR) ของโรงแรมของกองทรัสต์ฯ ในประเทศไทยจะอยู่ในระดับต่ำกว่าในปี 2562 อยู่ประมาณ 75% ในปี 2564 ประมาณ 20% ในปี 2565 และประมาณ 10% ในปี 2566

         อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าผลการดำเนินงานของโรงแรมของกองทรัสต์ ฯ ในประเทศมัลดีฟส์จะสามารถกลับสู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ในปี 2565 เมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นหลังจากที่มัลดีฟส์เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน รวมถึงนโยบายการท่องเที่ยวของรัฐบาลมัลดีฟส์ที่ช่วยสนับสนุนให้การฟื้นตัวเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

ความเสี่ยงในเชิงลบด้านรายได้ได้รับการปกป้องจากค่าเช่าขั้นต่ำในสัญญาเช่าที่มีกับบริษัทดุสิตธานี

         ความเสี่ยงด้านรายได้ของกองทรัสต์ จำกัดลงเนื่องจากได้รับการป้องกันจากการกำหนดค่าเช่าขั้นต่ำที่กองทรัสต์จะได้รับจากผู้เช่า จากการที่กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ห้ามไม่ให้ทรัสต์หรือกองทรัสต์ดำเนินการบริหารโรงแรมเอง กองทรัสต์ฯ จึงต้องนำ โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ตและ โรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่ไปให้ บริษัท ดุสิต แมนเนจเม้นท์ จำกัด เช่าดำเนินการพร้อมทั้งเช่าช่วงดำเนินการ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน นอกจากนี้ กองทรัสต์ฯ ยังให้ Dusit Maldives Management Pvt., Ltd. (DMM) เช่าช่วงดำเนินการ ‘โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์’ ด้วย โดยบริษัททั้ง 2 แห่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทดุสิตธานี

         บริษัทดุสิต แมนเนจเม้นท์จะต้องจ่ายค่าเช่าให้แก่กองทรัสต์ฯ ทั้งในอัตราแบบคงที่และแบบแปรผันตลอดอายุสัญญา โดยอัตราค่าเช่าแบบคงที่จะต้องมีการปรับปรุงใหม่ทุกปีตามผลการดำเนินงานจริงของโรงแรมแต่ละแห่งแต่ต้องไม่ต่ำกว่า 205 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ บริษัทดุสิต แมนเนจเม้นท์ยังจะต้องจ่ายค่าเช่าแปรผันในสัดส่วน 85% ของผลการดำเนินงานที่บริษัททำได้หลังจากหักส่วนของค่าเช่าคงที่และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารโรงแรมแล้วอีกด้วย

         สำหรับ โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ นั้น DMM เช่าช่วงโรงแรมมาบริหารในระยะเวลา 21 ปี โดยบริษัทต้องจ่ายชำระค่าเช่าคงที่ไม่ต่ำกว่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีและจะต้องจ่ายชำระค่าเช่าแปรผันในสัดส่วน 90% ของผลการดำเนินงานที่บริษัททำได้หลังจากหักส่วนของค่าเช่าคงที่และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารโรงแรมแล้ว

         อย่างไรก็ดี เนื่องจากบริษัทดุสิตธานีเป็นทั้งผู้เช่าและแหล่งที่มาของกระแสเงินสดเพียงรายเดียวของกองทรัสต์ ดังนั้น คุณภาพเครดิตของบริษัทดุสิตธานีจึงส่งผลต่ออันดับเครดิตของกองทรัสต์ด้วย

โรงแรมที่มัลดีฟส์ช่วยสนับสนุนรายได้ค่าเช่า

         ทริสเรทติ้ง คาดว่ากองทรัสต์ฯ จะมีรายได้ค่าเช่ารวมจำนวน 450 ล้านบาทในปี 2564 และประมาณ 470-500 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2565-2566 โดยคาดว่ากองทรัสต์ฯ จะได้รับค่าเช่าเฉพาะในส่วนที่เป็นค่าเช่าคงที่ขั้นต่ำสำหรับโรงแรมในประเทศไทยและจะมีรายได้ค่าเช่าแปรผันด้วยสำหรับโรงแรมในประเทศมัลดีฟส์ โดยรายได้จากค่าเช่าจะเปลี่ยนมาเป็นกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายที่จำนวน 390 ล้านบาทในปี 2564 และประมาณ 420-440 ล้านบาทต่อปีในระว่างปี 2565-2566

การขอเลื่อนการชำระค่าเช่าของผู้เช่าไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของกองทรัสต์ฯ

         ในสัญญาระหว่างกองทรัสต์ฯ กับบริษัทดุสิตธานีระบุว่า หากอุตสาหกรรมโรงแรมได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์และส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของสินทรัพย์ของกองทรัสต์ฯ บริษัทดุสิตธานีสามารถขอเลื่อนการจ่ายชำระค่าเช่าได้โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากกองทรัสต์ฯ ด้วย

         จากสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องทำให้ บริษัทดุสิตธานีซึ่งเป็นผู้เช่าได้ขอเลื่อนการชำระค่าเช่าโรงแรมในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 จนถึงเดือนเมษายน 2564 ที่จำนวน 50% ของอัตราค่าเช่าคงที่ต่อเดือนสำหรับโรงแรมในประเทศไทยและโรงแรมในประเทศมัลดีฟส์ รวมทั้งในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 จนถึงเดือนมกราคม 2565 ที่จำนวน 50% ของอัตราค่าเช่าคงที่ต่อเดือนสำหรับโรงแรมในประเทศไทย

         ทริสเรทติ้ง ประเมินว่าการขอเลื่อนชำระค่าเช่าดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบจนทำให้กองทรัสต์ฯ มีปัญหาต่อสภาพคล่อง ทริสเรทติ้งคาดว่ากองทรัสต์ฯ จะสามารถบริหารจัดการสภาพคล่องได้ในระยะ 12 เดือนข้างหน้า โดยแหล่งที่มาของเงินทุนที่สำคัญ ได้แก่ ค่าเช่าที่จะได้รับรวมส่วนที่ถูกเลื่อนชำระมาแล้วประมาณ 550 ล้านบาท เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ เดือนมิถุนายน 2564 จำนวน 129 ล้านบาท และวงเงินกู้ยืมจากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวน 180 ล้านบาท

          ในขณะที่คาดว่ากองทรัสต์ฯ จะมีค่าใช้จ่ายที่รวมค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยค่าเช่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 135 ล้านบาท งบลงทุนประมาณ 90-100 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนรวมอีกประมาณ 250 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากผลกระทบที่เกิดจากโรคโควิด 19 เลวร้ายกว่าที่คาดคิดก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้เช่าอาจขอเลื่อนการชำระค่าเช่าออกไปอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดที่กองทรัสต์ฯ จะได้รับและอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของกองทรัสต์ฯ ได้

ภาระหนี้ยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้

         ภาระหนี้ของกองทรัสต์ฯ เพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุนในโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ และการมีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงแรม ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 กองทรัสต์ฯ มีหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วรวม 1.9 พันล้านบาท สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าในระหว่างปี 2564-2566 กองทรัสต์ฯ จะมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับราว ๆ 25% และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่ปรับปรุงแล้วคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 4-5 เท่าในช่วงเวลาดังกล่าว

         ตามเงื่อนไขของข้อกำหนดทางการเงินของเงินกู้ระบุให้กองทรัสต์ฯ ต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายให้ต่ำกว่า 6 เท่าและดำรงอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์รวมให้ต่ำกว่า 60% นั้น ณ เดือนมิถุนายน 2564 กองทรัสต์ฯ มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ระดับ 4.7 เท่าและมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์รวมอยู่ที่ระดับ 23% ซึ่งทริสเรทติ้งเชื่อว่ากองทรัสต์ฯ น่าจะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางการเงินดังกล่าวตลอดช่วงระยะเวลาประมาณการได้โดยไม่มีปัญหา

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

  • รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPAR) ของโรงแรมของกองทรัสต์ฯ ในประเทศไทยจะอยู่ในระดับต่ำกว่าในปี 2562 ที่ประมาณ 75% ในปี 2564 ที่ประมาณ 20% ในปี 2565 และที่ประมาณ 10% ในปี 2566 ในขณะที่ RevPAR ของโรงแรมในประเทศมัลดีฟส์จะสามารถกลับสู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ในปี 2565
  • กองทรัสต์ฯ จะมีรายได้ค่าเช่ารวมที่จำนวน 450 ล้านบาทในปี 2564 และจำนวน 470-500 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2565-2566
  • กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจะอยู่ที่จำนวน 390 ล้านบาทในปี 2564 และจำนวน 420-440 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2565-2566
  • งบประมาณในการปรับปรุงโรงแรมจะอยู่ที่จำนวน 120 ล้านบาทในปี 2564 และประมาณ 50 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2565-2566

แนวโน้มอันดับเครดิต

         แนวโน้มอันดับเครดิต ‘Negative’ หรือ ‘ลบ’ สะท้อนถึงโอกาสในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโรงแรมที่มีความไม่แน่นอนอยู่ในระดับสูงจากสถานการณ์ของ โรคโควิด 19 ที่ไม่แน่นอนและยืดเยื้อ

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

         อันดับเครดิตของกองทรัสต์ฯ อาจได้รับการปรับลดลงหากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 มีความรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ หรือสถานะสภาพคล่องของกองทรัสต์ฯ อ่อนแอลงเร็วกว่าที่คาด นอกจากนี้ เนื่องจากแหล่งรายได้ของกองทรัสต์ฯ นั้นมาจากบริษัทดุสิตธานีเพียงแห่งเดียว

      ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงที่มีสาระสำคัญต่อสถานะเครดิตของบริษัทดุสิตธานีก็อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของกองทรัสต์ฯ ด้วยเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม แนวโน้มอันดับเครดิตของกองทรัสต์ฯ อาจได้รับการปรับเปลี่ยนมาเป็น ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ หากผลการดำเนินงานของโรงแรมของกองทรัสต์ฯ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและกองทรัสต์ฯ สามารถดำรงสถานะสภาพคล่องเอาไว้ได้อย่างเพียงพอที่จะรองรับภาวะผันผวนใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า, 15 กรกฎาคม 2564

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป,  26 กรกฎาคม 2562

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561

กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DREIT)

อันดับเครดิตองค์กร:

BBB-

แนวโน้มอันดับเครดิต:

Negative

 
 

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com  

ติดต่อ [email protected]  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

         © บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

         ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

 

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!