- Details
- Category: บลจ.
- Published: Friday, 10 October 2014 19:13
- Hits: 2810
กบข. คาดจ่ายเงินคืนสมาชิกที่ลาออกไปใช้สิทธิ์บำนาญตามปี 2494 วงเงิน 4 หมื่นลบ.ยันไม่กระทบสภาพคล่อง
กบข.คาดจ่ายเงินคืนสมาชิกที่ลาออกไปใช้สิทธิ์บำนาญตามปี 2494 วงเงิน 4 หมื่นลบ.ยันไม่กระทบสภาพคล่อง คาดสรุปตัวเลขสมาชิกที่ลาออกเพื่อใช้สิทธิบำนาญปี 2494 ช่วง ก.ค.58 ก่อนคืนเงินให้ในเดือน ต.ค.58 เตือนสมาชิกที่จะลาออกคิดให้รอบคอบ เหตุลาออกแล้วไม่มีสิทธิ์กลับเข้ามาเป็นสมาชิกอีก ชี้ตลาดหุ้นร่วงแค่พักฐาน ยันไม่กระทบผลตอบแทนการลงทุน มั่นใจทั้งปีได้เกิน 5%
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข. ) เปิดเผยว่า กบข.คาดว่าจะมีสมาชิกลาออก หรือใช้สิทธิ UNDO ประมาณ 2 แสนราย จากจำนวนสมาชิกที่สามารถกลับไปใช้สิทธิบำเหน็จบำนาญได้ประมาณ 700,000 คน หรือคิดเป็น 30% โดยคิดเป็นเงินที่ กบข. ต้องจ่ายคืนสมาชิกประมาณ 40,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 10% ของเงินกองทุนที่ กบข.บริหารอยู่ทั้งหมด 4.8 แสนล้านบาท
"กบข.มั่นใจว่า ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องและพร้อมจ่ายคืนให้สมาชิกได้ ทั้งจากเงินสดที่ กบข.มีอยู่และเงินพันธบัตรที่ครบอายุการไถ่ถอนนอกจากนี้ ยังมีเงินลงทุนที่ กบข.ลงทุนในตลาดหุ้นในประเทศ และ ต่างประเทศ" นายสมบัติ กล่าว
ดังนั้น ยืนยันว่าการจ่ายเงินคืนดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดเงินและตลาดหุ้นในประเทศของ กบข.เอง หรือถ้าหากมีจำนวนสมาชิก กบข. ลาออกมากกว่าที่คาดไว้ ก็ไม่กระทบต่อสภาพคล่อง กบข.แน่นอน
"ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 1.2 ล้านราย เบื้องต้นคาดออกไป 2 แสนรายคงไม่กระทบสภาพคล่อง เนื่องจากภายในปีหน้าจะมีพันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดไถ่ถอน 100,000 กว่าล้านบาท และจากการขายหุ้นในและต่างประเทศอีกส่วนหนึ่งด้วย"นายสมบัติ กล่าว
ปัจจุบัน กบข.มีการกระจายการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลทั้งสิ้น 320,000 ล้านบาท หุ้นในประเทศ 50,000กว่าล้านบาท หุ้นต่างประเทศ 70,000 ล้านบาท และอาคาร สำนักงาน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ 20,000 ล้านบาท
การคืนเงินให้สมาชิกที่ถอนการลงทุน คาดว่าจะเป็นเดือนตุลาคม 2558 โดยสมาชิก กบข.ที่มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะอยู่กับกบข.ต่อไปหรือกลับไปใช้ระบบบำเหน็จบำนาญแบบเดิม ต้องเป็นสมาชิกก่อนวันที่ 27 มีนาคม 2540 ซึ่งมีจำนวนสมาชิกประมาณ 700,000 คน โดยกบข. เปิดให้สมาชิกมีเวลาตัดสินใจจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 2558 ว่าจะลาออกจาก กบข. หรือตัดสินใจเป็นสมาชิก กบข.ต่อไป โดยคาดว่าจะรวบรวมข้อมูลครบถ้วนได้ประมาณเดือน ก.ค.2558
กบข.ประเมินว่า ข้าราชการที่มีอายุราชการสะสมเป็นเวลานาน เช่น ข้าราชการทหาร จะกลับไปใช้ระบบบำเหน็จบำนาญ เพราะมีการคำนวณอายุราชการแบบสมทบเข้ามา ทำให้ได้เงินมากกว่าการเป็นสมาชิก กบข. โดยจากการศึกษาพบว่า มีสมาชิกที่มีอายุราชการ 45 ปี จำนวน 70,000 คน โดยแบ่งเป็นข้าราชการครู 40% ข้าราชการพลเรือน 25 %ข้าราชการตำรวจ 15% และ ข้าราชการทหาร 10%
นายสมบัติ ระบุว่า กบข.จะชี้แจง และอธิบายให้สมาชิก กบข. เข้าใจถึงวิธีการคำนวณผลตอบแทน ก่อนที่ร่างพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิบำเหน็จบำนาญ ตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 หรือ พ.ร.บ. อันดู (UNDO) จะมีผลบังคับใช้ คาดว่าจะเป็นวันที่ 1 ธ.ค. 2557 หลังจากที่สมาชิกสภานิติบัญญัติ ( สนช.) ได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว
นายสมบัติ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้สมาชิก กบข.พิจารณาให้รอบคอบ หากจะใช้สิทธิกลับไปรับบำนาญปี 2494 หรือ UNDO อย่าพิจารณาตามกระแส ทั้งนี้ หากเป็นสมาชิก กบข.ต่อไป จะได้รับเงินก้อนเมื่อเกษียณอายุ โดยเมื่อรวมเงินสมทบของตนเอง 200,000 บาท และเงินประเดิมก้อนแรก เงินสมทบจากภาครัฐ 3% และเงินชดเชยที่รัฐสะสม 2% คิดเป็น 800,000 บาทขึ้นอยู่กับอายุงาน รวมประมาณ 1 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้สร้างธุรกิจได้ หากสมาชิกยื่นใช้สิทธิ UNDO จะได้เงินเพียง 200,000 บาทเท่านั้น ซึ่งหากลาออกจากสมาชิก กบข. แล้วจะไม่สามารถกลับมาเป็นสมาชิกใหม่ได้
"หากออกจะได้เงินก้อนเพียง 200,000 บาทเท่านั้น เงินสมทบอื่นๆ จากภาครัฐจะไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ"นายสมบัติ กล่าว
สำหรับ ตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลงในช่วงนี้ ยืนยันว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั้งหมดของ กบข. แน่นอน เนื่องจาก กบข.มีการกระจายการลงทุน ทั้งในตลาดพันธบัตรรัฐบาล หุ้นในและต่างประเทศ ซึ่งจากการกระจายการลงทุนดังกล่าว ส่งผลให้ 9 เดือนที่ผ่านมามีผลตอบแทนรวมแล้ว 5% ขณะที่ทั้งปีคาดว่าจะได้มากกว่าที่ระดับดังกล่าว
"ผลตอบแทนการลงทุนของ กบข.9 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 5% สูงกว่าเงินเฟ้อ ที่อยู่ที่ 2%และ เงินฝากที่ 1.7% แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับฐาน แต่กบข. มีการจัดพอร์ตการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ขณะเดียวกันจะปรับพอร์ตโครงสร้างให้เหมาะสม ให้ได้น้ำหนักที่วางสัดส่วนไว้" นายสมบัติ กล่าว
ทั้งนี้ มองว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงปรับฐาน เนื่องจากตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมากแล้ว ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน สำหรับนักลงทุนระยะยาว
"มองว่าตอนนี้ตลาดหุ้นปรับฐาน ช่วงนี้จึงเป็นจังหวะที่ดีที่จะเข้าไปลงทุนได้" นายสมบัติ กล่าว
กบข.ประเมินว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ.จีดีพี ปี 58 จะขยายตัวได้ประมาณ 4.3% เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักที่สำคัญ คาดว่าจะมาจากการลงทุนจากภาครัฐ และเอกชน
"เศรษฐกิจเราเริ่มเห็นว่ามันฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ปีหน้าเราก็มองจีดีพีโต 4.3% ขณะที่ดอกเบี้ยมองว่าจะเริ่มทยอยปรับเพิ่มขึ้นในปีหน้าตามภาวะเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน"นายสมบัติ กล่าว