- Details
- Category: บลจ.
- Published: Wednesday, 08 October 2014 23:53
- Hits: 2835
บลจ.กสิกรไทยโชว์ฟอร์มเด็ด เตรียมจ่ายปันผลกองทุน K-JAPAN หลังคลอดกองทุนได้ไม่ถึงไตรมาส แถมพ่วงปันผลกองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล 2 รับเศรษฐกิจไทยเติบโต
บลจ.กสิกรไทย ขนเงินกว่า 60 ล้านบาทเตรียมจ่ายปันผล กองทุนเปิดเค เจแปน หุ้นทุน (K-JAPAN) กองทุนหุ้นแดนอาทิตย์อุทัยอันดับ 1 ของประเทศที่มียอดการเสนอขายครั้งแรกสูงสุด พร้อมพ่วง ปันผลกองทุนรวงข้าวทวีผล 2(RKF-HI2) อีกกว่า 30 ล้านบาท รับเศรษฐกิจไทยเติบโต คาดสิ้นปี SET INDEX มีโอกาสแตะ 1,600 จุด
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผล กองทุนเปิดเค เจแปน หุ้นทุน (K-JAPAN)สำหรับ ผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2557 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล 2 (RKF-HI2) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2557 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 ในอัตรา 0.42 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 2 กองทุนจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อ ในสมุดทะเบียนเวลา 8.00น. ของวันที่ 30 กันยายน 2557 รวมมูลค่าการจ่ายปันผลรวมทั้งสิ้นกว่า 90 ล้านบาท กำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 ตุลาคม นี้
นายนาวิน กล่าวว่า กองทุนK-JAPAN นับว่าเป็นกองทุนหุ้นต่างประเทศอีกกองทุนหนึ่งของ บลจ.กสิกรไทย ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ลงทุนจนทำให้กองทุน K-JAPAN สามารถขึ้นแท่นเป็นกองทุนหุ้นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นอันดับ 1 ที่ทำลายสถิติทั้งการเสนอขายครั้งแรกที่มีมูลค่ารวมสูงที่สุด และยังเป็นกองทุนหุ้นประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้ โดยกองทุน K-JAPAN มีการลงทุนผ่านกองทุนหลัก คือ กองทุน Schroder International Selection Fund Japanese Equity, Class A Acc ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน ซึ่งบริหารจัดการโดย Schroders International selected fund บริษัทจัดการลงทุนชั้นนำระดับโลก ที่ได้รับรางวัลการันตีมากมาย อาทิ รางวัล Best Equity Manager สำหรับผลการดำเนินงาน 3 ปี จาก Lipper Fund Award ในปี 2555, รางวัล Mercer MPA Award ปี 2555 ประเภทรางวัล Large Cap Core Category, รางวัล R & I Fund Award ปี 2555 ประเภทรางวัล One of The Best Three Core Style Japanese Equity DB Funds นอกจากนั้น นโยบายการลงทุนของกองทุนหลัก ยังเน้นการลงทุนในหุ้นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ส่วนของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะเลือกลงทุนในบริษัทที่มีผลประกอบการดี มีความสามารถในการแข่งขันสูง และมีความยั่งยืนในการเติบโตของธุรกิจ
สำหรับมุมมองต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นบลจ.กสิกรไทยยังคงมีมุมมองในเชิงบวกและคิดว่าตลาดญี่ปุ่นยังมีความน่าสนใจ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาการเติบโตทางเศรษฐกิจจะมีการชะลอตัวอยู่บ้าง แต่คาดว่าเมื่อเข้าสู่ไตรมาสสุดท้าย แนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะการที่รัฐบาลกลางญี่ปุ่นมีการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง น่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นสามารถฟื้นตัว และกลับมาสู่สภาวะปกติได้เร็วยิ่งขึ้น
นายนาวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ กองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล 2 (RKF-HI2)นับว่าเป็นกองทุนหนึ่งที่มีนโยบายการจ่ายปันผลที่สามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ โดยมีการจ่ายปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 20 ครั้ง นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในเดือนมีนาคม 2537 คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลรวม 11.119 บาทต่อหน่วย โดยแนวโน้มหุ้นไทยในไตรมาสสุดท้ายนี้ บลจ.กสิกรไทย มองว่ามีโอกาสขึ้นไปได้ถึง 1,600 จุด โดยแรงผลักดันจากสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน K-JAPAN และกองทุน RKF-HI2 ของ บลจ. กสิกรไทย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และเอกสารเกี่ยวกับกองทุนได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุน K-JAPAN ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนมิได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนจึงอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้