- Details
- Category: บลจ.
- Published: Friday, 26 July 2019 17:53
- Hits: 3648
บลจ.วรรณ ออก Alternative Fund ลุ้นรับผลตอบแทนสูงสุด 5.5% ภายใน 1 ปี ขาย 30 ก.ค.-1 ส.ค.
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดเสนอขายกองทุนทางเลือก (Alternative Fund) กองทุนเปิด วรรณ คอมเพล็กซ์รีเทิร์น SET50 1YA (ONE-COMPLEXS501YA) ระหว่างวันที่ 30 ก.ค.-13 ส.ค.62 เพื่อรองรับตามความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเงินต้น โดย ONE-COMPLEXS501YA จะมีนโยบายลงทุนตราสารหนี้ หรือ เงินฝากทั้งในและต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ ในสัดส่วนประมาณ 98.5%
ส่วนอีกประมาณ 1.5% กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ประเภทสัญญาคอลวอร์แรนท์ หรือ สัญญาคอลออปชั่นที่มีการจ่ายผลตอบแทบอ้างอิงระดับดัชนีอ้างอิงของ SET50 Index โดยผู้ถือหน่วยจะได้รับผลตอบแทนขั้นต่ำ 0.5% เมื่อสิ้นสุดอายุโครงการ 1 ปี อย่างไรก็ดี ขณะนี้กองทุน ONE-COMPLEXS501YA กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
"ในช่วงไตรมาส 1/2562 ที่ผ่านมา บลจ.วรรณถือว่าเป็นรายแรกของอุตสาหกรรมกองทุนรวมในประเทศไทย ที่นำเสนอกองทุนทางเลือกรูปแบบ Structured Note อายุ 1 ปี อีกทั้ง ONE-COMPLEXS501YA ก็เป็นกองทุนเดียวในประเทศไทยที่เป็น Structured Note อายุ 1 ปี ที่ให้ผลตอบแทนขั้นต่ำ 0.5% โดยกองทุนนี้เหมาะสมกลุ่มลูกค้าเงินฝากประจำเพราะขั้นต่ำของผลตอบแทนกองทุนนี้คือ 0.5% หรือเทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ยังสนใจลงทุนในตราสารหนี้ เพราะเป็นการลงทุนช็อตสุดท้ายก่อนเก็บภาษีกองทุนตราสารหนี้ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ส.ค.นี้ โดยหากพิจารณาความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ในกองทุนนี้ ตราสารที่เลือกลงทุนเป็นตราสารหนี้ต่างประเทศที่มี Credit Rating ระดับ A และ A- จาก Moody’s ซึ่งสูงกว่า Credit Rating ของประเทศไทยที่เฉลี่ยอยู่ในระดับ BBB+ สะท้อนให้เห็นว่า กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากปัจจัยด้าน Credit Risk ที่น้อยมาก"นายพจน์กล่าว
นายพจน์ กล่าวอีกว่า กลยุทธ์กระจายการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของกองทุน ONE-COMPLEXS501YA นั้น ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนใน 3 แบบ เมื่อเข้าเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเงื่อนไขแรก ได้แก่ ระดับดัชนี SET50 ณ วันพิจารณาน้อยกว่าหรือเท่ากับระดับดัชนีอ้างอิงในวันเริ่มต้นสัญญา โดยไม่มีวันใดวันหนึ่งที่ระดับดัชนีอ้างอิงสูงกว่า 10% ของระดับดัชนีในวันเริ่มต้นสัญญาหากเข้าเงื่อนไขแรกผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนคงที่ที่ระดับ 0.5%
แบบสอง ระดับดัชนีอ้างอิง ณ วันพิจารณาปรับตัวขึ้นแต่ไม่เกิน 10% ของระดับดัชนีในวันเริ่มต้นสัญญา โดยไม่มีวันใดวันหนึ่งที่ระดับดัชนีอ้างอิงสูงกว่า 10% ของระดับดัชนีในวันเริ่มต้นสัญญา หากเข้าเงื่อนไขที่สองผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นเท่ากับ 50% ของระดับดัชนีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น คำนวณผลตอบแทนรวมกับ 0.5% ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุดที่ระดับ 5.5% และแบบสุดท้าย ณ วันใดวันหนึ่งตลอดอายุสัญญาดัชนีอ้างอิงปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% จากระดับดัชนีในวันเริ่มต้นสัญญา นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนคงที่ 1.0% คำนวณผลตอบแทนรวมกับ 0.5% หรือรับผลตอบแทนที่ระดับ 1.5%
"บริษัทคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นไทยในอีก 1 ปีข้างหน้าดัชนี SET50 มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังคงเป็นการปรับขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศยังมีความแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงจากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกของไทยที่ยังไม่มีสัญญาฟื้นตัวชัดเจน รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศหลังจากรัฐบาลมีคะแนนเสียงในสภาใกล้เคียงกับฝ่ายค้าน ซึ่งอาจจะกระทบต่อการลงคะแนนเสียงผ่านร่างกฎหมายในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะกระทบต่อโครงการลงทุนของภาครัฐให้ชะลอลงรวมถึงการร่างงบประมาณปี 63 ให้มีโอกาสล่าช้าลงได้"นายพจน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนของดัชนี SET50 ในอดีตที่ผ่านมา พบว่าดัชนีมีผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่หากพิจารณาในช่วง 5 ปี ดัชนีมีผลตอบเฉลี่ยเป็นบวกและไม่เกินระดับ 10% กอปรกับปัจจัยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวในกรอบ จากปัจจัยทั้งอุปสงค์และอุปทานในตลาดโลกซึ่งมีแนวโน้มทรงตัว โดยจะส่งผลดีให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานใน SET50 ไม่ผันผวนมากนัก