- Details
- Category: บลจ.
- Published: Monday, 22 September 2014 19:55
- Hits: 2657
บลจ.กสิกรไทย ชวนลงทุนบอนด์สั้น 3-6 เดือน ชูโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุด 2.75% ต่อปี เผยกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศยังฮิต ท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยต่ำ
บลจ.กสิกรไทยได้จังหวะส่งกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุโครงการ 3-6 เดือน ชูโอกาสรับผลตอบแทน 2.25%-2.75% ต่อปี เสนอขายวันที่ 23-29 กันยายนนี้ พร้อมเผยกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ยังได้รับความสนใจต่อเนื่อง ท่ามกลางแนวโน้มดอกเบี้ยทรงตัวระดับต่ำ
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในวันที่ 23-29 กันยายน 2557 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอเอ็ม (KEFF6MAM) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.75% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อียู (KFI3MEU) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.25% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
“ปัจจุบันกลุ่มผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ ยังคงให้ความสนใจลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนภายในประเทศเพียงอย่างเดียว และเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับสถานการณ์การลงทุนในปัจจุบัน ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ โดย บลจ.กสิกรไทย ยังคงมุ่งเน้นการคัดเลือกตราสารที่มีคุณภาพ พร้อมกับการปรับจังหวะการออกกองทุนใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น แม้สถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศกำลังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและตัวเลขการใช้จ่ายภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น ขณะที่นโยบายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ที่คาดว่าจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม และจะส่งผลต่อแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป อย่างไรก็ตามจากผลการประชุมล่าสุดของคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงิน (กนง.) ยังคงมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.00% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้” นายนาวินกล่าว
นายนาวินกล่าวต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอเอ็ม (KEFF6MAM) จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Bank of China เงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี ร่วมด้วยตราสารหนี้ Isbank ตราสารหนี้ VakifBank, ประเทศตุรกี และตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท
อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ภายในประเทศเพียงอย่างเดียว บลจ.กสิกรไทย ขอแนะนำกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อียู (KFI3MEU) ซึ่งโดยเบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation เงินฝาก Bank of China นอกจากนี้ยังลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โดยตราสารที่กล่าวมามีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
ผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KEFF6MAM และกองทุน KFI3MEU สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่www.kasikornasset.com