- Details
- Category: บลจ.
- Published: Monday, 05 November 2018 12:36
- Hits: 1323
'ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล' ฟันธงแนวโน้มอสังหาฯให้เช่าแข็งแกร่ง ดันกองทุน 'ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม'
เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1.5 หมื่นล้าน โชว์ศักยภาพคว้ามอร์นิ่งสตาร์ 5 ดาวพร้อมจ่ายปันผลสม่ำเสมอ มั่นใจอัตราผลตอบแทนในไทยและเอเชีย-แปซิฟิกยังโดดเด่น
บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล มองแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคยังแข็งแกร่ง หลังภาพรวมค่าเช่าออฟฟิศในกรุงเทพฯ ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 1/2561 และอัตราพื้นที่ว่างลดลง ตลาดค้าปลีกและโรงงานสำเร็จรูป-คลังสินค้ามีแนวโน้มฟื้นตัว ขณะที่ตลาดออฟฟิศและโรงแรมในสิงคโปร์ จะได้รับปัจจัยบวกจาก Supplyใหม่ที่จำกัด ส่วนตลาดอสังหาฯ ให้เช่าในออสเตรเลียและ REITs ในญี่ปุ่น คาดได้รับผลดีจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ แนะ REITs ยังเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ พร้อมสนับสนุนการเติบโต ‘กองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม’ (CIMB-PRINCIPAL iPROP) ที่มีนโยบายลงทุนใน REITs และพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ในไทยและต่างประเทศที่มีพื้นฐานดี และได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 15,000 ล้านบาท หลังโชว์ศักยภาพคว้ามอร์นิ่งสตาร์ 5 ดาว และสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ทีมจัดการลงทุนประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะเติบโต 3.7% นำโดยเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและยุโรป ส่วนเศรษฐกิจจีนคาดว่าจะเติบโต 6.2 – 6.8% โดยภาพรวมยังเป็นทิศทางขยายตัว แม้ว่าตัวเลขและดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจต่างๆ ได้ชะลอความร้อนแรงลง จากผลของการที่สหรัฐฯ เพิ่มความเข้มข้นการปฏิรูปการค้าระหว่างประเทศและสร้างปฏิกิริยาตอบโต้จากประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะประเทศจีน เช่น การปรับขึ้นอัตราภาษีศุลกากร ก็อาจส่งผลทางลบต่อการค้าโลกและเศรษฐกิจโลกที่เติบโตลดลงในระยะถัดไป ขณะที่นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางขนาดใหญ่ทั่วโลกกำลังเดินหน้าสู่ระดับปกติ จากที่เคยผ่อนคลาย โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 – 2 ครั้งในปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 2 – 2.25% ขึ้นอยู่กับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ สำหรับประเทศไทย ทีมจัดการลงทุนคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจจะเติบโตกว่า 4% จากปัจจัยการส่งออก ท่องเที่ยวและการลงทุนจากภาครัฐ รวมถึงการบริโภคในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวตามรายได้ภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่สายพัฒนาธุรกิจ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า จากการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจ ทีมจัดการลงทุนมีมุมมองต่อการลงทุนใน REITs และกองทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจและมีความผันผวนค่อนข้างต่ำ โดยภาพรวมตลาดออฟฟิศให้เช่าเกรด A และ B ในกรุงเทพฯ ช่วงไตรมาส 1/2561 ปรับตัวดีขึ้น (ข้อมูลจากฝ่ายวิจัย CBRE) ทั้งในด้านอัตราพื้นที่ว่างเฉลี่ยลดลงอยู่ที่ 7.3% และค่าเช่าออฟฟิศทุกระดับที่เพิ่มขึ้น เช่น ค่าเช่าออฟฟิศให้เช่าเกรด A และเกรด B ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) เพิ่มขึ้น 3.1% และ 4.1% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในปี 2561 – 2565 จะมี Supply ใหม่เข้าสู่ตลาดประมาณ 7.67 แสนตารางเมตร ส่วนภาพรวมตลาดค้าปลีกคาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และตลาดโรงงานสำเร็จรูปรวมถึงคลังสินค้าที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว
ส่วนแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าในประเทศสิงคโปร์ คาดการณ์ในปี 2561–2565 (ข้อมูลจากฝ่ายวิจัย CBRE)ตลาดออฟฟิศให้เช่าจะได้รับปัจจัยบวกจาก Supply ใหม่ที่ลดลง ส่งผลดีต่อค่าเช่าออฟฟิศในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับภาพรวมตลาดโรงแรมในปีนี้ที่จะมี Supply ใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 753 ยูนิต หรือคิดเป็น 1.1% เท่านั้น จึงคาดว่าว่าตลาดออฟฟิศให้เช่าและโรงแรมในสิงคโปร์ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว รวมถึงตลาดค้าปลีกที่อัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/61 ขณะที่ REITs ในประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจะได้รับผลดีจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำและการคงมาตรการ QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยในปีนี้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีเป้าหมายเข้าซื้อ J-REIT เพิ่มขึ้น 90,000 ล้านเยน ส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าในออสเตรเลียคาดว่าจะได้รับผลดีจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและสัญญาเช่าที่มีระยะเวลาเฉลี่ยยาวนาน
“จากแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต เราสามารถเลือกลงทุนใน REITs เป็นรายตัว ซึ่งยังคงมีหลักทรัพย์ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทน 5-7% ตามที่คาดหวังได้ โดยเน้น REITs ที่มีแนวโน้มเติบโตดีและงบดุลแข็งแกร่งเพื่อลดผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาพบว่า REITs ที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ได้ขยายการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งแบบ Freehold หรือ Leasehold ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนในระยะยาว” นายต่อ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่สายพัฒนาธุรกิจ บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวต่อว่า ทีมบริหารจัดการแนะนำให้กระจายสัดส่วนการลงทุนใน REITs และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เช่น กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม (CIMB-PRINCIPAL iPROP) ที่มีกลยุทธ์การลงทุนหลักใน REITs และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยและสิงคโปร์ เพื่อเป้าหมายผลตอบแทนการลงทุนที่ 5 – 7% ต่อปี
ทั้งนี้ กองทุน CIMB-PRINCIPAL iPROP ได้รับอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 15,000 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 8,000 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อย และยังได้รับการจัดอันดับมอร์นิ่งสตาร์ 5 ดาวสำหรับกองทุน CIMB-PRINCIPAL iPROP-R ชนิดขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ โดยกองทุนฯ ให้อัตราผลตอบแทนย้อนหลังในช่วง 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี (นับจาก 29 มิ.ย.2561) เฉลี่ยอยู่ที่ 0.51% (ดัชนีเปรียบเทียบ -0.99%) 0.43% (ดัชนีเปรียบเทียบ -3.40%) 7.93% (ดัชนีเปรียบเทียบ 4.93%) 8.62% (ดัชนีเปรียบเทียบ 2.41%) 7.85% (ดัชนีเปรียบเทียบ 2.06%) ต่อปีตามลำดับ และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 9.81% (ดัชนีเปรียบเทียบ 4.96%) นอกจากนี้ กองทุน CIMB-PRINCIPAL iPROP-D ชนิดจ่ายเงินปันผล ยังสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาส 2/2552–ไตรมาส 3/2561 รวม 26 ครั้ง รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 5.035 บาทต่อหน่วย
นายต่อ กล่าวเพิ่มเติม มุมมองในอนาคตสำหรับการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์และ REITs ยังคาดหวังว่าจะให้ผลตอบแทนที่อยู่ในรูปของ Income ในอัตราประมาณ 5-7% ต่อปี กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม เหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนอย่างเหมาะสมในภาวะตลาดหุ้นผันผวน แนะนำให้ถือลงทุนระยะยาวไม่ต่ำกว่า 3-5 ปี เชื่อว่ากองทุนนี้จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
สำหรับ นักลงทุนที่สนใจสามารถขอหนังสือชี้ชวนและรายละเอียดกองทุนได้ที่ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือผู้สนับสนุนการขายฯ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล 0 2686 9595 www.cimb-principal.co.th Benchmark : SETPFUND Index 50.00% + FSTREI Index (THB) 50.00%
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน/ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลของกองทุนรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงาน ของกองทุนรวมที่เปิดเผยไว้ในแหล่งต่างๆ หรือให้ขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ก่อนการตัดสินใจลงทุน/บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน/กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือ ได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้/กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector Fund) ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าวผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก/Copyright @ 2018 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริช์ ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ : (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่ (3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง/ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดย บริษัท เอ็ม ที มัลติมีเดีย จำกัด (ในนาม บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล)
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : พิภพ ฆ้องวง (ท๊อป) โทร. 081-929-8864, 02-612-2081 ต่อ 124 e-mai l: [email protected]