- Details
- Category: บลจ.
- Published: Thursday, 11 October 2018 14:54
- Hits: 3748
KTAM จ่ายปันผล KT-PIF อัตรา 0.30 บาทต่อหน่วยเดินหน้าขายตราสารหนี้ตปท.1ปีชูผลตอบแทน 1.80%
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดกรุงไทย พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล( KT-PIF-D)อัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 16 ตุลาคม 2561 สำหรับ รอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 - 30 เมษายน 2562 จากผลการดำเนินงานสิ้นสุด ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2561
กองทุนมีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉลี่ยในรอบบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยกองทุนจัดตั้งในเดือนกรกฎาคม 2559 มีการจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 6 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 1.00 บาทต่อหน่วย
สำหรับ ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 28 กันยายน 2561 YTD (3 ม.ค.-28ก.ย.61) อยู่ที่ 9.71% 6 เดือนอยู่ที่ 7.32% และ1 ปี อยู่ที่ 13.44% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน( Benchmark)YTD อยู่ที่ 4.71% 6 เดือนอยู่ที่ 6.82% และ1 ปี อยู่ที่ 7.41%
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 204(KTFF204)เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 16 ตุลาคม 2561 อายุโครงการ 12 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ซึ่งประกอบไปด้วย เงินฝากประจำของAgricultural Bank of China,Bank of China,China Construction Bank Asia, AL Khalij Commercial Bank, Commercial Bank PQSC บัตรเงินฝาก Industrial and Commercial Bank of China, China Merchanyts Bank, และ MTN ของMashreq Bank โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.80% ต่อปี โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย
แนวโน้มอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทน US Treasury โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิจำนวน 15,370 ล้านบาท โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1 bps.มาอยู่ที่ 1.96% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9 bps.มาอยู่ที่ 2.41% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 bps.มาอยู่ที่ 2.87% ต่อปี
ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ตามแรงขายหลังอัตราการว่างงานเดือนกันยายนอยู่ในระดับ 3.7% ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1969 ในขณะที่ก่อนหน้านั้นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่แข็งแกร่งเกินคาด การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ รวมถึงการที่ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับแคนาดา โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7 bps.มาอยู่ที่ 2.88% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13 bps. มาอยู่ที่ 3.07% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18 bps.มาอยู่ที่ 3.23% ต่อปี
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
Click Donate Support Web