- Details
-
Category: บลจ.
-
Published: Monday, 08 September 2014 11:43
-
Hits: 2882
ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เปิดตัวกองทุนซีแพม ยูโร ไฮ ยิลด์ รับจังหวะยุโรปเศรษฐกิจฟื้นตัว มอง ไฮ ยิลด์ บอนด์ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนดี แนะลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงภูมิภาคยุโรป
ชูอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 6%-8% ต่อปี เปิดขาย IPO 8-12 ก.ย.นี้
บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เปิดโอกาสนักลงทุนเลือกรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนตราสารหนี้ นำเสนอกองทุนซีแพม ยูโร ไฮ ยิลด์ (CPAM Euro High Yield Fund) ลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงของบริษัทชั้นนำในยุโรป รับทิศทางเศรษฐกิจฟื้นตัว อัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง เป็นจังหวะที่ดีต่อการลงทุน ชูจุดเด่นให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 6%-8%ต่อปี
นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เปิดกองทุนซีแพม ยูโร ไฮ ยิลด์ (CPAM Euro High Yield Bond: CPAM EUHYF) มูลค่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูง เปิดขายหน่วยลงทุนในวันที่ 8-12 กันยายนนี้ โดยกำหนดมูลค่าการจองซื้อขั้นต่ำ 510,000 บาท และมูลค่าการซื้อครั้งต่อไป 5,000 บาท โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในกองทุนหลัก UBS Euro High Yield Bond Fund ซึ่งบริหารจัดการโดย UBS Global Asset Management บริษัทจัดการลงทุนชั้นนำในยุโรปและเป็นผู้จัดการกองทุนที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารใหญ่ที่สุดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยมีขนาดกองทุนใหญ่กว่า 4.99 พันล้านยูโร (210,640 ล้านบาท) (ณ 31 ก.ค. 2014)
“หากเรามองการลงทุนนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยมากนักลงทุนเลือกการลงทุนในหุ้นโดยคาดหวังผลตอบแทนที่สูง แต่การลงทุนในหุ้นนั้นแน่นอนนักลงทุนต้องยอมรับในความผันผวนของราคา ในขณะที่นักลงทุนยังมีทางเลือกการลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแต่มีความเสี่ยงไม่สูงมากนัก ซึ่งเรามองเห็นโอกาสการลงทุนดังกล่าวคือ การลงทุนตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงของภูมิภาคยุโรปหรือ Europe High Yield Bond เนื่องจากเศรษฐกิจภูมิภาคยุโรปอยู่ในช่วงการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการดำเนินนโยบายและมาตรการทางเงินเชิงผ่อนคลายที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำและทรงตัวต่อเนื่องถึงปลายปี 2015 ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยต่ำลงไปอีก โดยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือเพียง 0.05% และดอกเบี้ยเงินฝากสู่ระดับติดลบ -0.20% ซึ่งนับเป็นมาตรการหนึ่งเพื่อที่จะกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืด นอกจากนี้ ECB ยังมีการประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก โดยจะเข้าซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (ABS) วงเงิน 7 แสนล้านยูโร โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือน ต.ค.2014เป็นต้นไป รวมทั้งนโยบายการเพิ่มสภาพคล่องของธนาคารที่จะใช้การอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านการดำเนินการในตลาดการเงิน เริ่มรอบแรกในวันที่18 ก.ย.2014 นี้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามองว่าเมื่อเศรษฐกิจภูมิภาคยุโรปสามารถฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งในช่วง 1-2 ปีนี้ และจะส่งผลให้ประเทศต่างๆ มีฐานะทางการเงินและการคลังที่ดีขึ้น การเพิ่มการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเอื้อต่อผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ให้มีการปรับตัวดีขึ้น และส่งผลต่อการปรับอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit rating) ทั้งในส่วนเครดิตประเทศและบริษัทให้มีอันดับความน่าเชื่อถือดีขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลบวกต่อราคาตราสารหนี้ให้มีการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงโอกาสที่จะทำกำไรจากราคาตราสารหนี้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น”
กองทุนซีแพม ยูโร ไฮ ยิลด์ เน้นลงทุนในกองทุนหลัก USB Euro High Yield Bond Fund บริหารโดย UBS Global Asset Management บริษัทจัดการลงทุนชั้นนำในยุโรปและเป็นผู้จัดการกองทุนที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารใหญ่ที่สุดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยถือเป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นได้รับรางวัล Lipper Award 5 ปีติดต่อกัน (นับตั้งแต่ปี 2010-2014) และได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจาก MorningStar โดยกองทุนหลักมีนโยบายลงทุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนในตราสารหนี้ หลักทรัพย์ ซึ่งมีการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระหว่าง CCC และ BB+ (S&P) ส่วนตราสารหนี้ที่มีการจัดอันดับต่ำกว่าระดับ CCC กองทุนจะลงทุนไม่เกิน 10%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
สำหรับการลงทุนนั้น ผู้จัดการกองทุนจะคัดเลือกตราสารหนี้ภาคเอกชนชั้นนำ โดยมีการกระจายการลงทุนในตราสารมากกว่า 200 บริษัทในหลายอุตสาหกรรมในยุโรปที่ให้ผลตอบแทนสูง และถือครองตราสารลงทุนกว่า 400ตราสาร ดังนั้นน้ำหนักการลงทุนโดยเฉลี่ยต่อตราสารเพียง 0.23% และมีอายุเฉลี่ยของตราสารที่ลงทุนในกองทุนหลักโดยเฉลี่ยประมาณ 3.5 ปี ซึ่งเหมาะสมกับทิศทางเศรษฐกิจของยุโรปในปัจจุบัน ด้านการคัดเลือกตราสารหนี้ที่ลงทุน จะเน้นการประเมินพื้นฐานของบริษัทและเน้นการบริหารความเสี่ยงของการลงทุนในแต่ละตราสาร และให้ความสำคัญต่อการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมเป็นหลัก โดยคาดว่ามีโอกาสจะสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนให้แก่ผู้ซื้อหน่วยลงทุนเฉลี่ยประมาณ 6%-8% ต่อปี
“การลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงภูมิภาคยุโรป เหมาะสำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการแสวงหาผลตอบแทนที่ดีและมีความเสี่ยงไม่สูงมากนัก กองทุนนี้ผลตอบแทนจะมาจากอัตราดอกเบี้ยจากตราสารที่ลงทุน และโอกาสในการทำกำไรจากราคาตราสารหนี้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้น จากภาพรวมเศรษฐกิจภูมิภาคยุโรปที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนต่างๆ ที่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งผลงานการบริหารที่ดีอย่างต่อเนื่องของกองทุนหลักที่เราคัดเลือกมา ทำให้เราคาดว่ากองทุนซีแพม ยูโรไฮ ยิลด์ จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน รวมทั้งกองทุนมีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน” นายจุมพล กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจ กองทุนซีแพม ยูโร ไฮ ยิลด์ สามารถขอหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคารทหารไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล 0 2686 9595 www.cimb-principal.com
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของกองทุนรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยงและผลการดำเนินงานของกองทุนรวมที่เปิดเผยไว้ในเวบไซต์ของบริษัท หรือสามารถขอข้อมูลได้จากฝ่ายการตลาดก่อนตัดสินใจลงทุน
กองทุนดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน