- Details
- Category: บลจ.
- Published: Monday, 29 January 2018 12:26
- Hits: 3470
WHART ปลื้มทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กร A สะท้อนสินทรัพย์คุณภาพ-มีรายได้มั่นคง
ทรัสต์ WHART ปลื้มทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กร A 'Stable'สะท้อนถึงสินทรัพย์ของทรัสต์ฯ ที่มีคุณภาพสูงมีรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว จากรายได้ค่าเช่า มีความเสี่ยงต่ำ ด้าน CEO’ปิยะพงศ์ พินธุประภา’ส่งสัญญาณลงทุนเพิ่มในโครงการที่มีศักยภาพ ตามจุดยุทธ์ศาสตร์โลจิสติกส์ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป จากปัจจุบันมีทรัพย์สิน 20 โครงการ พื้นที่รวมกว่า 972,000 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ชั้นนำของประเทศ
นายปิยะพงศ์ พินธุประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือWHAREM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรของจาก ทริสเรทติ้งที่ระดับ A ด้วยแนวโน้ม 'Stable' เป็นการสะท้อนถึงสินทรัพย์ของทรัสต์ฯ ที่มีคุณภาพสูง มีความเสี่ยงต่ำ มีรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวจากรายได้ค่าเช่า
อีกทั้ง ยังมีศักยภาพการลงทุนในโครงการอื่นๆภายใต้ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป เพิ่มขึ้นในอนาคตถือเป็นการการรันตีความมั่นคงในการลงทุน โดยล่าสุดได้มีการผนึกรวมกองทรัสต์ WHART เข้าร่วมกับกองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (กองทุนรวม WHAPF)
นอกจากนี้ ได้ดำเนินการซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติมจาก WHA Group จำนวน 4 โครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มจากประมาณ 13,880 ล้านบาท เป็นประมาณ 28,023 ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WHAREM กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกองทรัสต์มีทรัพย์สิน 20 โครงการ คิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 972,000 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในธุรกิจโลจิสติกส์ของประเทศทั้ง 3 พื้นที่คือ 1. บริเวณถนนบางนา-ตราด 2. บริเวณ Eastern Economic area (จังหวัดชลบุรีและระยอง) 3. บริเวณตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร (จังหวัดอยุธยาและสระบุรี) ส่งผลให้เป็นการเพิ่มมิติในการแข่งขันให้กับกองทรัสต์ WHART เพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดีขึ้น
ดังนั้น จึงมั่นใจว่ากองทรัสต์ สามารถรักษาสัดส่วน Freehold ต่อ Leasehold ของทรัพย์สินอยู่ในอัตรา 70 ต่อ 30 ทำให้เป็นการลดความเสี่ยงของการลดมูลค่าของทรัพย์สินในอนาคต ทั้งยังสามารถรักษาระดับ occupancy rate ได้มากกว่าร้อยละ 90 อย่างต่อเนื่อง