MGI ชู MISS GRAND THAILAND 2024 รายได้เติบโต 2 เท่าตัว สร้างศิลปิน T-Pop ลุยเพิ่มสินค้าใหม่ผ่านช่องทาง MGI

MGI มั่นใจปีนี้คาดรายได้เติบโตเท่าตัว 100% จากปีก่อน ล่าสุดแถลงแผนการผลิตละครซีรีส์เรื่องใหม่ ชื่อ'หยดฝนกลิ่นสนิม' โดยมีนักแสดงนำคือ 'อิงฟ้า วราหะ'-'ชาล็อต ออสติน' ตีตลาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้ง จัดการประกวด Miss Grand Thailand 2024 ปัจจุบันเริ่มเก็บตัวผู้เข้าประกวด เผยสปอนเซอร์หลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก คาดโต 2 เท่าจากปีก่อน

นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) MGI เผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจปี 2567 วางเป้ารายได้เติบโต 2 เท่าตัวจากปี 2566 โดยบริษัทมีแผนสร้างศิลปิน T-Pop ด้วยการคัดเลือกบุคคลที่จะสามารถสร้างกระแสให้ประเทศไทย และประเทศในแถบเอเซีย ซึ่งโปรเจคนี้ได้พี่ชายของ 'แบมแบม GOT7' เข้ามาดูแลร่วมกับนาย ณวัฒน์ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านเกาหลี ซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีความรู้จักกลยุทธ์ของการสร้างศิลปินสไตล์เกาหลี

ทั้งแผนธุรกิจในปี 2567 มีเป้าหมายที่จะเป็น 'Thailand Social Commerce Leader' โดยจะมุ่งเน้น KOL & Creator Network ในการสร้างคอนเทนต์ รวมทั้งมุ่งเน้น Product Portfolio ที่มีแผนเพิ่มสินค้าใหม่จากพันธมิตร เพิ่มเข้ามาจำหน่ายในช่องทาง MGI มากยิ่งขึ้น

ขณะที่ยังมีแผนสร้าง Community ให้เหนียวแน่นมากขึ้นยิ่งอีก้วย สำหรับกลุ่มลูกค้าและบุคคลภายนอก รวมทั้งสร้าง Platform เพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

ขณะที่งานมีเดีย บริษัทจะเริ่มพัฒนาคอนเทนต์ออริจินัลให้มากขึ้น และจะมี GIRL LOVE SERIES ในปี 2567 อย่างน้อย 1 เรื่อง และจะมี EXCLUSIVE CONTENT ที่เป็น PAID CONTENT เพิ่มมากขึ้น

ส่วนงานอีเว้นท์ในปี 2567 วางแผนจัดงานประมาณ 15 งาน รวมทั้งมีคอนเสิร์ตประมาณ 5 งาน ประกอบกับมีกิจกรรมของ T-Pop อย่างน้อย 1 งาน และมีแผนจัดทำ ONLINE PRIVATE GROUP เพิ่มเติม

ขณะที่ในฝั่งของ COMMERCE มีแผนปรับ MGI SHOP ใหม่ ให้เป็น E-RETAILS ทั้งหมด เพื่อรองรับการรับสินค้าจากพันธมิตรจำหน่ายมากขึ้น รวมหาสินค้าใหม่จากพันธมิตรเพิ่มเติม และมีแผนออกสินค้าใหม่ไม่น้อยกว่า 30 Sku

ขณะเดียวกัน ยังมีแผนจัดทำ MCN CELEB PRODUCT GROUP ไม่น้อยกว่า 5 ราย โดยล่าสุดได้จัดทำร่วมกับ ดาราชื่อดังอย่าง 'แพท ณปภา ตันตระกูล' กับผลิตภัณฑ์วิตามินซี

ทั้งนี้ คาดว่า จะมีผู้รับชมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดใช้เงินลงทุน 30-40 ล้านบาท มองสิ่งที่ได้รับกลับมาคุ้มค่า โดยรายได้จะมาจาก 1) การขายสปอนเซอร์ 2) แพลตฟอร์มแบบดูฟรี และ uncut เปิดเป็นระบบสมาชิก 3) กลุ่มปิดตามติดกองถ่าย 4) สินค้าที่นำมาจำหน่ายในธีมซีรีส์ และ 5) ธุรกิจกับต่างประเทศ โดยจะนำซีรีส์แปลเป็นภาษาต่างประเทศบนแพลตฟอร์ม จะฉายที่ช่องทางไหนรอถึงเวลาเหมาะสม จะจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการ และแจ้งทุกท่านอีกครั้ง

นอกจากนี้ MGI จัดประกวด'Miss Grand Thailand 2024 โดยจะแถลงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 5 มีนาคม 2567 ซึ่งตอนนี้เป็นช่วงเก็บตัวผู้เข้าประกวด พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ นับเป็นอีเวนท์ใหญ่ประจำปี นำนางงามสร้างฐานมวลชน ทำให้มองว่าภาพรวมไตรมาส 1/2567 และไตรมาส 2/2567 เป็นซีซั่นในการสร้างรายได้จากนางงามผู้เข้าประกวดทั้ง 77 จังหวัด โดยปัจจัยสนับสนุนรายได้มาจาก

1) สปอนเซอร์ผู้สนับสนุนการประกวดมีเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าปีที่แล้ว คาดเพิ่มขึ้นประมาณเท่าตัว

2) รายได้จากการขายสินค้า เป็นการ Live ขายสินค้าจากเหล่านางงามผู้เข้าประกวดทั้ง 77 จังหวัด

3) รายได้จากการโหวต โดยการแข่งขันในแต่ละรอบจะมีการเปิดโหวต และคัดนางงามจาก 77 คน เหลือ 8 คนในรอบสุดท้าย ซึ่งจะจัดวันที่ 6 เมษายนนี้

โดยช่วง Popular Vote ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก สถิติการโหวตปีที่ผ่านๆ มา MGI ได้เงินเข้ามาหลายล้านบาท ด้วยฐานแฟนคลับของนางงามทุกคน ทำให้ Engagement กลับมาค่อนข้างมาก

สำหรับ รอบสุดท้าย วันที่ 6 เมษายน 2567 จะคัดเลือกเหลือ 10 คนสุดท้าย การันตีตำแหน่ง ทุกคนไม่จำเป็นว่าต้องได้ที่ 1 รองอันดับ 5 ก็สามารถดังได้ และสามารถสร้างรายได้เข้ามา กลยุทธ์แกรนด์ จะเลือกคนที่ขับเคลื่อนในเชิงธุรกิจได้ด้วย ทำให้เกิดค่านิยม ความนิยม และรายได้

4) รายได้จากการขายบัตร จะมีการจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆ ตามมา รวมทั้ง คอนเสิร์ตใหญ่ของมิสแกรนด์

นอกเหนือจากการประกวดนางงาม อีกกลยุทธ์ คือ กลุ่ม T- Pop 8 คน สร้างผลงานสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ จะมีการจัดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล 2024 เป็นการประกวด มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล ครั้งที่ 12 กำหนดจัดการประกวดเริ่มขึ้นตั้งแต่ ตุลาคม 2567 ณ ย่างกุ้ง ประเทศพม่า

ทั้งนี้ MGI รายงานผลประกอบการปี 2566 มีรายได้รวม 616 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 93% มีกำไรสุทธิ 119 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 149% มาจากทุกธุรกิจเติบโตขึ้น โดยธุรกิจพาณิชย์เติบโตจากการจัดกิจกรรมให้ผู้ประกวดมิสแกรนด์ขายสินค้าของบริษัทผ่านช่องทางขายใหม่ คือ TikTok

รวมถึง ธุรกิจสื่อและบันเทิง และธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน เติบโตขึ้นเมื่อเทียบปีก่อน โดยอัตรากำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ 19.36% เพิ่มขึ้นจาก 15.05% ในปี 2565 เนื่องจากมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น

Click Donate Support Web