WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

LPHอังกูร3

LPH เปิดแผนปีมังกรทอง ตั้งธงรายได้โต 20-25% ล่าสุดแตกไลน์ธุรกิจผุดคอนโดฯ พรีเมี่ยม ย่านลาดพร้าว แจกเงินปันผลอีกหุ้นละ 0.09 บาท ขึ้น XD 2 พ.ค.67 นี้

          “บมจ.โรงพยาบาล ลาดพร้าว หรือ LPH” เปิดแผนธุรกิจปีมังกรทอง ตั้งธงรายได้รวมโต 20-25% หลังคนไข้ทั่วไปกลับมาเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) รวมทั้งผู้ป่วยต่างชาติจากตะวันออกกลาง-กัมพูชา คาดรายได้ผู้ป่วยต่างชาติปีนี้พุ่ง 50% จากปีที่ผ่านมา ล่าสุดแตกไลน์ธุรกิจผุดคอนโดฯ พรีเมี่ยม ย่านลาดพร้าว เพื่อการกระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต ด้านความคืบหน้าแผนการลงทุนสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งใหม่ที่ถนนลาดพร้าว รพ.จักษุอินเตอร์ฯ ลาดพร้าว และรพ.ศัลยกรรมเฉพาะทางรวมผ่าตัดหัวใจครบวงจร คาดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการปลายปี 68 เผยผลประกอบการปี 66 รายได้รวมอยู่ที่ 2,261 ลบ. กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 63.55 ลบ. เหตุสิ้นสุดการระบาดโควิด-19 และเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น แจกปันผลในอัตราหุ้นละ 0.09 บาท ขึ้น XD วันที่ 2 พ.ค. 67 กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 17 พ.ค. 67 สะท้อนความเชื่อมั่นการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

          ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี 2567 LPH ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 20-25% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยภาพรวมปัจจุบันคนไข้ทั่วไปกลับมาเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ทั้งคนไข้ภายนอก (OPD) และคนไข้ใน (IPD) โดยสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มผู้ป่วยจากประกันสังคม (สปส.) ราว 45% เเละกลุ่มผู้ป่วยเงินสดราว 55% ขณะที่ผู้ป่วยต่างชาติทยอยกลับมาใช้บริการมากขึ้นเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้จากตะวันออกกลาง รวมถึงคนไข้ประเทศกัมพูชา ซึ่งสนใจเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น โดยประเมินรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติในปี 2567 คาดว่ารายได้จะเติบโตราว 50% จากปีที่ผ่านมา 

          “จำนวนผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้สัดส่วนผู้ป่วยเงินสดเพิ่มสูงขึ้นด้วย ปัจจุบันโรงพยาบาลมีสัดส่วนคนไข้ต่างประเทศรวมทั้งหมดไม่ถึง 5% โดยตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปี (2566-2568) จำนวนผู้ป่วยจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นมาเป็นสัดส่วนที่ 10%” ดร.อังกูร กล่าว

          นอกจากนี้ ฐานผู้ป่วยประกันตนในปี 2567 ล่าสุดอยู่ที่ 180,000 ราย จากโควต้า 200,000 กว่าราย แต่ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ จะเป็นช่วงขอเปลี่ยนสถานพยาบาลของประกันสังคมรอบใหม่ คาดว่าจะได้ผู้ป่วยประกันสังคมเพิ่มแต่ไม่น่าจะเกิน 200,000 ราย เนื่องจากธุรกิจย่านลาดพร้าวมีการขยายตัวไม่มาก โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมา LPH ได้เปิดศูนย์การแพทย์ประกันสังคมลาดพร้าวแห่งใหม่ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลเดิมด้วย เพื่อรองรับฐานผู้ป่วยที่ใหญ่ขึ้น สามารถรับผู้ป่วยนอกประกันสังคม วันละ 1,000 คน และเป็นศูนย์ตรวจสุขภาพประกันสังคมด้วย

          สำหรับความคืบหน้าแผนการลงทุนสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งใหม่ที่ถนนลาดพร้าว รพ.จักษุอินเตอร์ฯลาดพร้าว และรพ.ศัลยกรรมเฉพาะทางรวมผ่าตัดหัวใจครบวงจร มูลค่าการลงทุนรวม 1,300 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้างตึก 500 ล้านบาท และค่าอุปกรณ์การแพทย์ 800 ล้านบาท การก่อสร้างล่าช้าออกไปจากเดิม

          เนื่องจากมีการปรับแบบอาคารใหม่เพิ่มในเรื่องของอาคารสีเขียว (Green Building) เป็นเทรนด์รักษ์โลกในขณะนี้ คาดว่าภายในไตรมาส 2/2567 จะเริ่มการก่อสร้างได้ และปลายปี 2568 คาดจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ ซึ่งจะรองรับคนไข้พรีเมี่ยมและคนไข้ต่างชาติ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับ LPH 

          การขยายตัวในระยะยาวของ LPH เราเน้นการเติบโตที่ยั่งยืน ภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลเราคงไม่ได้โตหวือหวา ล่าสุดได้ตั้งบริษัทลูกเป็นการแตกไลน์ (Diversify) ธุรกิจ และมีการลงทุนโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงการหาพันธมิตร เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต ล่าสุดเตรียมลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยในปี 2567 นี้ เตรียมก่อสร้างคอนโดมิเนียม เกรดพรีเมี่ยม ย่านลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท จำนวน 70 ห้อง ปัจจุบันมีการสำรวจความต้องการจองอยู่ในอัตราที่สูงมากเนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าและเป็นแหล่งชุมชนใหม่

          นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายการลงทุน โรงพยาบาลตรวจสุขภาพเพิ่มขึ้น จากเดิมเปิด รพ.ตรวจสุขภาพ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มอีก 1 แห่ง ที่โคราช เพื่อขยายฐานลูกค้าโรงงานขนาดกลางและเล็กที่มีจำนวนพนักงานไม่เกิน 500 คน คาดรายได้ในส่วนตรวจสุขภาพนอกสถานที่จะเติบโตกว่า 50%

          สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดปี 2566 (สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2566) มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,261.64 ล้านบาท ลดลง 7.20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวม 2,437.03 ล้านบาท เนื่องจากสิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 โดยมีรายได้จากการรักษาพยาบาลตามปกติธุรกิจ 1,944.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 6.34% มีรายได้จากการบริการ 288.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.51% แต่รายได้จากการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยลดลง 100% จากการสิ้นสุดภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ อยู่ที่ 63.55 ล้านบาท ลดลง 80.32% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 

          อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น และสะท้อนความเชื่อมั่นการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท เป็นจำนวนเงินรวม 108 ล้านบาท โดยจ่ายจากผลประกอบการกำไรสุทธิประจำปี 2566 ในอัตราร้อยละ 64.94 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท เป็นจำนวนเงินรวม 72 ล้านบาท และจ่ายกำไรสะสมยังไม่จัดสรรในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท เป็นจำนวนเงินรวม 36 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 2 ครั้ง ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 และจ่ายปันผลระหว่างกาลครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท ดังนั้นคงเหลือการจ่ายเงินปันผลอีกในอัตราหุ้นละ 0.09 บาท วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 วันที่จ่ายปันผล 17 พฤษภาคม 2567

 

 

2783

Click Donate Support Web 

SME 720x100 66

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kbank 720x100 66

QIC 720x100

วิริยะ 720x100AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

iconmotor

gen 720x100

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!