WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

2517 TOP Bundit

‘ไทยออยล์’ ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2566

          บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2566 ภาพรวมผลการดำเนินงานลดลง จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง

          นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า “ในไตรมาส 4/2566 กลุ่มไทยออยล์มีกำไรสุทธิ 2,944 ล้านบาท ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับราคาน้ำมันดิบเกือบทุกผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลง สาเหตุจาก โรงกลั่นหลายแห่งที่ปิดซ่อมบำรุงในไตรมาส 3 กลับมาเปิดดำเนินการ ส่งผลให้อุปทานในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น ด้านตลาดอะโรเมติกส์ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น จากความต้องการใช้เสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวและบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม (PET) ที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับผลการดำเนินงานด้านตลาดน้ำมันหล่อลื่นปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน จากอุปทาน ที่ปรับตัวลดลงจากการปิดตัวของโรงผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานบางแห่งในต่างประเทศและมีการปิดซ่อมบำรุงของ โรงผลิตในไทยบางแห่ง”

          ราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 4/2566 ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3/2566 เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันลดลงตามเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว ประกอบกับเศรษฐกิจจีนเติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ กลุ่มไทยออยล์ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 5,178 ล้านบาท 

          สำหรับภาพรวมปี 2566 กลุ่มไทยออยล์มีรายได้จากการขายที่ 459,402 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 19,443 ล้านบาท โดยกลุ่มไทยออยล์ยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี ตามหลักการ ESG (Environment, Social, and Governance) อย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากการได้รับรางวัลด้านความยั่งยืน จำนวน 13 รางวัล และการได้รับคะแนนการประเมินสูงสุดด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับสากล เป็นปีที่ 8 ในอุตสาหกรรมการตลาดและการกลั่นน้ำมันและก๊าซ และได้รับการรับรองเป็นสมาชิก DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยออยล์ที่จะสร้างการเติบโตและสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน ให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน 

          นายบัณฑิตฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับภาพรวมธุรกิจกลุ่มไทยออยล์ในปี 2567 คาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันจะกลับเข้าสู่สมดุล เนื่องจากอุปทานผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเปิดดำเนินการของ โรงกลั่นใหม่ในปี 2566 และ 2567 อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโรงกลั่นยังคงได้รับแรงหนุนจากปริมาณผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปคงคลัง โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และความ ไม่แน่นอนของการเปิดดำเนินการโรงกลั่นขนาดใหญ่ ในขณะที่ธุรกิจอะโรเมติกส์มีแนวโน้มฟื้นตัว หลังอุปทานจาก โรงกลั่นใหม่มีแนวโน้มน้อยกว่าอุปสงค์ที่เติบโตขึ้น สำหรับธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานมีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากปี 2566 เล็กน้อย จากอุปทานที่เพิ่มขึ้นของโรงผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานแห่งใหม่ของกลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 3 ที่เปิดดำเนินการ ในประเทศอินเดียและจีน” 

          ทั้งนี้ ไทยออยล์จะติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงแสวงหาโอกาสสร้างรายได้เพื่อให้มีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง 

 

 

2517

Click Donate Support Web 

SME 720x100 66

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kbank 720x100 66

QIC 720x100

วิริยะ 720x100AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

iconmotor

gen 720x100

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!