- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Tuesday, 26 September 2023 16:41
- Hits: 2070
SAV ยืนยันผู้ถือหุ้นเดิมไม่มีขายหุ้นออกแม้แต่หุ้นเดียว เตรียมจ่ายปันผล 0.75 บาท เร็วๆ นี้ ให้ยิลด์สูงกว่า 4% กองทุนมั่นใจพื้นฐานดี ครึ่งปีหลังเติบโตสูง ซื้อไอพีโอกว่า 45%
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การที่ SAV เปิดซื้อขายวันแรกต่ำกว่าราคาจองน่าจะเป็นเพราะสภาวะการลงทุนถูกปัจจัยลบหลายอย่าง ทั้งสภาวะตลาดหุ้นอเมริกาลดลงและบริษัทจีนขนาดใหญ่ที่กำลังมีปัญหา มีผลต่อความบรรยากาศการลงทุนพอสมควร
SAV เป็นหุ้นด้านการบินที่มีพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโตสูง จากปริมาณการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีสถานะการเงินที่ดี ไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย แต่มีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ และคณะกรรมการได้อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.75 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 4% ซึ่งคาดว่าจะกำหนดวันจ่ายปันผลเร็วๆ นี้
บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า ขณะนี้มีบางสื่อลงข่าวว่ามีนักลงทุนรายใหญ่ได้ซื้อหุ้นไอพีโอในราคาต่ำกว่า 19 บาทนั้น บริษัทฯ ขอยืนยันว่าข่าวนี้เป็น Faked News และไม่เป็นความจริง เนื่องจากบริษัทฯ ได้จำหน่ายหุ้นทั้งหมดผ่านโบรคเกอร์ชั้นนำได้ครบทั้ง 166 ล้านหุ้นและได้รับเงินทั้งหมด (ก่อนหักค่าธรรมเนียม) 3,154 ล้านบาท ขอให้นักลงทุนอย่าได้หลงเชื่อข่าวเท็จดังกล่าว
"ผมขอยืนยันว่า SAMART ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ SAV ได้นำหุ้นเดิมของ SAV ทั้งหมดล็อคอัพทั้ง 100% เป็นเวลา 6 เดือน...จึงไม่มีการขายหุ้นออกมาในตลาดฯ อย่างแน่นอน ขอให้นักลงทุนสบายใจได้และในการจองหุ้นไอพีโอนั้น นักลงทุนสถาบันหลายแห่งได้จองซื้อหุ้นไอพีโอจำนวน 45% ของหุ้นไอพีโอทั้งหมด เนื่องจาก เชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งคาดว่าจะเติบโตสูงและมั่นคง อีกทั้งมีนโยบายปันผลสูง และ นักวิเคราะห์ชั้นนำกว่า 10 โบรคเกอร์ ให้ราคาเหมาะสมของ SAV ประมาณ 25 – 29 บาท"นายวัฒน์ชัยกล่าว
SAV เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก
บมจ. สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) ผู้ให้บริการบริหารจัดการการควบคุมจราจรทางอากาศครบวงจรทั่วน่านฟ้าประเทศกัมพูชาเพียงผู้เดียว
นายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เพิ่มศักยภาพในการขยายบริการในสนามบินใหม่อีก 3 แห่ง ที่เตรียมเปิดให้บริการภายในปี 2567 ตามนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกัมพูชา ช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการการจราจรทางอากาศ และต่อยอดไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ตามวิสัยทัศน์ของบริษัท ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพบริการระดับสากล
SAV มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่กลุ่มบริษัทสามารถ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยถือผ่าน บริษัท สามารถ ยู-ทรานส์ จำกัด ถือหุ้น 60 % บริษัท สามารถ อินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 14.06 % ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ และตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับแผนการลงทุน และการขยายธุรกิจของบริษัทฯ รวมทั้งความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นๆ ในอนาคต
SAV มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 320,000,000 บาท จำนวน 640,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนรวม 166,000,000 หุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 64 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยบริษัท สามารถ อินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด รวมจำนวน 102 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และผู้ลงทุนสถาบัน ผู้มีอุปการะคุณและกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท สามารถ จำกัด (มหาชน) ระหว่างวันที่ 13-20 กันยายน 2566 ในราคาหุ้นละ 19.00 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนจากหุ้นใหม่จำนวน 1,216 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 12,160 ล้านบาท โดยมีบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.samartaviation.com และ www.set.or.th
'ธีระชัย พงศ์พนางาม' SAV ยืนหนึ่งน่านฟ้ากัมพูชาไร้คู่เเข่ง ระดมทุนสร้างอาณาจักรยิ่งใหญ่ยั่งยืน
กัมพูชาประเทศที่คนไทย อาจจะมองว่า ยังเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา อาจจะขาดระบบสาธารณูปโภค หรือเทคโนโลยีหลายด้าน ซึ่งอาจจะประสบปัญหาเรื่องการทำธุรกิจ ระบบลอจิสติกส์ ที่อาจจะไม่สะดวกเหมือนประเทศไทย และหลายประเทศในอาเซียน
แต่หากมองอีกด้านหนึ่งเมื่อกัมพูชายังเป็นประเทศเริ่มพัฒนา ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของหลายธุรกิจที่หากจะเริ่มเข้าไป ย่อมมีโอกาสเติบโตได้มาก โดยเฉพาะนโยบายของกัมพูชากำลังรุกด้านการท่องเที่ยว ซึ่งหากมองด้านศิลปวัฒนธรรมแล้ว ถือว่า ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว และนั่นจึงทำให้การเดินทางด้วยอากาศยานมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
สัมปทานกัมพูชาสนามบิน 6 แห่ง
เพื่อความกระจ่างในข้อมูลการลงทุน ‘คอหุ้น’ ได้รับเกียรติจาก คุณธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) SAV เล่าให้ฟังว่า ทุกสนามบินไม่ว่า ประเทศไหน สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การควบคุมการจราจรทางอากาศ ประเทศกัมพูชาก็เช่นเดียวกัน มีบริษัทที่ทำธุรกิจควบคุมการจราจรทางอากาศ คือ แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จํากัด CATS
ซึ่งบริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) SAV ของ บริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เป็นผู้ถือหุ้น 100% โดย CATS เป็น ผู้ให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชาทุกสนามบินเพียงรายเดียวจากการได้รับสัมปทาน
โดย CATS เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาระยะเวลารวม 49 ปี (2545-2594) ในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ รอบคลุมเส้นทางบินทั้งหมดของน่านฟ้าประเทศกัมพูชา โดยปัจจุบัน กัมพูชามีสนามบิน 6 แห่ง
ได้แก่ สนามบินนานาชาติพนมเปญ สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ สนามบินนานาชาติสีหนุ สนามบินพระตะบอง สนามบินเกาะกง และสนามบินสตึงเตรง และในเวลาอีกไม่นาน กัมพูชากำลังจะเปิดให้บริการสนามบินนานาชาติใหม่อีก 3 แห่ง คือ สนามบินนานาชาติดาราสาคร เปิดบริการไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งในระยะยาวคาดว่าจะรองรับนักเดินทางได้ 10 ล้านคน สนามบินนานาชาติเสียมเรียบใหม่ เปิดให้บริการไตรมาส 4 ปีนี้เช่นกัน โดยมีรันเวย์ที่ใหญ่รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้
และคาดว่า ปี 2573 จะรองรับผู้โดยสารได้ 20 ล้านคน และสนามบินนานาชาติพนมเปญใหม่ เปิดปี 2567 โดยใช้เงินลงทุนถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (5.2 หมื่นล้านบาท) จึงฟันธงได้เลยว่า นี่คือโอกาสและรายได้ของธุรกิจเกี่ยวกับการบิน ซึ่ง SAV ย่อมได้อานิสงส์เต็มๆ
ทั้งนี้ ปัจจุบันรายได้หลักของ CATS มาจากบริการควบคุมการจราจรทางอากาศ 3 ประเภท ได้แก่
1.รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ (Landing &Take-off : Domestic)
2.เที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ (Landing & Take-off: International)
3. รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา (Overflight)
ไม่มีคู่แข่ง สัมปทานถึงปี 2594
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) SAV เล่าว่า ดังนั้น หากมองจุดเด่นของ SAV คือ
1.เป็นผู้ให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร เพียงรายเดียวในกัมพูชา
2.มีรายได้ประจำทั้งจากทุกเที่ยวบินที่ขึ้น-ลงในประเทศกัมพูชา
3.มีรายได้ประจำจากทุกเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้ากัมพูชา โดยเฉพาะเที่ยวบินไปเวียตนาม ซึ่งเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยยะจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การลงทุนและการท่องเที่ยวอย่างสูง
4.SAV มีระยะเวลาสัมปทานอีก 29 ปี และสามารถต่อระยะเวลาสัมปทานได้อีก
5. ธุรกิจวิทยุการบิน ลงทุนต่ำให้ผลตอบแทนสูง และไม่มีคู่แข่ง
6. การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชา-อาเซียนมีแนวโน้มเติบโตสูง