- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Monday, 25 September 2023 23:22
- Hits: 1831
‘SAV’ หุ้นวิทยุการบินตัวแรกของเอเชีย เข้าเทรดพรุ่งนี้ บริษัทฯมั่นใจ ปัจจัยบวกมากมาย นักวิเคราะห์คาด ผลประกอบการเติบโตสูง ท่องเที่ยวเอเชียบูม ให้เป้าหมาย 25-29 บาท มีอัพไซด์สูง 33- 42% อัตรากำไรสูง ไม่มีหนี้ พร้อมจ่ายปันผลทันทีร่วม 4% แถมผู้ถือหุ้นเดิม ยืนยันล็อคอัพหุ้นเดิมทั้ง 100%
บมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) ผู้ให้บริการจราจรทางอากาศเพียงรายเดียวในน่านฟ้ากัมพูชา พร้อมเข้าซื้อขายวันแรกใน SET วันอังคาร 26 ก.ย.นี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมยืนยันกอดหุ้นแน่นทั้ง 100% กระแสตอบรับดีมากจากกองทุนและนักลงทุนรายย่อย ชูจุดเด่นธุรกิจพื้นฐานแกร่ง เติบโตพร้อมการท่องเที่ยว รับปัจจัยค่าเงินบาทอ่อน ส่งผลดีสะท้อนอัตราการเติบโต ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ฯ วางราคาเป้าหมาย 25-29.20 บาทต่อหุ้น คาดมีอัพไซด์สูง 33-42%
นายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มีความพร้อมสำหรับหุ้น SAV ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันพรุ่งนี้ (อังคาร 26 กันยายน 2566) เป็นวันแรก ในหมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ โดยมั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจาก บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการด้านวิทยุการบินรายเดียวในกัมพูชา มีผลประกอบการที่มั่นคงและคาดว่าจะมีโอกาสที่ผลประกอบการในช่วง 3 ปีนี้จะเติบโตสูงและต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของอาเซียน โดยเฉพาะ ประเทศไทย เวียตนาม ฟิลิปปินส์ และ กัมพูชา เนื่องจากรายได้ของบริษัทฯ มาจาก รายได้จากทุกเที่ยวบินที่บินผ่านฟ้ากัมพูชาประมาณ 60% และ จากทุกเที่ยวบินที่ขึ้นและลงที่ประเทศกัมพูชา 40% โดยมีสายการบินนานาชาติจำนวนมากเป็นลูกค้าประจำ และ คาดว่าเมื่อนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนกลับมาท่องเที่ยวในไทย เวียตนาม กัมพูชาและประเทศในอาเซียน จำนวนเที่ยวบินจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งบริษัทฯได้เตรียมความพร้อมและได้ลงทุนในเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อรองรับการเปิดสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ 2 แห่ง ที่เสียมเรียบซึ่งมีกำหนดการเปิดให้บริการในปลายปีนี้ และที่กรุงพนมเปญในต้นปี 2025
นอกจากนี้ บริษัทฯจะมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นหลังจากระดมทุนในครั้งนี้ โดยจะนำเงินไปคืนหนี้สถาบันการเงินทั้งหมดจำนวน 840 ล้านบาท จะทำให้บริษัทฯไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย และมีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) เท่ากับ 0 และ เร็วๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติพิจารณาอนุมัติในหลักการการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นทุกราย (จ่ายจากกำไรสะสมงวดเดือนมกราคม - มิถุนายน 2566 ) ในอัตรา 0.75 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนเงินปันผลระหว่างกาลสูง 3.95% จากราคาไอพีโอ (โดยคาดว่าจะกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ภายใน 30 วันหลังจากหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์)”
นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยถึงความเชื่อมั่นว่า “SAV จะเป็นหุ้นน้องใหม่ใน SET ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีประสบการณ์การดำเนินธุรกิจตลอดระยะเวลา 21 ปี บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขยายระยะเวลาสัมปทานต่อเนื่องถึง 4 ครั้ง โดยยังมีอายุสัมปทานยาวนานอีก 28 ปี นับจากนี้ จนถึงปี 2594 ทำให้ธุรกิจของ SAV มีเสถียรภาพสูง อีกทั้งมีผลการดำเนินงานที่ดี มีความสามารถในการทำกำไรสูง และเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากอุตสาหกรรมการบินในเอเชียมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการขยายตัวของการลงทุนและการท่องเที่ยวในอาเซียน
โดย SAV ได้จำหน่ายขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกหรือ IPO จำนวน 166,000,000 หุ้น คิดเป็น 25.94% ของหุ้นสามัญทั้งหมดซึ่งมีจำนวน 640,000,000 หุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 19 บาท และราคาเหมาะสมเฉลี่ยอยู่ที่ 25 - 29 บาท ของนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง อีกทั้ง SAV มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ โดยหุ้นไอพีโอ SAV ทั้งหมด 166 ล้านหุ้น ได้จัดสรรให้นักลงทุนรายย่อย 51% ให้นักลงทุนสถาบัน 45% และให้ผู้ถือหุ้นของบมจ. สามารถ คอร์ปอเรชั่นที่ได้จองตามสิทธิ (Preemptive Right) 4%”
หลังสถานการณ์โควิด-19 ได้จบลง SAV มีผลประกอบการที่กลับมาเติบโตสูงอีกครั้ง โดยรายได้รวมเติบโตจาก 459.04 ล้านบาท ในปี 2564 เป็น 1,220.07 ล้านบาทในปี 2565 และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 168% จาก 74.35 ล้านบาท ในปี 2564 เป็นกำไรสุทธิ 199.55 ล้านบาทในปี 2565 และ สำหรับงวด 6 เดือน ของปี 2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 710.42 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 114 ล้านบาท โดย SAV มีจุดแข็งด้านศักยภาพธุรกิจแกร่ง ไร้คู่แข่ง เป็นผู้ให้บริการวิทยุการบินแห่งเดียวในกัมพูชา มีโอกาสเติบโตสูงไปพร้อมกับอุตสาหกรรมการบินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการท่องเที่ยวที่จะกลับมาเติบโตสูงหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง อีกทั้ง ในช่วงสภาวะความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอ่อน จะส่งผลเชิงบวกต่ออัตราการเติบโตของรายได้อีกด้วย
การประเมินมูลค่าบริษัท SAV
บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ให้ราคาเป้าหมาย SAV ดังนี้
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) 25.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน), (KSS) 27.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (XSPRING) 29.20 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) (AIRA) 28.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด (TNITY) 25.90 บาท
บริษัท หลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) (Kingford) 25.50 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด, (CGS-CIMB) 25.30 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), (DAOL) 25.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), (MST) 25.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (UOBKH) 24.30 บาท
ลักษณะการประกอบธุรกิจบริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV
บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “SAV” เดิมชื่อบริษัท สามารถ ทรานส์โซลูชั่น จำกัด) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2560 โดยบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) (“SAMART”) เพื่อดำเนินธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding company) โดยเน้นการลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจการจราจรทางอากาศ หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการจราจรทางอากาศปัจจุบันได้มีการถือสัดส่วนร้อยละ 100.00 ในบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จํากัด (“CATS”) เพียงบริษัทเดียวซึ่ง CATS เป็นบริษัทสัญชาติกัมพูชาที่ประกอบธุรกิจดําเนินการจัดตั้งระบบและให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชาทุกสนามบินแต่เพียงผู้เดียวตามสัญญาสัมปทานที่ได้รับจากรัฐบาลประเทศกัมพูชาโดยเริ่มทำสัญญาสัมปทานในปี 2544 และเริ่มนับอายุสัมปทานตั้งแต่ปี 2545 ถึงปี 2594
A9889