- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Saturday, 15 July 2023 23:20
- Hits: 2355
กลุ่มสามารถ รับโชค 2 ชั้น ดัน SAV หุ้นวิทยุการบินหนึ่งเดียวเข้าตลาดหุ้น ธุรกิจการบินอาเซียนเติบโตแรง ท่องเที่ยว และการลงทุนบูม ลุ้นปีหน้าโตกว่าก่อนโควิด กัมพูชาเตรียมเปิด 3 สนามบินใหม่ เตรียมพร้อมรองรับการท่องเที่ยวโตในอนาคต
กลุ่มสามารถ เปิดตัวธุรกิจวิทยุการบินในกัมพูชา ให้บริการมากว่า 21 ปี พร้อมสัมปทานรายเดียวต่อเนื่อง 49 ปี ดูแลการจราจรทั้งน่านฟ้ากัมพูชา ลงทุนเทคโนโลยีระดับโลกกว่า 300 ล้านบาท รองรับ สนามบินนานาชาติใหม่ 3 สนามบิน
นายวัฒนชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์องค์กร และพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า “กลุ่มสามารถ ได้ทำการลงทุนในหลากหลายกลุ่มธุรกิจมามากกว่า 60 ปี
โดยในส่วนของธุรกิจด้านการบิน ได้ลงทุนที่ประเทศกัมพูชาตั้งแต่ปี 2545 ผ่าน บมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยโดยมีกลุ่มสามารถถือหุ้นในบริษัทฯ 100% ทั้งนี้ SAV เป็นบริษัทเดียวที่ได้รับสัมปทานด้านการให้บริการวิทยุการบินแบบครบวงจรในประเทศกัมพูชา
โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดระยะเวลา 21 ปีที่ผ่านมา พร้อมขยายระยะเวลาสัมปทานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ครอบคลุมระยะเวลานานถึง 49 ปี ทำให้ธุรกิจของ SAV มีเสถียรภาพอย่างสูง และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
นายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เปิดเผยว่า บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เป็นบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งมีธุรกิจแกน คือให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร ผ่าน บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) ซึ่ง’SAV’ ถือหุ้นใน CATS ในสัดส่วน 100%
โดย CATS เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่ปี 2545-2594 ในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ครอบคลุมเส้นทางบินทั้งหมดของน่านฟ้าประเทศกัมพูชา โดยรายได้หลักของ CATS มาจากบริการควบคุมการจราจรทางอากาศ 3 ประเภท
ได้แก่ 1.รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ (Landing &Take-off : Domestic) 2.เที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ (Landing & Take-off: International) และ 3.รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา (Overflight) โดยปัจจุบัน “SAV” มีสนามบินในกัมพูชา 6 แห่ง ได้แก่ สนามบินนานาชาติพนมเปญ สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ สนามบินนานาชาติสีหนุ สนามบินพระตะบอง สนามบินเกาะกง และสนามบินสตึงเตรง
“อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการบินกัมพูชา กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุนสร้างสนามบินนานาชาติใหม่ 3 แห่ง เพื่อรองรับจำนวนนักเดินทางที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ คือ 1.สนามบินนานาชาติพนมเปญแห่งใหม่
ในเฟสแรกสามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 10 ล้านคน 2. สนามบินนานาชาติเสียมเรียบแห่งใหม่ สามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 8 ล้านคน ในเฟสแรก และมีแผนขยายให้สามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 20 ล้านคน ในอนาคต 3.สนามบินนานาชาติดาราสาคร (เกาะกง) ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ที่จะรองรับการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการปลายปีนี้
ทั้งนี้ มีบริษัทวิจัยนานาชาติคาดว่าในปี 2567 จำนวนนักเดินทางเข้าออกกัมพูชาจะเพิ่มมากกว่าก่อนโควิด และจำนวนเที่ยวบินในกัมพูชาจะเพิ่มเป็น 134,000 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจาก 100,000 เที่ยวบินที่คาดการในปี 2566 เนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ โดยเฉพาะจากประเทศจีนซึ่งน่าจะกลับมาอย่างชัดเจนในต้นปีหน้า โดยล่าสุดจำนวนเที่ยวบินจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
“ในปี 2565 SAV มีรายได้รวม เท่ากับ 1,220 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรายได้รวม 761 ล้านบาท ในปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 199.5 โดยหลังจากผ่านพ้นวิกฤติโควิด 19 และมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวทั้งในประเทศกัมพูชาและประเทศในภูมิภาคอาเซียนจะกลับมาเติบโตเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่ง SAV จะมีผลการดำเนินงานที่กลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจุดเด่นหลักของ SAV
คือ 1.เป็นผู้ให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร เพียงรายเดียวในกัมพูชา 2.มีรายได้ประจำทั้งจากทุกเที่ยวบินที่ขึ้น-ลงในประเทศกัมพูชา 3.มีรายได้ประจำจากทุกเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้ากัมพูชา 4.SAV มีระยะเวลาสัมปทานอีก 29 ปี และมีโอกาสต่ออายุสัมปทานได้อีก 5.ธุรกิจวิทยุการบิน ให้ผลตอบแทนสูง ไม่มีคู่แข่ง 6.การขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชาและอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตสูง
นายวัฒนชัย กล่าวสรุปว่า “หาก SAV เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นการปลดปล่อยศักยภาพของกลุ่มสามารถ เนื่องจาก SAV เป็นบริษัทฯ ที่มีศักยภาพสูง อยู่ในอุตสาหกรรมการบินที่เติบโตสูงและต่อเนื่อง อีกทั้งมีผลการดำเนินงานที่ดี ธุรกิจมีความมั่นคงสูง มีความสามารถในการทำกำไรสูง เป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อีก โดย SAV จะเป็นหุ้นวิทยุการบิน หุ้นแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นหุ้นหนึ่งเดียวที่ได้ประโยชน์จากท่องเที่ยว และการลงทุนในอาเซียน”
บมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในไตรมาส 3 นี้ พร้อมเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวนไม่เกิน 224,000,000 หุ้น หรือไม่เกินร้อยละ 35.00 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทฯ
โดยมูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 0.50 บาทต่อหุ้น เพื่อระดมทุนรองรับการขยายธุรกิจ และชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงรองรับโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ชูจุดแข็งศักยภาพธุรกิจแกร่ง ไร้คู่แข่ง ยืนหนึ่งด้านการเป็นผู้ให้บริการวิทยุการบินแห่งเดียวในกัมพูชา พร้อมเติบโตรับอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวที่จะกลับมาเติบโตสูง และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลสูงถึง 50% ของกำไรสุทธิ
บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เดิมชื่อบริษัท สามารถ ทรานส์โซลูชั่น จำกัด) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2560 เพื่อดำเนินธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding company) โดยเน้นการลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจการจราจรทางอากาศ หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการจราจรทางอากาศ ปัจจุบันได้มีการถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 100.00 ในบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จํากัด (“CATS”) เพียงบริษัทเดียว
ซึ่ง CATS เป็นบริษัทสัญชาติกัมพูชาที่ประกอบธุรกิจดําเนินการจัดตั้งระบบและให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชาทุกสนามบินแต่เพียงผู้เดียวตามที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลประเทศกัมพูชา เริ่มทำสัญญาในปี 2544 และเริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2545 โดยจะไปสิ้นสุดอายุสัมปทานในปี 2594 รวมอายุสัมปทานทั้งสิ้น 49 ปี
ปัจจุบัน CATS เป็นผู้ให้บริการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ (Air Navigation Service Provider : ANSP) แต่เพียงรายเดียวสำหรับทุกสนามบินในประเทศกัมพูชา ปัจจุบันมีสนามบิน 6 แห่ง ได้แก่สนามบินนานาชาติพนมเปญ (Phnom Penh International Airport) สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ (Siem Reap International Airport) และสนามบินนานาชาติสีหนุ (Sihanouk International Airport)
ซึ่งเป็นสนามบินที่ให้บริการการบินทั้งในและระหว่างประเทศ รวมไปถึงสนามบินพระตะบอง (Battambang Airport) สนามบินเกาะกง (Koh Kong Airport) และสนามบินสตึงเตรง (Stung Treng Airport) ซึ่งให้บริการเฉพาะการบินภายในประเทศเท่านั้น
รวมถึงให้บริการในสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ คือ New Siem Reap (เปิดเดือนตุลาคม ปี 23) New Phnom Penh (สร้างเสร็จปี 24 ) และ Dara Sakor
ทั้งนี้ CATS เป็นหน่วยงานผู้ให้บริการการเดินอากาศของประเทศกัมพูชา มีหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังนี้
1. การบริหารจราจรทางอากาศ (Air Traffic Management : ATM) ภายในเขตแถลงข่าวการบินพนมเปญ (Phnom Penh Flight Information Region : Phnom Penh FIR) เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพทางการบินของผู้ใช้ห้วงอากาศในประเทศกัมพูชา
2. การบริการระบบสื่อสาร ระบบช่วยการเดินอากาศ และระบบติดตามอากาศยาน (Aeronautical Communications, Navigation and Surveillance System/Services)
3. การบริการข่าวสารการเดินอากาศ (Aeronautical Information Services)
4. การบริการด้านออกแบบแบบแผนการบิน (Flight Procedure Design) และการบริการด้านแผนที่การเดินอากาศ (Aeronautical Charts)
งานควบคุมการจราจรทางอากาศของ CATS สามารถแบ่งได้เป็น 3 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
1. การควบคุมจราจรทางอากาศเขตสนามบิน (Aerodrome Control Service)
เป็นการบริการสำหรับอากาศยานที่กำลังปฏิบัติการ ณ บริเวณสนามบิน โดยเป็นการจัดลำดับการขึ้นลงของอากาศยาน การให้คำอนุญาตในการติดเครื่องยนต์ของอากาศยาน (Start-up Engine) และการให้คำอนุญาตในการขับเคลื่อน (Taxi) ได้แก่ ทางขับ (Taxi way) ทางวิ่ง (Runway) และลานจอด (Apron) รวมทั้งในวงจรการบิน (Traffic Pattern) บริเวณใกล้เคียงสนามบิน (Aerodrome Vicinity)
ทั้งนี้ การบริการในส่วนนี้ ดำเนินการโดยหอบังคับการบิน (Aerodrome Control Tower) ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบภายในรัศมี 10 ไมล์ทะเล (Nautical Miles) จากสนามบิน จากพื้นดินจนถึงระยะความสูงประมาณ 3,000 ฟุต
2. การบริการควบคุมจราจรทางอากาศเขตประชิดสนามบิน (Approach Control Service)
เป็นการบริการสำหรับอากาศยานที่กำลังทำการบินเข้า-ออกระหว่างสนามบินกับเส้นทางบินที่กำหนดไว้ในแผนการบิน (Flight Plan) และเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศยานชนกันในอากาศ จึงจำเป็นที่จะต้องมีการกำหนดให้ใช้เส้นทางการบินของอากาศยานแต่ละลำ
รวมถึงจัดลำดับในการเข้าไปลงที่สนามบิน การให้บริการดังกล่าวดำเนินการโดยศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศเขตประชิดสนามบิน (Approach Control Center) ซึ่งตั้งอยู่ที่ CATS Building ณ กรุงพนมเปญ โดยมีพื้นที่รับผิดชอบภายในรัศมี 30 ไมล์ทะเล (Nautical Miles) จากสนามบิน ความสูงระดับ 3,000 - 10,000 ฟุต
3. การบริการควบคุมการจราจรทางอากาศตามเส้นทางบิน (Area Control Service)
เป็นการให้บริการสำหรับอากาศยานที่บินอยู่ตามเส้นทางบินภายในอาณาเขตแถลงข่าวการบินพนมเปญ โดยมีการให้คำอนุญาต (Clearance) ในการใช้ความสูงและบินตามเส้นทางบินที่กำหนดไว้ โดยใช้ระบบติดตามอากาศยานเช่น เรดาร์ (Radio Detection and Ranging: Radar) ในการให้คำอนุญาตดังกล่าว
ทั้งนี้ การให้บริการดังกล่าวดำเนินการโดยศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศตามเส้นทางบิน (Area Control Center : Phnom Penh Area Control Center) ซึ่งตั้งอยู่ที่ CATS Building กรุงพนมเปญ โดยมีพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่ความสูง 10,000 – 46,000 ฟุต
รายได้ของ CATS แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
1. รายได้ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ (Landing & Take-off : Domestic) เป็นรายได้ค่าบริการควบคุมจราจรทางอากาศที่ CATS เรียกเก็บจากสายการบินที่มีการทำการบินขึ้น-ลงที่สนามบินภายในประเทศกัมพูชา ซึ่งสายการบินดังกล่าวมีเส้นทางการบินอยู่ภายในประเทศกัมพูชาเท่านั้น
2. รายได้ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ (Landing & Take-off : International) เป็นรายได้ค่าบริการควบคุมจราจรทางอากาศที่ CATS เรียกเก็บจากสายการบินที่มีการทำการบินขึ้น-ลงที่สนามบินภายในประเทศกัมพูชา ซึ่งสายการบินดังกล่าวมีเส้นทางการบินระหว่างประเทศกัมพูชากับประเทศอื่นๆ
3. รายได้ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา (Overflight) เป็นรายได้ค่าบริการควบคุมจราจรทางอากาศที่ CATS เรียกเก็บจากสายการบินที่มีการนำเครื่องบินบินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา (Phnom Penh FIR) จากท่าอากาศยานแห่งหนึ่งนอกประเทศกัมพูชา ไปยังอีกท่าอากาศยานหนึ่งนอกประเทศกัมพูชา ซึ่งมิได้มีการนำเครื่องบินลงจอดในสนามบินประเทศกัมพูชา
ปัจจัยบวก
- ความมุ่งมั่นและจริงจังของรัฐบาลกัมพูชาในการส่งเสริมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น
o การเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลก ด้วยการปรับปรุงสนามบินปัจจุบันและก่อสร้างสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ คือ New Siem Reap (เปิดเดือน ตุลาคม ปี 23) New Phnom Penh (สร้างเสร็จปี 24 ) และ Dara Sakor
o นโยบายส่งเสริมการค้าและการลงทุนร่วมกับจีน
o นโยบายส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวกับ ประเทศเวียดนาม ลาว อินโดนีเซีย เกาหลี และอื่นๆ
o การ Re-open ของทุกประเทศ จะส่งผลต่อการเดินทาง ทั้งด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น