- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Thursday, 22 June 2023 16:27
- Hits: 251
MAXBIT คว้า 2 ไลเซนส์ 'โบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัล' เปิดเทรดเหรียญคริปโตตุลาคม นี้ วางเป้า 1 ปี ขึ้นอันดับ 2 มาเก็ตแชร์ 10%
บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด Maxbit Digital Asset เป็นกิจการร่วมค้าระหว่างกลุ่มบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกพลังงานและน้ำมันชั้นนำที่มีสมาชิกจดทะเบียนกว่า 17 ล้านราย และบริษัท ยูนิต จำกัด ขณะนี้เรากำลังดำเนินการขอใบอนุญาตสินทรัพย์ดิจิทัลกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมีความตั้งใจที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลใหม่ที่คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงได้
หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด หรือ MAXBIT ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) โดย ‘ปกเขตร รัชกิจประการ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MAXBIT ออกมาประกาศให้โลกรู้ว่า ได้เวลาแจ้งเกิดแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลน้องใหม่ MAXBIT แล้ว โดยจะเปิดให้นักลงทุนลงกระดานเทรดได้ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 นี้ ตั้งเป้าหมายขอไลเซนส์ธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตเพิ่ม\
นายปกเขตร รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด หรือ MAXBITเปิดเผยว่า ก.ล.ต. อนุมัติใบอนุญาตเป็นนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ให้ MAXBIT แล้ว 2 ใบอนุญาต ได้แก่ 1. ไลเซนส์ดิจิทัลแอสเซจโบรกเกอร์ และ 2. ไลเซนส์คริปโตเคอเรนซี่โบรกเกอร์ โดยสามารถซื้อขายได้ทั้งโทเคนดิจิทัล และคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ และตั้งเป้าหมายขอไลเซนส์ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาต ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) และ (Digital Asset Fund Manager)
สำหรับ เหรียญคริปโตและโทเคนที่จะนำเข้ามาซื้อขายในแพลตฟอร์ม MAXBIT นั้น ในระยะแรกคาดว่าจะมีประมาณ 20 เหรียญชั้นนำที่มีการเทรดในปัจจุบัน ซึ่งต้องเป็นเหรียญที่ผ่านการตรวจสอบจาก ก.ล.ต. แล้ว โดยมีฐานลูกค้าเบื้องต้นเป็นสมาชิกจากบัตรแม็กซ์ การ์ด (MAX CARD) ที่มีสมาชิกอยู่ประมาณ 18 ล้านราย ซึ่งอาจจะมีกลุ่มนักลงทุนที่เป็นสมาชิกประมาณ 150,000 – 200,000 ราย เข้ามาเทรดในแพลตฟอร์ม MAXBIT โดยจะมีทั้งกลุ่มนักลงทุนคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน เป็นต้น ทั้งนี้ ลูกค้าที่เข้ามาซื้อขายคริปโตและโทเคนนี้ จะได้พอยท์ MAX CARD เพื่อนำไปใช้แลกซื้อสินค้าในเครือของ PTG ได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟพันธ์ไทย ร้านสะดวกซื้อแม็กซ์มาร์ท หรือเติมน้ำมัน
“บริษัทฯ ใช้งบลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์ม MAXBIT ประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อพัฒนาหลังบ้านให้มีความโดดเด่น และแตกต่างจากรายอื่นๆ รวมทั้งยังสร้างความปลอดภัยให้แกนักลงทุนของ MAXBIT ด้วย ทั้งนี้ ปัจจุบันตลาดคริปโตส่งสัญญาณกลับตัวมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนอีกครั้ง ซึ่งมีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 55,000 ล้านบาท/เดือน
จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ประมาณ 30,000 – 35,000 ล้านบาท/เดือน และถ้าหากย้อนกลับไปในช่วงขาขึ้นของตลาดคริปโตจะสูงถึง 90,000 ล้านบาท/เดือนเลยทีเดียว ดังนั้น หากในอนาคตตลาดคริปโตกลับมาสู่ยอดสูงสุดอีกครั้ง บริษัทฯ จะสามารถสร้างรายได้จากค่าคอมมิชชั่นเป็นจำนวนมากแน่นอน โดยตั้งเป้าไว้ว่า ในช่วง 1 ปี จะมีสมาชิกเทรดประมาณ 300,000 ราย และมีมาร์เก็ตแชร์โตประมาณ 10% เพื่อก้าวสู่เบอร์ 2 ของกลุ่มตลาดนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย”
“พีทีจีคาดหวังว่า แมกซ์บิทฯ ที่กำลังพัฒนาแพลตฟอร์ททางการเงิน จะเป็นกลไกสำคัญในอนาคตต่อระบบการเงินของพีทีจี ที่จะช่วยเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-oil และจะเชื่อมกับแอปพลิเคชั่น Maxme ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเงินอิเลคทรอนิกส์ (E-Money) ที่พีทีจีเพิ่งได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย กลายเป็นสะพานเชื่อมสู่ระบบนิเวศน์สู่โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลที่รวมไปถึง DeFi และ Metaverse และสุดท้ายจะนำพีทีจีก้าวไปสู่บริษัทระดับโลกตามเป้าหมาย” นายปกเขตรกล่าว