- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Wednesday, 21 June 2023 14:22
- Hits: 74
TBN เผยหุ้นลงตามภาวะ ยันผถห.ใหญ่ไม่ได้ขาย โบรกฯ ให้ราคาเป้าหมาย 29-33 บาท
TBN แจงหุ้นลงตามภาวะตลาดฯ พื้นฐานปึ๊กเหมือนเดิม ยันผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ได้ทิ้งหุ้น ระบุไม่เกี่ยวข้อง กรณี ตลท.ตรวจพบการซื้อขายกระจุกตัว ส่วน BIGLOT ระบุในไฟลิ่งแล้ว หลังรับเงินระดมทุน เดินหน้าขยายธุรกิจ ลั่นปีนี้รายได้โต 40% ฟากโบรกฯ ให้ราคาเป้าหมาย 29 - 33 บาท
‘ปนายุ ศิริกระจ่างศรี’ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น (TBN) เปิดเผยว่า การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นช่วง 2 วันที่ผ่านมาเป็นไปตามภาวะตลาดหุ้นไทย โดยตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. - 21 มิ.ย.66 (ถึงปิดการซื้อขายช่วงเช้า) SET Index ปรับตัวลดลงถึง 37 จุด หรือกว่า 2% ซึ่งพื้นฐานของบริษัทไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่มีนัยสำคัญ และเตรียมดำเนินการลงทุนขยายธุรกิจหลังได้รับเงินระดมทุนจากการขายไอพีโอตามแผน
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะมุ่งมั่นพัฒนาบริษัทให้เติบโตต่อเนื่อง โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 450-460 ล้านบาท เติบโต 40% จากปีก่อน มาจากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมของตลาดซอฟต์แวร์ Low code และแผนขยายกลุ่มลูกค้า ขณะที่ผลประกอบการมีรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) อยู่ในสัดส่วนระดับสูงมากกว่า 50% โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/66 บริษัทฯ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 300 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้และปี 67
ด้าน แหล่งข่าวผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ร่วมก่อตั้ง TBN ระบุว่า การปรับตัวลดลงแรงช่วง 2 วันหลังเข้าเทรดไม่ได้มาจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมนั้นได้ติด "ไซเรนพีเรียด" ทำให้ไม่สามารถขายหุ้นได้
ขณะที่การทำรายการ Biglot ของ Rocket Holdings ได้มีการระบุไว้ในไฟลิ่งแล้วว่า จะมีการนำหุ้นสามัญในสัดส่วน 8.75% ของทุนจดทะเบียนหลัง IPO เสนอขายต่อนักลงทุน จำนวน 6 ราย ได้แก่ 1) นายธนัช จุวิวัฒน์ ในสัดส่วน 3.75% 2) นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ในสัดส่วน 1.14% 3) นายวีรวัฒน์ บูรพพัฒนพงศ์ ในสัดส่วน 1.14% 4) นายสมพงษ์ แซ่ลิ้ม ในสัดส่วน 1.14% 5) นายประสบสันต์ รชตพฤทธิ์ ในสัดส่วน 0.80% 6) นางวิลาวัลย์ ใจดีจริง ในสัดส่วน 0.77% รวมถึงนาย Weng Sam Lam ขายหุ้นสามัญสัดส่วน 0.75% ให้กับ นายธนัช จุวิวัฒน์ ด้วย
ส่วนประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์ได้รายงานว่า มีแรงซื้อแรงขายกระจุกตัวในหุ้นนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยยืนยันว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งหมดยังคงติดล็อกไม่สามารถทำธุรกรรมได้
ด้าน บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินราคาเหมาะสมที่ 35.25 บาท อิง Forward PE ที่ 30.9 เท่า คาดกำไรสุทธิปี 66 - 68 จะเติบโตเฉลี่ยระดับ 48% ต่อปี ซึ่งจะมาจากการเติบโตของรายได้ในทุกกลุ่มธุรกิจ
ฟากบทวิเคราะห์ บล.บียอนด์ ประเมินราคาเหมาะสมที่ 33 - 36 บาท คำนวณด้วย PER multiple ที่ 30-32 เท่า สะท้อน PEG ระดับ 1 เท่า โดยประเมินกำไรสุทธิปี 66 - 68 ที่ 110 ล้านบาท, 145 ล้านบาท และ 173 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 67% ต่อปี
สำหรับ บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่า TBN อยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูง คาดรายได้ปี 66 จะเติบโตระดับ 31% จากปีก่อน และเป็นรายได้ประจำกว่า 50% โดยคาดว่า Core EPS ในปี 66-67 จะเติบโต 125% และเติบโต 47% จากปีก่อนหน้า ตามลำดับ ซึ่งประเมินราคาเป้าหมายที่ 29 บาท อิง PER 26 เท่า
ขณะที่ บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายสิ้นปี 66 ที่ 33 บาท โดยคิดเป็นส่วนลด PER ระดับ 10% จากค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม หรือคิดเป็น PEG ปี 66-68 ที่ระดับ 0.6 เท่า โดยเชื่อมั่นการเติบโตอีกหลายปีข้างหน้า