- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Friday, 09 June 2023 18:12
- Hits: 1645
Siamese Asset สร้างประวัติศาสตร์อสังหาฯ คว้ารางวัล EDGE Champion ผ่านมาตรฐานการรับรองอาคารระดับโลกครั้งแรกในไทย
บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจอสังหาฯ รูปแบบ Green Living ตอกย้ำกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจและโครงการอย่างยั่งยืน ตามแผนพัฒนาธุรกิจระยะยาวที่วางเป้าหมายไว้ โดยได้คว้ารางวัล EDGE Champion ผ่านมาตรฐานการรับรองอาคารระดับโลก ได้สำเร็จครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมกันนี้ ได้รับ Certificate ESG100 Company โดย สถาบันไทยพัฒน์ การันตีผลงานโดดเด่น มุ่งมั่นขับเคลื่อนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA)ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด 'Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต' เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับรางวัล EDGE Champion มาตรฐานการรับรองอาคารระดับโลก จากสถาบัน IFC (International Finance Corporation: IFC) สถาบันการเงินในเครือของธนาคารโลก (The World Bank Group) มีวัตถุประสงค์การดำเนินงานเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชน โดยเฉพาะโครงการลงทุนที่มีส่วนเกื้อหนุนต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่ง SA เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับมาตรฐานนี้ครั้งแรกในประเทศไทย
ทั้งนี้ EDGE Champion เป็นมาตรฐานอาคารเขียวและการวัดผลการก่อสร้างอย่างยั่งยืน เป็นนวัตกรรมในการรับรองมาตรฐานความเป็นเลิศในการออกแบบอาคาร สำหรับตลาดเกิดใหม่ของบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มธนาคารโลกคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นรางวัลระดับองค์กรอย่างถาวร
โดยองค์กรให้คำมั่นว่าจะพัฒนาโครงการโดยมี Edge รับรองผลงานการก่อสร้าง 80% หรือมากกว่านั้นของโครงการที่กำลังพัฒนาอยู่ โดยมุ่งเน้นการประหยัดพลังงานใน 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ การใช้พลังงาน (Energy Efficiency) การใช้น้ำ (Water Efficiency) และการใช้วัสดุก่อสร้างอาคาร (Material Efficiency)
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้รับมอบประกาศนียบัตร 'ESG100 Company ปี 2566' จากสถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจในประเทศไทย และเป็นผู้จัดทำข้อมูลกลุ่มหลักทรัพย์ ESG นับตั้งแต่ปี ค.ศ.2015 ซึ่งมอบให้กับบริษัทฯ ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental Social and Governance: ESG)
"ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นขับเคลื่อนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน น้ำ และลดการใช้พลังงานในการผลิตวัสดุก่อสร้าง เลือกใช้ Materials ที่ช่วยลดผลกระทบจากคาร์บอนให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาโครงการอย่างยั่งยืนและการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยที่เป็นอาคารสีเขียว ซึ่งในอนาคตอาคารประหยัดพลังงานจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นเมื่อเทียบกับอาคารทั่วไป สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดการเช่าและขายอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างดี"นายขจรศิษฐ์ กล่าว
โดยที่ผ่านมา ไซมิส แอสเสท ประสบความสำเร็จในการได้รับการรับรองขั้นต้นจาก EDGE ไปแล้วถึง 2 โครงการ ได้แก่ Tribe Bangkok Sukhumvit 39 Hotel และ โครงการบ้านเดี่ยว Monsane' Exclusive Villa Ratchapruek-Pinklao
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SA กล่าวว่า เป้าหมายของเราคือการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดและส่งเสริมแนวปฎิบัติด้านการออกแบบอย่างยั่งยืนใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพโดยส่งมอบ ‘Asset of life ที่สร้างคุณค่าให้กับทุกการใช้ชีวิต’ให้กับลูกค้า คุณภาพสินค้าที่คุ้มค่ากับการลงทุน และสร้างการเติบโตที่มีมูลค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท
"ขณะนี้ SA เน้นการพัฒนา โครงการอสังหาฯ ทั้งแนวราบ-แนวสูง โดยมีโครงการที่กำลังพัฒนาทั้งหมด 10 โครงการ เป็นแนวราบ 4 โครการ และแนวสูง 5 โครงการ และโรงแรม 1 โครงการ ขณะเดียวกันธุรกิจอื่นๆ ประกอบด้วยธุรกิจโรงแรม ธุรกิจให้เช่า ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจด้านสุขภาพ ธุรกิจเทคโนโลยีของการพักอาศัย
และธุรกิจการเงินและการลงทุน มีแนวโน้มอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยทุกโครงการที่เราพัฒนานั้น เล็งเห็นถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยใช้หลักธรรมภิบาลและใจจริง ซื่อตรงในการบริหารงาน เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน"
ปัจจุบัน Siamese Asset ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่ายในรูปแบบโครงการแนวราบและโครงการแนวสูง รวมทั้งสิ้น 30 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7.6 หมื่นล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566) และธุรกิจอื่นที่สนับสนุนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีก 6 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. ธุรกิจโรงแรม2. ธุรกิจพื้นที่พาณิชย์เพื่อการเช่า 3. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 4. ธุรกิจเวลเนสแอนด์เฮลแคร์ 5. ธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย และ 6. ธุรกิจการเงินและการลงทุน