- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Thursday, 20 October 2022 12:41
- Hits: 1460
SAMART พลิกกำไรหลังโควิด คาดปี 66 โตเกินเป้า พร้อมดัน บริษัทลูก SAV เข้าตลาดหลักทรัพย์
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจใหม่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเติบโตขึ้นอย่างมาก ถืึอว่าเป็นทิศทางขาขึ้นของบริษัท ในปี64ที่ผ่านมาบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ไม่ตรงตามเป้าหมายที่ 389.08 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้
ในปี 2565 บริษัทกลับมามีรายได้ตามเป้าหมายที่เพิ่มขึ้น 14,000 ล้านบาท บริษัทยังมีงานภาครัฐและอีกหลายโปรเจ็คที่ยังสามารถทำกำไรได้ 2 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้นมีปัญหาต่างๆเช่นการแพร่ระบาดโรคไวรัสโคโงนาหรือโควิด เรื่องการขาดแคลนชิพ และสถานการณ์น้ำท่วมหลายแห่งยังทำให้มีการส่งมอบงาน มีการช้ากว่าในปีที่แล้ว
ส่วนในปี 2566 บริษัทคาดว่ารายได้จะมีเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายประมาณการที่ 25-30% เทียบจากปี 2565 เนื่องจากบริษัทในเครือมีงานใหม่ที่เพิ่มเข้ามา โดยขณะนี้มีงานในมือ (Backlog) สูงขึ้นไปถึงกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ นายวัฒน์ชัย กล่าวว่าในปีนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะกลับมาเห็นการเติบโตที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน หรือ Turnaround ส่วนปี66 คาดว่าจะดีขึ้นกว่าปี 2565 นี้ บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ คือ ระบบพิมพ์รหัสควบคุมบนบรรจุภัณฑ์ (Direct Coding System) บนขวดเบียร์ เมื่อเดือน ก.ค.2565 โดยทำรายได้ 60-70 ล้านบาท/เดือน และคาดว่าในไตรมาส 4/65 อาจทำรายได้มากขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงไตรมาส 4 ถือเป็นไฮซีซั่น
ทั้งนี้ คาดว่า จะรับรู้รายได้ราว 400-500 ล้านบาท และปีหน้าจะรับรู้ปีล่ะ 1,100 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 7 ปีตามอายุของสัญญา ซึ่งมูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท รายได้ประจำ (Recurring income) นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่ขยายงานไปยังเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับกรมสรรพสามิต เพื่อให้บริษัทฯมีรายได้ประจำที่มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังได้งานติดตั้งระบบวงจรปิดและเช่ากล้องรวมซ่อมบำรุงของหน่วยงานรัฐ มูลค่างาน 600 ล้านบาท อายุสัญญา 5 ปี คาดว่าจะเซ็นสัญญาในสัปดาห์หน้า ก็จะทำให้งานรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 200 ล้านบาท
ด้าน บมจ.สามารถ เทเลคอม (SAMTEL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SAMART ถือหุ้นอยู่ 70% คาดว่าในปี 2565 จะมีรายได้ประมาณ 6,500 - 7,000 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบันนี้มีงานใหม่เข้ามา 4,650 พันล้านบาท คาดว่า 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จะมีรายได้ที่เพิ่มจากโครงการใหม่เข้ามาอีก 1,800 ล้านบาท จะทำให้ในปีนี้ มีงานใหม่ทั้งหมดเป็นจำนวน 7,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นตามเป้าหมาย และทำให้งานในมือ (Backlog) ปลายปีนี้มีถึง 7,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปี 64 โดยปัจจุบัน Backlog มีอยู่ 7,790 ล้านบาท
ขณะนี้ SAMTEL ยังมีงานใหม่ที่จะเป็น Recurring income ซึ่งเป็นโครงการใหญ่และมีอายุสัญญา 7-10 ปี โดยอยู่ระหว่างเจรจากับหน่วยงานรัฐ 3-4 แห่งคาดว่าหากเจรจาได้ก็จะมี Backlog เข้ามาประมาณเพิ่มขึ้นอีก 1-2 หมื่นล้านบาทในปี 66
ด้าน บมจ.สามารถ ดิจิตอล (SDC) ที่ SAMART ถือหุ้นอยู่ 69% นายวัฒน์ชัย คาดว่าในปีหน้าเริ่มปรับตัวขึ้นมา และมีกำไรเที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในปัจจุบันนี้ บริษัทมี 2 ธุรกิจ คือ Digital Trunk Radio คาดว่าปีหน้าจะ Break event ได้โดยขณะนี้ยังมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนชิพ และจากสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่อีกหลายแห่ง และโรควิดทำให้เป็นปัญหาในหลายที่ธุรกิจ Digital Content Service เกี่ยวกับด้านความเชื่อและโหราศาสตร์ของบริษัท ลัคกี้ เฮงเฮง จำกัด (Lucky Heng Heng) ดำเนินธุรกิจและให้บริการด้าน Mu tech เต็มรูปแบบ
โดยธุรกิจ Digital Trunk Radio เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากผู้ใช้ปัจจุบัน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และกระทรวงมหาดไทย รวม 85,000 ราย ก็ยังมีโอกาสขยายฐานผู้ใช้บริการในหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนอีก และที่ยังให้ความสำคัญและความจำเป็นของการพัฒนาโครงข่ายวิทยุคมนาคมของประเทศในการประสานงานระหว่างส่วนกลางไปยังส่วนภูมิภาค และท้องถิ่นโดยเฉพาะในยามที่มีภัยพิบัติ หรือเหตุฉุกเฉิน และยังมีการต่อใบอนุญาตคลื่น 800 ของบมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT)
ส่วนบริการ MU Tech อยู่ระหว่างหาทุนผ่าน Venture Capital (VC) ได้โรดโชว์ไป 2 แห่งแล้ว ที่ค่ายมือถือ และบุคคลธรรมดา โดยบริษัทต้องการหาผู้ร่วมทุนที่เป็นผู้ให้บริการค่ายมือถือ เพราะมองว่ายังสามารถที่จะ Synergy และกระจายฐานลูกค้าได้ อีกทั้งธุรกิจมีเดีย หรือแบงก์ ทั้งนี้บริษัทต้องการระดมทุนจำนวน 100 ล้านบาท คาดว่าจะสรุปหาผู้ร่วมทุนได้ในเดือนก.พ.ปี66
ธุรกิจด้าน MU Tech ก็ยังมีการให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นจำนวน 2 แอพนั้น มี Horoworld ซึ่งเป็นบริการดูดวงสดออนไลน์ ดูโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย และฤกษ์มงคลต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดถึง 30,000 ราย และ Thai Merit Application บริการใหม่สำหรับสายบุญทั้งในและต่างประเทศ เพิ่งเริ่มเปิดตัวนั้น มีเป้าหมายรายได้ถึงสิ้นปีนี้จะมียอดดาวน์โหลดทั้งสองแอพ จำนวน 100,000 ราย
นายวัฒน์ชัย ยังอีกกล่าวว่า บริษัทเตรียมนำหุ้นบมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยจะยื่นไฟลิ่งในเดือน มี.ค. 66 และคาดเข้า SET ได้ในไตรมาส 3 ปี266 โดยจะนำหุ้นเพิ่มทุน (10%) และหุ้นเดิมของ SAMART (15%) เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) โดยมีทุนจดทะเบียน 320 ล้านบาท ราคาพาร์ 0.50 บาท โดยหลังจากขายหุ้น IPO นั้น SAMART จะลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 70% จากปัจจุบัน 100% โดยมี บล.เอเชีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน จากที่ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ระงับการเข้าตลาดหุ้นไปเมิ่อปี 63 เนื่องจากเกิดสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโลนา หรือโควิด
บริษัท SAV ถือหุ้น 100% ในบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด (CATS) ที่ดำเนินุธุรกิจทางด้านศูนย์ให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศที่ครอบคลุมทั่วน่านฟ้าของประเทศกัมพูชา ปัจจุบันธุรกิจกลับมามีกำไรเพิ่มขึ้น 50-60% ก่อนการเกิดโควิด (ในปี 62) ที่ผ่านมาทำให้มีกำไรสูงสุด 600 ล้านบาท โดยในเดือนก.ย.65 มีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าเป็นเกือบ 7,000 เที่ยวบินจาก ก.ย.64 ส่วนหนึ่งมาจากเที่ยวบินที่ผ่านน่านฟ้ากัมพูชาหรือไปยังฝั่งแปซิฟิค บินไปยังเวียดนาม ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น โดยในงวด 9 เดือนปี 65 มีจำนวนเที่ยวบิน 44,200 เที่ยวบิน เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติมีเที่ยวบินที่ 100,000 เที่ยวบิน/ปี โดยในปี 66 คาดว่าธุรกิจจะกลับมาเพิ่มขึ้น 80% และเต็มจำนวน 100% เต็มในปี2567
นอกจากนี้ บริษัท CATS ได้รับการต่ออายุสัมปทานเพิ่มขึ้นอีก 10 ปี หรือสิ้นสุดในปี 2594 ซึ่งยังเหลืออายุสัมปทานอีก 29 ปี โดยรัฐบาลกัมพูชามีแผนที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อาทิ นโยบายส่งเสริมการค้าและการลงทุนร่วมกับจีน นโยบายส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวกับเวียดนาม ลาว อินโดนีเซีย เกาหลี และอื่นๆ และการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Asian Tourism Forum ในเดือน ม.ค.66 มีการเตรียมความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและนักธุรกิจจากทั่วโลก