- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Saturday, 25 June 2022 16:17
- Hits: 5052
SAWAD – BFIT ผู้ถือหุ้นไฟเขียวควบรวมกิจการ SCAP ลุยธุรกิจสินเชื่อรายย่อย รองรับดีมานด์พุ่ง
ผู้ถือหุ้น SAWAD และ BFIT ลงมติอนุมัติการควบรวมกิจการของ บง.ศรีสวัสดิ์ (BFIT) ผ่านธุรกรรม ซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดใน บ.ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล (SCAP) พร้อมคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุน เตรียมลุยธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเต็มตัว ด้านผู้บริหารมั่นใจการปรับโครงสร้างองค์กรหนุนการเติบโตระยะยาว หลังพบอุปสงค์สินเชื่อขยายตัวในอัตราเร่ง สอดรับสถานการณ์เศรษฐกิจฟื้นตัว
ธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท และ บมจ. เงินทุน ศรีสวัสดิ์ (BFIT) ได้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ BFIT นั้น ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติการคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนของ BFIT อนุมัติการเข้าทำธุรกรรมการซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดในบริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด (SCAP) และอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เพื่อชำระเป็นค่าตอบแทนสำหรับธุรกรรมการซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดใน SCAP ตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มบริษัท ทั้งนี้การคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุน สืบเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและข้อกำหนดในการดำเนินงานซึ่งทำให้กลุ่มบริษัทต้องชะลอการปล่อยสินเชื่อและมีความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อเป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อนโยบายการดำเนินธุรกิจในอนาคตของกลุ่มบริษัทที่อาจไม่คล่องตัว ดังนั้นเมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติเรื่องดังกล่าวแล้ว กลุ่มบริษัทจึงมีแผนงานในการประกอบธุรกิจใหม่ในด้านบริการสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อส่วนบุคคลแทนซึ่งมีความคล่องตัวในการดำเนินงานมากกว่า โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการตามแผนงานได้ภายในไตรมาส 3 ปี 2565 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการได้รับอนุญาตจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
“หลังจากการอนุมัติของผู้ถือหุ้นในครั้งนี้แล้ว บริษัทเตรียมเดินหน้าเพื่อทำธุรกรรมการแลกหุ้น โดยจะเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BFIT จำนวน 487 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 24 บาท ซึ่งเป็นการจัดสรรหุ้นให้แก่บุคคลในวงจำกัด หรือ Private Placement เพื่อเป็นค่าตอบแทนสำหรับการจำหน่ายหุ้น SCAP ที่บริษัทถืออยู่จำนวน 39 ล้านหุ้นให้กับ BFIT แทนการชำระด้วยเงินสด รวมมูลค่ารายการเท่ากับ 11,700 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่ายุติธรรมของทั้งสองกิจการ ทำให้ BFIT และบริษัทไม่มีภาระในการจัดหาเงินทุนเพื่อเข้าทำรายการ โดยบริษัทยังคงได้ประโยชน์จากการถือหุ้นใน SCAP ตามสัดส่วนที่เหมาะสม ส่วนทางด้าน BFIT จะได้ประโยชน์จากฐานทุนที่มีการปล่อยสินเชื่อที่มีโอกาสเติบโตสูง โครงสร้างการถือหุ้นและธุรกิจของกลุ่มบริษัทจะเกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยลดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของกลุ่มบริษัทได้ในอนาคต ทำให้กลุ่มบริษัทเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น” ธิดา กล่าว
วิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ BFIT ได้รับอนุญาตการคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนจากธนาคารแห่งประเทศไทย คู่สัญญาที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะดำเนินการทำธุรกรรมการซื้อหุ้นของ SCAP และบริษัทมีแผนโอนกิจการทั้งหมดของ SCAP แบบ Entire Business Transfer (EBT) ให้กับ บมจ. เงินทุน ศรีสวัสดิ์ (BFIT) รวมถึง BFIT จะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) โดยมุ่งประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีประวัติและความมั่นคงทางการเงิน และธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อเต็มรูปแบบโดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่มุ่งเน้นลูกค้าที่ต้องการซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ด้วยรถจักรยานยนต์หลากหลายประเภทและยี่ห้อ มีระยะเวลาการให้สินเชื่อตั้งแต่ 12-60 งวด ผ่านดีลเลอร์ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจทั่วประเทศ
“จากแนวโน้มตลาดสินเชื่อในปีนี้ยังพบว่าสินเชื่อภาคครัวเรือนยังคงเติบโตขึ้นในทุกประเภท จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลยังมีโอกาสในการเติบโตอย่างมาก สำหรับบริษัทมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตตามเทรนด์เช่นกัน ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ยังคงมีการเติบโตสูง จากความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพของลูกค้า ทำให้สินเชื่อเติบโตเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง ซึ่งเราคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้ เพื่อให้บริษัทเข้าใกล้เป้าหมายหลักในการเป็นผู้ให้บริการสินเชื่ออันดับต้นๆ ของประเทศ ฉะนั้นการปรับโครงสร้างครั้งนี้ ผมเองมองว่า SCAP ในฐานะบริษัทลูกจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของ SAWAD ได้เป็นอย่างดี” วิชิต กล่าวทิ้งท้าย
A6792